• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

เด็กแปดเดือนถึงเก้าเดือน การเลี้ยงดู

192. ควรนอนด้วยกันหรือไม่
เมื่อเด็กวัย 8-9 เดือนควรแยกนอนคนละห้องกับพ่อแม่ได้แล้ว หรือยังควรนอนด้วยกันนั้น ขึ้นอยู่กับความสะดวกของแต่ละบ้าน ตามประเพณีฝรั่ง เด็กอายุเกิน 3 เดือน พ่อแม่จะให้นอนแยกอยู่อีกห้องหนึ่ง เพราะคิดว่าการนอนด้วยกันนั้น ขัดขวางวิถีชีวิตของพ่อแม่

อย่างไรก็ตาม เราไม่จำเป็นต้องเอาอย่างฝรั่งโดยไม่คำนึงถึงสภาพแวดล้อมของเรา ถ้าสภาพที่อาศัยไม่อำนวย เช่น ไม่มีห้องว่างพอที่จะให้เด็กนอนแยกอยู่อีกห้องหนึ่งก็จำเป็นต้องให้นอนห้องเดียวกันอยู่ดี บางบ้านก็ให้นอนห้องเดียวกัน แต่แยกเตียง บางบ้านก็จำเป็นต้องให้นอนบนเตียงหรือในมุ้งเดียวกัน เพราะกลางคืนลูกร้องบ่อยๆ ถ้านอนแยกกันคุณแม่ต้องลุกขึ้นไปดูทุกครั้ง บ่อยๆเข้าในที่สุด คุณแม่ก็คงยกที่นอนลูกมานอนด้วยกัน การนอนด้วยกันในวัยนี้ไม่เห็นจะมีปัญหาอะไร พอเด็กโตขึ้น ไม่ว่าเรื่องนอนกับพ่อแม่หรือเรื่องดูดนมแม่กลางดึก เด็กจะเลิกไปได้เองตามธรรมชาติ

เวลาเด็กตื่นขึ้นร้องตอนกลางคืน ควรพยายามทำให้เด็กนอนต่อโดยเร็ว ไม่วาจะโดยการเอานอนด้วยหรือให้ดูดนมแม่ อย่าลุกขึ้นมาเล่นด้วยทั้งคุณพ่อคุณแม่เพื่อให้เด็กหยุดร้อง เพราะเด็กจะติดเป็นนิสัยแล้วคุณพ่อคุณแม่นั่นแหละจะร้องไม่ออกภายหลัง

193 เลี้ยงลูกให้แข็งแรง
เด็กวัยนี้จะนั่งได้แล้ว คลานได้แล้ว แต่มีเด็กบางคนที่ไม่คลานเลยก็มี เด็กบางคนก็ยืนได้ เกาะเดินได้ เด็กที่ยังยืนไม่ได้ คุณแม่อาจเล่นกับลูกโดยช่วยฝึกให้ยืนขึ้น เด็กที่น้ำหนักตัวมากเกินไป เช่น อายุ 8 เดือน น้ำหนักตัวเกิน 10 กิโลกรัม และเพิ่มเฉลี่ยวันละเกินกว่า 15 กรัมนั้น ควรควบคุมอาหารไม่ให้นมเกินวันละ 1 ลิตร หรือให้ผลไม้ก่อนมืออาหาร และลดปริมาณข้าวลงบ้าง

การฝึกให้ลูกยืนหรือก้าวเดิน อาจใช้มือจับแม่โดยตรงแล้วคุณแม่ก็ช่วยดึงให้เด็กก้าวมาข้างหน้า กรฝึกแบบนี้ทำได้วันละ 2 ครั้ง ครั้งละไม่เกิน 5 นาที การฝึกระยะสั้นๆ เท่านี้จะไม่ทำให้เด็กขางอแต่อย่างใด เวลาฝึกควรฝึกนอกบ้านช่วงที่อากาศดีๆ และคุณแม่ควรสนุกไปด้วย ไม่ใช่ฝึกตามหน้าที่เหมือนอย่างครูพละ เด็กคนไหนที่พอจะลุกขึ้นยืนได้เองถ้าคนรอบด้านรองว่า "ตั้งไข่ๆ" เด็กจะสนุก ถึงล้มก็จะพยายามลุกขึ้นมาอีก

การเล่นในบ้าน ไม่ควรให้เด็กนั่งเล่นของเล่นอยู่ในเตียง หรือในกรง เด็กจะบอเล่นของเล่นใหญ่ๆ เช่น ให้เด็กปีนกองที่นอนเล่นบ้าง ให้นั่งเล่นในกล่องกระดาษแข็ง แล้วเข็นให้ หรือลากวิ่งไปมาเด็กจะสนุกมาก

สภาพแวดล้อม

194. ป้องกันอุบัติเหตุ
วัยนี้เป็นวัยที่เด็กจะประสบอุบัติเหตุบ่อยที่สุดในชีวิต พอตั้งท่าจะลุกขึ้นยืนเกิดล้มลงบ้าง นั่งอยู่ดีๆ หงายหลังตึงบ้าง จะต้องเจ็บตรงโน้นตรงนี้เกือบทั้งวัน แต่ถ้าหากคุณแม่เก็บงำของเหลี่ยมๆ ของแข็งๆ ของเหลมคมจากบริเวณที่รอบๆ ที่อยู่ของเด็ก และป้องกันการตกระเบียง บันได โดยใช้ไม้กั้นเอาไว้ละก็ถึงจะเกิดอุบัติเหตุเล็กๆน้อยๆ ก็ไม่เกิดปัญหาใหญ่อะไร อุบัติเหตุใหญ่ต้องถึงหมอของเด็กวัยนี้สำคัญคือ อุบัติเหตุตกจากที่สูง อุบัติเหตุถูกของร้อน ถูกไฟดูดและอุบัติเหติกลืนของแปลกปลอมเข้าไป

ถึงแม้คุณแม่จะกั้นบันไดเอาไว้เรียบร้อยแล้ว แต่บังเอิญใกล้ๆ นั้นมีกล่องกระดาษแข็ง ปรากฏว่าเด็กปีนกล่องกระดาษแข็ง แล้วชะโงกข้ามที่กั้นบันไดตกลงมาก็มี

เด็กบางคนถึงผ้าปูโต๊ะอาหารแล้วลากกาน้ำร้อน น้ำยา บนโต๊ะตกโครมลงมาลวกเอาก็มี
บางครั้งเด็กจะเปิดลิ้นชักโต๊ะ ตู้ หยิบเอายาเม็ด บุหรี่ หรือของมีคมมากัดเล่น คุณแม่ตามเก็บของในบ้านแทบไม่ทัน

เครื่อใช้ในบ้านสมัยนี้ มักจะมีแต่ของเหลี่ยม ทั้งตู้เย็น ทีวี วิทยุ โต๊ะ เก้าอี้ ทางผู้ผลิตน่าจะผลิตของอะไรที่ไม่มีเหลี่ยม สำหรับบ้านที่มีเด็กเล็กบ้างก็จะดีหรอก

ห้องน้ำที่มีถังใส่น้ำอยู่ข้างใน ต้องปิดล๊อคเสมอ อย่างให้เด็กเข้าไปได้ เด็กอาจจะชะโงกดูจนหัวทิ่มตกลงไปจมน้ำตาย พวกน้ำยาล้างพื้น น้ำยาล้างท่อ ยาฆ่าแมลง ผงซักฟอก น้ำมันก๊าดที่วางไว้กับพื้น บริเวณที่เด็กคลานได้ ก็ต้องระวังเก็บไว้ในที่สูง

ถ้ารับทอดรถเข็นเด็ก หรือเตียงเด็กเก่ามาใช้ ควรตรวจดูพวกหมุด น็อต ให้เรียบร้อย เพราะอาจเกิดอุบัติเหตุได้อย่างคิดไม่ถึง

เวลาจะช่วยให้เด็กลุกขึ้นยืน หรือช่วยจูงเดิน ห้ามจับแขนเด็กข้างเดียว ต้องจับทั้งสองข้าง เพราะถ้าจับข้างเดียวเวลาเด็กล้มอาจพลาด ทำให้หัวไหล่หลุด หรือเคล็ดขัดยอกได้

ต้องห้ามไม่ให้เด็กอมช้อนส้อมขณะเล่น เพราะถ้าติดเป็นนิสัยแล้ว เกิดหกล้มขณะที่ช้อนหรือส้อมอยู่ในปาก จะบาดเจ็บ

ไม่ควรใช้เก้าอี้หัดเดินบนพื้นล่น เพราะล้อหมุนเร็วเกินไป และสะดุดอะไรพลิกคว่ำได้

195. ของเล่น
ของเล่นของเด็กวัยนี้ มักเก็บเรียบร้อยอยู่ในกล่อง แต่เด็กจะเที่ยวหาของใช้ต่างๆ มาเล่นเอง เช่น เอาลูกคิดมาเขย่าเล่น หรือเอาช้อนเคาะชามบรรเลงเพลงเองบ้าง เด็กวัยนี้ชอบของที่เคาะและเกิดเสียง  (เช่น กลอง ระนาด เปียโน ) อาจเป็นเพราะเด็กใช้มือได้อย่างอิสระแล้วก็ได้

เด็กที่ชอบดนตรี พอเปิดเพลงให้ฟังจะชอบใจ และคงแสดงอาการอยากให้เปิดเพลงให้ฟังด้วย
ของเล่นที่จะช่วยให้เด็กหัดคลานหรือเกาะเดิน คือพวกของเล่นที่หมุนลานแล้ววิ่งได้ เช่น รถยนต์ รถไฟ สัตว์ที่เดินได้ ฯลฯ ของเล่นที่ทำด้วยสังกะสี มักจะคุณภาพไม่ค่อยดี ต้องคอยตรวจดูไม่ให้มีส่วนแหลมคมบาดมือเด็ก

ถ้าเด็กใช้นิ้วมือได้คล่องแล้ว อาจให้เล่นพวกไม้บล็อกต่อๆ กันได้ ไม้บล็อกควรเป็นขนาดใหญ่หน่อยเด็กถึงจะเล่นได้สะดวก เด็กยังต่อเป็นรูปร่างต่างๆ เองไม่ได้ แต่ชอบเอามาเรียงกัน และชอบทำของที่คุณแม่ต่อให้ดูพังโครมลงมา

เวลาอาบน้ำ ถ้าเอาพวกสัตว์พลาสติก หรือยางที่ลอยน้ำได้ให้เล่นในอ่างเด็กจะชอบมาก

196. ภูมิอากาศ
ตอนเข้าหน้าร้อน เด็กบางคนเบื่ออาหารกินอาหารได้น้อยลงแม้แต่นมก็ไม่ค่อยยอมกิน แต่ถ้าหากเด็กยังแข็งแรงร่าเริงดีก็ไม่เป็นไร อาจให้กินนมเย็นๆ หรือให้ไอศกรีมบ้างก็ได้

เด็กบางคนเหงื่ออกมากตอนนอนจนเปียกชุ่มไปหมดเรื่องเหงื่อน้อยเหงื่อมากนั้น เป็นลักษณะเฉพาะตัว ถ้าเหงื่อออกมาจนเปียก ควรเปลี่ยนชุดนอนให้ใหม่ เด็กที่นอนที่นอนยาง หรือพลาสติกควรเอาผ้าเช็ดตัวปูที่นอน เพราะจะช่วยซับเหงื่อได้บ้าง

เด็กมักไม่ชอบนอนห่มผ้า ถึงจะห่มให้ก็เตะออกหมดก่อนคุณแม่นอนตอนกลางดึก เอาผ้าขนหนูคลุมอกหน้าท้องให้ก็พอ และชุดนอนของเด็ก ถ้ามีกระดุมติดเสื้อกับกางเกงเข้าด้วยกัน เวลานอนดิ้นเสื้อไม่เปิดขึ้นมาก็จะดี
 

ข้อมูลสื่อ

52-005
นิตยสารหมอชาวบ้าน 52
สิงหาคม 2526