• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

ยาแก้ปวดเมื่อยตำรับพื้นบ้าน

ยาแก้ปวดเมื่อยตำรับพื้นบ้าน


ปัจจุบันนี้เรามักจะได้ยินหรือได้ฟังบ่อยๆว่า กินยาชุดตายผ่อนส่งทั้งในหน้าหนังสือพิมพ์ หรือจากวิทยุกระจายเสียง หรือคำให้สัมภาษณ์ในบุคคลของรัฐบาล กล่าวกันว่า มียาฝรั่งหลายชนิดที่ร้านขายยาบางร้านจัดยาเป็นชุดมักมียาอันตรายชื่อ เพรดนิโซโลน หรือ เดกซ่าเมธาโซน หรือยาพวกเดียวกันนี้ผสมอยู่ด้วย ยาเหล่านี้เป็นยาแก้ปวดเมื่อยแก้โรคผิวหนังได้เป็นอย่างดี แต่ต้องมีกำหนดขนาด เวลากินอย่างเคร่งครัดตามหมอสั่ง มิฉะนั้นจะเกิดโทษอย่างร้ายแรง

อันตรายที่จะได้รับ เช่น กินแล้วกัดกระเพาะลำไส้ให้ทะลุ ทำให้กระดูกผุ ใบหน้าบวมฉุกลมเกิดโรคแทรกซ้อนหลายอย่างเช่น โรคเบาหวาน โรคไต โรคหัวใจ และความดันโลหิตสูงฯลฯ ถึงผู้เขียนไม่เข้าใจยาฝรั่งแต่ก็สลดใจ ทำไมหนอ ยาฝรั่งนี่พิษจึงร้ายเสียจริงๆ ยาไทยของเก่าเป็นได้ทั้งอาหาร เป็นได้ทั้งยา ถ้าเป็นต้นไม้ ปลูกไว้ดูเล่นก็ได้ คุณภาพของยาไทยสุขุมไม่รุนแรง ใช้ระยะยาวจึงจะเห็นผล ยาฝรั่งรู้ผลเร็ว แต่อันตรายก็มีมาก

เรื่องยาชุดที่มียาอันตรายนั้น ถึงแม้ทางการมิได้ละเว้น คาดโทษร้านขายยาว่า ถ้าพบว่าร้านขายยาร้านใดขายยาชุดเข้ายาประเภทดังกล่าวแล้ว จะเอาโทษหนัก อาจจะโดนฟ้องศาลทั้งปรับทั้งจำคุกเลยทีเดียว แต่ก็เท่านั้นเอง ยาที่มีพิษร้ายแรงนะห้ามผลิตห้ามขายมีไว้ในครอบครองห้ามเสพ ที่ไหนได้ประชากรกลายเป็นทาษยาประเภทนี้เสียมากมาย ตราบใดที่เอกชนยังผลิตยาที่ให้ผลกระดูกผุ ทะลุลำไส้ได้ ร้านขายยาก็ต้องมีขายจนได้ ถ้าเป็นเช่นนี้ รัฐก็น่าจะห้ามเอกชนผลิตและขายยาประเภทนี้เสีย ให้หน่วยงานของรัฐผลิตเองและขายให้กับโรงพยาบาล ขายให้นายแพทย์ในจำนวนกว่าแปดพันกว่าท่าน เพราะท่านรู้ซึ้งในเรื่องใช้ยาประเภทนี้ และท่านก็จะได้รับผิดชอบประชากรอีก 48 ล้านกว่าคน คนใดที่เป็นโรคที่ต้องใช้ยาประเภทนี้ แต่ก็ต้องควบคุมให้ดีๆ อย่าให้เหมือนยาคุมกำเนิดที่ล่องหนหายจากที่เก็บไปได้

พูดแล้วก็น่ากลุ้ม ฝ่ายประชาชนผู้ป่วยไข้กว่าไปโรงพยาบาลไปคลีนิคและร้านหมอหรูหราสมัยใหม่ที่มีชื่อว่าโพลีอะไรนั้น มันไม่สะดวกหลายประการเป็นเหตุให้ต้องลงเอยที่ยาชุด เช่น
1. ไปโรงพยาบาลนับตั้งแต่ขอบัตรตรวจโรค ไปนั่งรอตรวจนานแสนนาน อยากจะตรวจร่างกายหลายอย่างหมอก็บอกว่าไม่มีเวลาเอาโรคเดียวก่อน แล้วก้ออกใบสั่งยาก็ไปนั่งรอซื้อยาอีกที่หน้าห้องยา เป็นเวลานานครึ่งวัน ค่ายาก็มากและมากกว่าค่าแรงของผู้มีรายได้น้อยต่อวันเสียอีก ผู้ที่ทำงานรับจ้างหยุดไปหนึ่งวันก็เท่ากับขาดรายได้ของตัวเองและครอบครัวแล้ว
โถ...ถูกตัดค่าแรงไปแล้วครอบครัวคงยุ่งยากแน่ เมื่อเป็นเช่นนี้ก็หันไปหายาชุดจากร้านขายยาดีกว่าปะทะปะทังเพื่อให้ไปทำงานได้ ครอบครัวของตนจะได้ไม่เดือดร้อน
เรื่องความเดือดร้อนของปากท้องและครอบครัวมันเป็นเรื่องสำคัญ ก็ต้องลืมเรื่องตายผ่อนส่งไปก่อน

2.ไปคลินิกสะดวกสบายมากแต่ก็อีกนั้นแหละเพราะค่ารักษาแพงผู้มีรายได้น้อยก็ไม่ค่อยจะกล้าไปอีก ก็แวะไปพึ่งยาชุดอีกตามเคย

3.ไปร้านหรูหราที่ชื่อโพลีอะไรต่อมิอะไรนั้นก็ยิ่งสะดวกมาก จะตรวจร่างกายกี่โรคก็ได้ หมอยิ้มแย้มแจ่มใสแต่ต้องใช้เงินมาก
ผู้มีรายได้น้อยก็จนปัญญาตรงนี้เอง จึงต้องเข้าพึ่งยาชุดที่ร้านขายยาต่อไปอีก เรื่องตายผ่อนส่งด้วยยาชุดอันตรายที่ใช้รักษาเองก็เลยไม่มีสิ้นสุด หากผู้รับผิดชอบไม่หาทางแก้ไขยังให้มีการผลิตการขาย
อย่าง เช่นปัจจุบัน หมอโบราณขอฝากความคิดเห็นไว้กับผู้มีหน้าที่นี้ลองคิดดูบ้าง

ทีนี้หันมาพูดถึงยาไทย ท่านผู้ใดสนใจจะลองใช้ยาไทยแก้ปวดเมื่อยพื้นบ้านดูบ้างก็ได้
ยาแก้ปวดเมื่อยตำรับพื้นบ้าน

ตัวยา : รากแจง เถารางแดง หัวกระชาย แก่นตะโก หัวแห้วหมู เถาวัลย์เปรียง ลูกสมอไทย ใบมะค่าไก่ หนักสิ่งละ 15 กรัม, พริกไทย 1 หยิบมือ , ลูกมะตูมอ่อนหนัก 1 บาท , ฝักคูณ 3 ฝัก ,แก่นขี้เหล็ก แก่นแสมสาร แก่นแสมทะเล ลูกสมอไทย ลูกสมอพิเภก ลูกมะขามป้อม เถากำลังวัว เถลิง หนักสิ่งละ 15 กรัม

วิธีทำ : เติมน้ำท่วมยา ต้มเคี่ยวให้เหลือครึ่งหนึ่ง อุ่นให้เดือดทุกวัน กินมื้อละ 2-4 ช้อนวันละ 3 เวลาก่อนอาหารหรือเช้า – เย็น

สรรพคุณ : แก้กระษัย เส้นเอ็นตึง แก้ปวดเมื่อย แก้ท้องผูก

 

 

ข้อมูลสื่อ

46-013
นิตยสารหมอชาวบ้าน 46
กุมภาพันธ์ 2526
ประเสริฐ พรหมณี