• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

ลักษณะของเด็ก เด็กเก้าเดือนถึงสิบเดือน

201. ลักษณะของเด็ก 9-10 เดือน
เด็กที่อายุเกิน 9 เดือนแล้ว จะเล่นอยู่คนเดียวได้นานขึ้นเป็นเพราะเด็กเริ่มจะมีความเป็นตัวของตัวเอง ในฐานะคนคนหนึ่งและสนใจสภาวะแวดล้อมรอบกายอย่างลึกซึ้งขึ้น ดังนั้นจึงทำอะไรได้นาน เล่นของเล่นนานขึ้นโดยไม่เบื่อ นอกจากของเล่นแล้วเด็กยังสนใจเล่นกับของใช้ เช่น ที่เขี่ยบุหรี่ ขวดใส่เครื่องสำอาง ช้อน ชาม มือจับลิ้นชัก ปลั๊กไฟ สวิทช์ ฯลฯ เด็กจะเล่นของต่างๆ ด้วยความอยากรู้อยากเห็น

ทางด้านร่างกายของเด็กเอง เด็กจะนั่งอยู่คนเดียวได้นานมือมีแรงจับของได้ดีขึ้น และขยับปลายนิ้วได้อิสระขึ้น เด็ก 9 เดือนนี้ส่วนใหญ่จะนั่งเล่นคนเดียวได้แล้ว แต่ระดับความสามารถในการเคลื่อนไหวจะแตกต่างกันมาก เด็กบางคนที่เดินได้เร็วมากก็เดินได้แล้วในวัยนี้ บางคนเกาะเดินได้ บางคนเกาะยืนแล้วปล่อยมือตั้งไข่ได้เดี๋ยวหนึ่ง บางคนไม่สนใจยืนเลยแต่ชอบคลาน บางคนใช้วิธีนั่งถัดเอาก็มี
เด็กจะชอบจับตามองว่าผู้ใหญ่ทำอะไรและเลียนแบบได้ แต่ขึ้นอยู่กับว่าเราจะสอนแกแค่ไหน บ้านที่มีปู่ย่าหรือตายายอยู่ด้วยและขยันสอนเด็กเลียนแบบ เช่น ให้โบกมือบ๋ายบาย ปิดตาจ๊ะเอ๋ หรือบางคนอาจก้าวหน้าถึงปิดปากจุ๊บด้วย แต่ถ้าเด็กอยู่กับพ่อแม่ซึ่งคิดว่าไม่มีประโยชน์ที่จะสอนให้เด็กทำอย่างนั้น เด็กก็จะไม่ทำ

เด็กวัยนี้ชักจะเล่นซนแบบอันตรายโดยไม่ต้องมีใครมาสอน ถ้าคุณแม่เผลอวางขวดน้ำปลาเอาไว้ เจ้าหนูอาจจะเปิดจุกออกเทเล่น หรือเอามาเขย่าๆ หยดน้ำปลาเล่น เห็นบุหรี่ก็เก็บมากิน กินยาแดง กินยาแก้ปวดหรือยาระงับประสาทที่ใครลืมวางเอาไว้ได้และชอบทำอะไรที่ผู้ใหญ่ไม่คาดคิดอยู่บ่อยๆ
เมื่อเด็กเคลื่อนไหวมากขึ้น อุบัติเหตุตากจากที่สูงก็เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว คงไม่มีเด็กคนไหนในวัยนี้ที่ไม่เคยตกจากที่สูงเลย

ความแตกต่างระหว่างเด็กแอ๊คทีฟ (อยู่ไม่สุข) กับเด็กเฉยๆ จะยิ่งเห็นได้ชัดเจนขึ้น เด็กแอ๊คทีฟจะไม่ยอมอยู่เฉยๆ แม้แต่นาทีเดียวตั้งแต่เด็กลืมตาตื่นจนถึงเวลานอน ตื่นขึ้นมาเมื่อไหร่เป็นต้องเขยาไม้กั้นเตียง พอเอาลงพื้นปั๊บจะคลานปร๊าดไปยังของเล่นอะไรก็ตามที่ตนสนใจทันที เวลากินจะไม่ยอมนั่งนิ่งๆ ในเก้าอี้ กินไปได้หน่อยเดียวจะ พยายามจะปีนลงเสียแล้ว เวลาอาบน้ำไม่ยอมอยู่เฉยๆ ให้อาบ จะเล่นกับสบู่หรือฟองน้ำให้ได้ อาบน้ำเสร็จก็ไม่ค่อยยอมให้ใส่เสื้อผ้า ชอบให้ตัวล่อนจ้อนอย่างอิสรเสรี เด็กแบบนี้กลางวันก็นอนน้อย และมักจะประสบอุบัติเหตุบ่อยๆ คุณแม่เจ้าหนูจอมซนทั้งหลายจะไม่ค่อยมีเวลาหายใจเต็มปอดเอาเสียเลย

ส่วนเด็กที่ชอบอยู่เฉยๆ นั้น มักจะนอนกลางวันนานๆ และเล่นอยู่คนเดียวได้นานๆ คุณแม่ของเด็กแบบนี้ จะมีเวลาเหลือพอที่จะประดิดประดอยทำอาหารให้ลูกอย่างประณีตได้

ระยะเวลานอนของเด็กนั้นจะแตกต่างกันมากระหว่างเด็กซนกับเด็กเฉย เด็กที่สนใจของทุกอย่างที่ขวางหน้าและเล่นโดยไม่ยอมเหนื่อยง่ายๆ จะสนุกอยู่กับการเล่น กว่าจะยอมนอนก็ดึก ในสมัยก่อนซึ่งผู้ใหญ่นอนแต่หัวค่ำตื่นแต่เช้า เด็กก็นอนตั้งแต่ทุ่มหนึ่งสองทุ่ม แต่ว่าสมัยนี้ ไม่ว่าบ้านไหนๆ จะนอนกันดึกเพราะดูทีวีบ้าง วีดิโอบ้าง เด็กมีเพื่อนเล่น จึงไม่ค่อยจะยอมนอน เด็กสมัยนี้จำนวนมากที่จะนอนก็ 3 ทุ่มไปแล้ว ถ้าเป็นเด็กแอ๊คทีฟและคุณพ่อจะกลับจากทำงานนั้นประมาณ 3 ทุ่มทุกวันล่ะก็ เด็กอาจตื่นเล่นกับพ่ออยู่ถึง 5 ทุ่มก็ไม่น่าจะผิดกติกาอะไร ถ้าคำนึงถึงความสัมพันธ์อันชื่นมื่นของครอบครัว เด็กจะนอน 5 ทุ่มและตื่น 9 โมงเช้าตามสไตล์เด็กสมัยใหม่

ถ้าเราจับให้เด็กนอนตั้งแต่หนึ่งทุ่มเพราะยึดมั่นในระบบนอนหัวค่ำตื่นแต่เช้าว่าเป็นสิ่งที่ดี คุณพ่อกลับจากทำงานตอน 3 ทุ่ม จะต้องย่องเหมือนแมวขโมยเข้าบ้าน จะคุณกับคุณแม่ก็ต้องกระซิบกระซาบ พอตกดึก พ่อแม่กำลังจะนอน ลูกกลับตื่นลุกขึ้นมาจะเล่น หรือร้องกวนหลายต่อหลายครั้งจนพ่อแม่อดนอน นอกจากนั้นเด็กที่นอนแต่หัวค่ำ มักจะตื่นเช้ามืดในขณะที่พ่อแม่กำลังหลับสนิท เล่นเอาพ่อแม่โมโหตวาดลูกเอาก็มี แถมตอนกลางวันพ่อยังต้องไปทำงาน นั่งสัปหงกในที่ทำงานจนเสียงานอีก แบบนี้ไม่รู่ว่าจะเป็นครอบครัวกันไปทำไม ความคิดที่ว่าควรนอนหัวค่ำตื่นเช้านั้น มักจะไม่เหมาะกับสังคมสมัยใหม่เสียแล้ว แต่ถ้าเป็นสังคมชนบท ซึ่งพ่อแม่ทำนา ต้องตื่นแต่เช้าแข่งกับตะวัน เด็กก็ควรจะได้รับการเลี้ยงดูให้เหมาะสมกับสภาพการทำงานของพ่อแม่

เมื่อเด็กตื่นขึ้นมากลางดึก คุณแม่จะต้องพยายามทำให้เด็กนอน โดยเร็วที่สุด ไม่ว่าจะใช้วิธีการอย่างไร ถ้าดูดนมแม่แล้วนอนใน 2-3 นาทีก็ให้ดูด ดีกว่าอุ้มร้องเพลงกล่อมอยู่ตั้งครึ่งชั่วโมง ถ้าเด็กฉี่เปียกแล้ว เปลี่ยนผ้าอ้อมให้จะร้องแต่อีกครึ่งชั่วโมงละก็ ปล่อยเอาไว้อย่างนั้นจนถึงเช้าค่อยเปลี่ยน แต่ถ้าไม่เปลี่ยนแล้วก้นแดง อาจใช้ผ้าอ้อมกระดาษซึ่งไม่เปียกเฉอะแฉะ (ในกรณีที่อากาศเย็น หรือนอนห้องแอร์ เพราะผ้าอ้อมกระดาษนั้นค่อนข้าอบ) หรือใช้ผ้าอ้อมปูเฉยๆ แบบสมัยก่อน ไม่ต้องนุ่งให้จะได้เปลี่ยนให้ได้อย่างรวดเร็ว เด็กยังไม่ทันตื่น แต่วิธีนี้ถ้าเป็นเด็กผู้ชายและนอนหงาย เด็กอาจจะยิงจรวดน้ำวิธีโค้งออกนอกเตียงไปเลย
 

ข้อมูลสื่อ

54-005
นิตยสารหมอชาวบ้าน 54
ตุลาคม 2526