• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

เด็กสิบเดือนถึงสิบเอ็ดเดือน



                              



สภาพปกติ

 

225.บาดเจ็บ
เด็กในเดือนนี้มักจะลื่นบ้าง หกล้มบ้าง เกือบทุกวัน และบาดเจ็บบ่อย ๆ ถ้าเด็กตกจากที่สูง เช่น ไม้ลื่นหรือชิงช้า แล้วศีรษะฟาดเข้ากับก้อนหินจนเลือดไหล ต้องใช้ผ้าพันแผลกดเอาไว้และรีบไปหาหมอ อย่ามัวเสียเวลากางตำราว่าจะทำอย่างไรดี
ถ้าส่วนที่ฟาดพื้นแค่หัวโน ไม่มีเลือดออก ให้ปล่อยทิ้งไว้อย่างนั้น และไม่ต้องทายา แต่ถ้าตกจากที่สูงเกินกว่าเมตรครึ่ง ถึงเด็กจะร้องจ้าทันทีที่ตกก็ควรพาไปหาหมอ ถ้าหากเป็นแผลถลอกมีเลือดซิบ ๆ ให้ล้างแผล ฟอกสบู่หรืออาจใช้แอลกฮอล์เช็ดบริเวณรอบ ๆ แผล ส่วนตรงที่เป็นแผล ใช้ยาแดงทาและไม่ต้องปิดพลาสเตอร์หรือผ้าพันแผลจะหายเร็วกว่า

ในกรณีที่จมูกไปชนของแข็งจนเลือดกำเดาออก ควรอุ้มไว้ดีกว่าให้นอนราบ คือให้ส่วนหัวของเด็กอยู่สูงกว่าหัวใจ เลือดจะหยุดง่าย เอาสำลีอุดจมูกข้างที่เลือดออกเอาไว้ และใช้ผ้าขนหนูเย็น ๆ วางไว้บนหัว แต่ถ้าเป็นกรณีที่ตกลงมาจากที่สูงกว่าเมตรครึ่งต้องพาไปให้หมอดูเช่นกัน
เด็กกำลังตั้งท่ายืนแล้วล้มลงและบริเวณใต้จมูกฟาดกับพื้น ปรากฏว่าฟันหน้ากระแทกริมฝีปากจนเป็นแผล กรณีนี้ปล่อยเอาไว้ได้ไม่เป็นไร แผลในปากมักจะหายง่าย ไม่ต้องเอายาแดงทาจะดีกว่าบางครั้ง เก้าอี้หัดเดินจะล้มคว่ำเด็กเอาหัวฟาดพื้น ถ้าเด็กร้องแล้วลุกขึ้นได้ทันทีก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าเด็กหมดสติ ให้จับนอนแล้วเอาหมอนน้ำแข็งวางที่ศีรษะ และรีบติดต่อหมอทันที ถึงแม้เด็กจะรู้สึกตัวหลังจากนั้น ต้องพยายามให้เด็กนอนเฉย ๆ สักพักหนึ่ง ถ้าหากเด็กถูกมีดโกนหรือเศษแก้วบาดที่นิ้ว เอาผ้าพันแผลกดแผลไว้และรับพาไปหาหมอ ถ้าเลือดหยุดภายใน 1-2 นาที ทาแผลด้วยยาแดงและใช้ผ้าพันเอาไว้ ไม่ควรใช้พลาสเตอร์ปิดแผลโดยตรง ไม่ควรทาด้วยยาหม่องหรือยาประเภทเดียวกันนี้





 

226.อ้วนเกินไป
เด็กที่กินเก่งมาตั้งแต่เกิดบางคนพอถึงช่วงวัน 10 เดือน จะอ้วนเอาอ้วนเอา ทั้งนี้เพราะเด็กกินอาหารเสริมทั้งข้าว ข้าวต้ม ปลา เนื้อ ฯลฯ มากขึ้นแต่ยังกินนมเท่าเดิม ไม่ได้ลดลงเลย
ระยะแรกที่เริ่มให้อาหารเสริมปริมาณน้อย ๆ คุณแม่จะให้เด็กดูดนมตาม เพราะปริมาณอาหารยังไม่เพียงพอ หลังจากนั้นก็ปฏิบัติเช่นนั้นเรื่อยมา เด็กบางคนกินข้าวตั้ง 2 ชาม ปลา 2 ชิ้น ไข่อีก 1 ฟอง แล้วยังตามด้วยนมอีก 1 ถ้วย (1 ขวด) ถ้าให้นมเพียงครึ่งขวดเด็กจะร้องเอาอีก พ่อแม่มักจะตามใจลูกเพราะคิดผิด ๆ ว่าเด็กยิ่งอ้วนยิ่งดี
เด็กที่ได้รับอาหารมากขนาดนี้สักระยะหนึ่งจะอ้วนขึ้นอ้วนขึ้น มีทฤษฏีอยู่ทฤษฏีกล่าวว่า จำนวนเซลล์ไขมันใต้ผิวหนังคนเราจะถูกสร้างขึ้นภายในขวบปีแรก ถ้าเด็กคนไหนอ้วนเกินไปตั้งแต่ก่อน 1 ขวบมักจะเป็นคนอ้วนง่ายไปตลอดชีวิต เด็กที่อ้วนเกินไปนั้นไม่ดีแน่ เพราะเด็กจะลุกจะนั่งจะออกกำลังได้ช้ากว่าคนอื่น เด็กธรรมดาเราไม่ต้องชั่งน้ำหนักบ่อยนัก แต่เด็กที่อ้วนเร็วผิดปกติควรชั่งน้ำหนักทุก 10 วัน แปลว่าอ้วนเร็วเกินไปต้องควบคุมอาหาร โดยลดนมหลังมืออาหรหรือเปลี่ยนไปให้น้ำผลไม้แทน

ถ้ำน้ำหนักเพิ่มเฉลี่ยเกินวันละ 30 กรัม นอกจากจะเปลี่ยนนมเป็นน้ำผลไม้แล้ว ต้องทบทวนดูว่าให้เด็กกินข้าวมากเกินไปหรือเปล่า ถ้ามื้อหนึ่ง ๆ ให้เกินกว่า 2 ถ้วย ต้องลดข้าวด้วย ถ้าเด็กร้องจะกินอีก เพิ่มเต้าหู้ให้ หรือให้กินผลไม้ เช่นมะละกอ หรือฟักทองต้มก่อนอาหาร และถึงแม้ว่าจะลดปริมาณนม ก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องงดนมหมดทุกมื้อ เด็กวัยนี้ควรกินนมวันละ 2 มื้อ มื้อละขวด ถ้าลดนมเหลือ 2 มื้อ แล้วน้ำหนักยังเพิ่มมากเกินไปให้ลดอาหารพวกแป้ง เช่น ข้าว ขนมปัง แต่กับข้าวยังให้เท่าเดิม เพราะอาหารพวกแป้งทำให้อ้วนมากกว่าพวกปลาหรือเนื้อ เมื่อพยายามลดอาหารด้วยวิธีต่าง ๆ ด้วยความยากลำบากเพราะเด็กกินจุ จนกระทั่งน้ำหนักเพิ่มเฉลี่ยลดลง เหลือประมาณ 15-10 กรัมต่อวัน ก็แปลว่าคุณแม่เก่งแล้ว

เด็กบางคนทั้ง ๆที่ไม่ได้กินอาหารอะไรมากมาย แต่น้ำหนักกลับเพิ่มเอา เพิ่มเอาก็มี อาจจะอ้วนเพราะน้ำก็ได้ ถ้าให้อาหารตามขนาดตัวอย่างของ ด.ช.เอ (หัวข้อ 215 การให้อาหารเด็ก) แต่เด็กยังอ้วนขึ้น อ้วนขึ้น ก็ไม่ควรลดอาหารให้น้อยลงไปกว่านั้น เพียงแต่ระวังเวลาปรุงอาหารต้องใช้น้ำตาลให้น้อยที่สุด และอาหารเนื้อหรือปลาต้องเลือกส่วนที่ไม่ค่อยมีมันให้

 

 

 



227. ท้องผูก
ก่อนหน้านี้ลูกของคุณเคยถ่ายอุจจาระทุกวัน แต่พออายุเกิน 10 เดือน มีอาการถ่ายยาก 2-3 วันถึงจะถ่ายครั้งหนึ่ง ให้ลองพิจารณาดูว่า อาหารที่ให้ไม่พอหรือเปล่า หรือให้อาหารเหลวเกิน ไปสำหรับเด็กวัยนี้หรือเปล่า ในกรณีที่อาหารที่ให้ไม่พอ น้ำหนักจะเพิ่มน้อย ถ้ำน้ำหนักเพิ่มเฉลี่ยวันละต่ำกว่า 5 กรัม ต้องพยายามให้ลูกกินมากกว่านี้ สำหรับเด็กวัยนี้ แทนที่จะเพิ่มนมให้ ควรเพิ่มขนมปังหรือข้าวมากขึ้นจะดีกว่า รวมทั้งกับข้าวพวกผัก ปลา เนื้อด้วย แต่ถ้าน้ำหนักเพิ่มเฉลี่ยวันละ 7-8 กรัม แล้วยังท้องผูก ให้คิดดูว่าอาหารที่ให้นั้นย่อยง่ายไปหรือเปล่า ควรเพิ่มอาหารพวกที่มีเส้นใยให้มากขึ้น ผักบุ้ง ผักตำลึง กะหล่ำปลี หอมใหญ่ ต้มให้กินบ้าง หรืออาจจะให้ของที่ไม่ย่อย เพื่อกระตุ้นลำไส้ เช่น เอาเมล็ดถั่วลันเตาต้มบดให้ เป็นต้น คุณแม่อาจจะเพิ่มผลไม้ให้ก็ได้ ถ้าหากไม่เคยให้ลูกกินโยเกิร์ตเลย ลองให้โยเกิร์ตแทนนม ถ้าเด็กชอบกินขนมปังทาแยม ลองทาแยมสับปะรดดู (เวลาซื้อแยมเลือกที่ไม่ใส่สี) เด็กที่ไม่อ้วนเกินไป ลองทาเนยบนขนมปังให้หนาอีกหน่อยก็ได้

ถ้าอาการท้องผูกมิใช่เพิ่งจะมาเป็น แต่เป็นมาตลอดอายุ 1-2 เดือน และได้ลองสารพัดวิธีดังที่เขียนไว้ข้างต้นนี้แล้ว เด็กก็ยังถ่าย 2-3 วันครั้งอยู่ดี ก็พิจารณาว่าอาการท้องผูกเป็นปฏิปักษ์ต่อชีวิตประจำวันของลูกคุณสักแค่ไหน ถ้าอุจจาระแข็งเล็กน้อย เวลาถ่ายบางครั้งจะมีเลือดติดมาบ้างนิดหน่อย แต่เด็กจะถ่ายเองโดยธรรมชาติทุก 3 วัน และถ้าไม่มีปัญหาต่อเด็กก็น่าจะปล่อยไปตามเรื่อง คนเราไม่จำเป็นต้องถ่ายอุจจาระทุกวัน คิดเสียว่าลูกคุณเป็นคนประเภทถ่าย 3 วันครั้งก็แล้วกัน และในความเป็นจริง มีเด็กเป็นจำนวนมากซึ่งมีนิสัยถ่าย 3 วันต่อครั้ง ตั้งแต่วัยทารกถึงชั้นประถมโดยที่ไม่มีอะไรผิดปกติเลย
ไม่ควรให้ลูกกินยาถ่ายเป็นประจำ เพราะผนังลำไส้ใหญ่อาจจะเคยชินกับฤทธิ์ยาก็ได้ ถ้าหากเด็กเคยเจ็บมากจนร้องไห้ตอนถ่ายไม่ออกและเกิดกลัวจับใจจนไม่ยอมอึ อาจจะต้องใช้วิธีเหน็บกันด้วยแท่งกลีเซอรีนหรือสวนทวารช่วยสักระยะหนึ่ง
คุณแม่ต้องลืมว่า การออกกำลังกายตามสมควรเป็นการช่วยกระตุ้นการทำงานของลำไส้ด้วย ต้องให้ลูกได้มีโอกาสออกกำลังกายทุกวัน
 

ข้อมูลสื่อ

63-011
นิตยสารหมอชาวบ้าน 63
กรกฎาคม 2527