• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

จะให้เป็นผู้หญิงก็โตไป จะให้เป็นผู้ชายก็เล็กไป เฮ้อ!


โธ่แม่! ไม่น่าให้หนูมาเลย
กะเทยเทียมเพศหญิงที่เกิดจากการกระตุ้นโดยฮอร์โมนเพศชายอีกกลุ่มหนึ่ง เกิดจากได้รับฮอร์โมนเพศชายจากแม่ ซึ่งอาจเกิดจากแม่ได้รับฮอร์โมนเพศชายเพื่อรักษาโรคหรือเพื่ออะไรก็แล้วแต่ หรือเกิดจากแม่มีความผิดปกติ มีการผลิตฮอร์โมนเพศชายภายในร่างกายมากกว่าปกติ

ตัวอย่างของผู้หญิงที่ได้รับฮอร์โมนเพศชาย ที่พบบ่อยที่สุดในบ้านเราน่าจะได้แก่ โรคไขกระดูกเสื่อม ฮอร์โมนเพศชายจะผ่านรกไปยังลูกทำให้ลูกผู้หญิงเป็นกะเทยเทียมเพศหญิงได้ มีคนพบว่าทารกเพศหญิงในครรภ์ไวต่อพิษฮอร์โมนเพศชายมาก แม่ได้รับฮอร์โมนเพศชายเพียงวันละ 3 มิลลิกรัม ก็อาจทำให้ลูกผู้หญิงในครรภ์เป็นกะเทยเทียมได้ (คนที่เป็นโรคกระดูกเสื่อมจะได้รับฮอร์โมนเพศชายวันละ 75 มิลลิกรัม)

ฮอร์โมนเพศหญิงกับฮอร์โมนเพศชายจริงๆ แล้วมันคล้ายๆกันนะครับ และ ร่างกายคนเราสามารถเปลี่ยนฮอร์โมนเพศชายกับฮอร์โมนเพศหญิงกลับไปกลับมาได้ด้วย เพราะฉะนั้นกะเทยเทียมเพศหญิงบางคนเกิดจากตอนอยู่ในท้องแม่ แม่ได้รับฮอร์โมนเพศหญิงครับ แล้วฮอร์โมนเพศหญิงถูกร่างกายแม่เปลี่ยนไปเป็นฮอร์โมนเพศชาย แล้วลูกในท้องได้รับไปอีกต่อหนึ่ง

                   

แม่บางคนเป็นเนื้องอกของรังไข่หรือของต่อมหมวกไต และเนื้องอกนั้นสร้างฮอร์โมนเพศชาย นอกจากแม่จะหนวดงอก ขนหน้าแข้งดำแล้ว ทารกในครรภ์ถ้าเป็นผู้หญิงก็จะกลายเป็นกะเทยเทียมไปด้วย

กะเทยเทียมเพศหญิงที่พบร่วมกับความผิดปกติแต่กำเนิดของลำไส้และกระเพาะ
พวกนี้พบน้อยครับ และไม่ทราบสาเหตุ แต่บางครั้งก็พบหลายๆ คนในครอบครัวเดียวกัน ทำให้สงสัยว่าความผิดปกตินี้ถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์

บางทีพบร่วมกับทวารหนักไม่ทะลุ ไตไม่เจริญ ท่อปัสสาวะปิดร่วมกับลำไส้ เป็นต้น
ขอย้ำอีกทีว่ากะเทยเทียมเพศหญิงกลุ่มนี้ไม่เกี่ยวกับฮอร์โมนเพศชายครับ
ก่อนจบขอกล่าวถึงวิวัฒนาการทางภาษาไทยเกี่ยวกับคำว่า “กะเทย” สักหน่อย ผมเขียนในหมอชาวบ้านฉบับที่ 31 ว่า
กะเทย ตามคำเรียกของชาวบ้านที่เราพบเห็นหรือคุ้นเคยกันที่สุด ก็คือผู้ชายที่แต่งตัวเป็นผู้หญิง หรือผู้หญิงที่แต่งตัวและพยายามทำท่าทางเป็นผู้ชาย แต่ในทางการแพทย์แล้วพวกนี้ไม่ใช่กะเทย เราเรียกว่า ลักเพศ

กะเทย ตามความหมายทางการแพทย์ หมายถึงคนที่มีอวัยวะของทั้งผู้หญิงและผู้ชายอยู่ในคนๆ เดียวกัน หรือมีอวัยวะเพศกึ่ง บอกไม่ได้ว่าเป็นเพศหญิงหรือเพศชาย หรือบางอวัยวะเป็นชายบางอวัยวะเป็นหญิง”

           

                

 

แต่เมื่อเปิดพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานพบว่า เวลานี้ราชบัณฑิตยอมรับความหมายของคำว่า กะเทย ตามความหมายของชาวบ้านทั่วไปแล้วครับ ราชบัณฑิตท่านให้ความหมายของคำว่า กะเทย ไว้ว่า “คนที่มีอวัยวะเพศทั้งชายและหญิง, คนที่มีจิตใจและกิริยาอาการตรงข้ามกับเพศของตนเอง.....” และให้ความหมายของ คำว่า ลักเพศ ไว้ว่า “ทำหรือแต่งตัวปลอมแปลงผิดไปจากเพศของตนเอง.....” คำว่า กะเทย เป็นคำนาม ส่วนลักเพศเป็นคำกริยา ดังนั้น ตามราชบัณฑิตยสถาน คำว่า กะเทย กับ คนลักเพศ จึงอาจใช้ในความหมายเดียวกันได้ แต่คำว่า กะเทย มีความหมายกว้างกว่า คือ เรื่องที่เล่ามาทั้งหมดนี้ เป็นเรื่องกะเทย แต่ไม่ใช่เรื่องคนลักเพศครับ

 

ข้อมูลสื่อ

58-011
นิตยสารหมอชาวบ้าน 58
กุมภาพันธ์ 2527
นพ. วิจารณ์ พานิช