• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

กะเทยก็เป็นกรรมพันธุ์ (ตอนที่ 1)


ที่จริงเรื่องกะเทยนี้ อาจารย์หมอ สุวัทนา อารีพรรค เคยเขียนลงใน “หมอชาวบ้าน” ฉบับเดือน สิงหาคม 2522 มาครั้งหนึ่งแล้ว ในชื่อเรื่อง “กะเทย ลักเพศ และรักร่วมเพศ” ซึ่งชาวบ้านมักจะเหมาเรียกปนๆ กันหมดว่า “กะเทย”

“กะเทย” ตามคำเรียกของชาวบ้านที่เราพบเห็นคุ้นเคย  กันที่สุด ก็คือ ผู้ชายที่แต่งตัวเป็นผู้หญิง หรือผู้หญิงที่แต่งตัวและพยายามทำท่าทางเป็นผู้ชาย แต่ในทางการแพทย์ พวกนี้ไม่ใช่ กะเทย เราเรียกว่า ลักเพศ คนลักเพศสมัยนี้ สังคมยอมรับมากขึ้น บางคนถึงกับเป็นคนโด่งดังในวงสังคม แต่จะขอผ่านเรื่องนี้ไปเล่าเรื่องกะเทยจริงๆ ดีกว่า

กะเทย ตามความหมายทางแพทย์ หมายถึง คนที่มีอวัยวะของทั้งผู้หญิงและผู้ชายอยู่ในคนๆ เดียวกัน หรือมีอวัยวะเพศแบบก่ำกึ่งบอกไม่ได้แน่ว่าเป็นผู้หญิงหรือชาย หรือบางอวัยวะเป็นชาย บางอวัยวะเป็นหญิง

ถ้ามีทั้งอวัยวะเพศหญิงและอวัยวะเพศชายอยู่ในคนๆ เดียวกัน เรียกว่า กะเทยแท้ แต่ถ้าอวัยวะเพศเป็นแบบครึ่งหญิงครึ่งชาย หรือบางอวัยวะเป็นหญิงบางอวัยวะเป็นชาย เรียกว่ากะเทยเทียม

เมื่อเอ่ยถึงกะเทยในคนหรือในสัตว์ ก็รู้สึกกันว่าเป็นของแปลก ที่จริงกะเทยมีอยู่ในธรรมชาติโดยรอบตัวเรา ก็ต้นไม้ไงล่ะครับ ต้นไม้แต่ละต้นมีทั้งเกษรตัวผู้และเกษรตัวเมีย อาจมีเกษรทั้งสองชนิดอยู่ในดอกเดียวกันด้วยซ้ำ การผสมพันธุ์ก็เกิดในต้นเดียวกันก็ได้ ข้ามต้นก็ได้ นอกจากนั้นสัตว์ช่ำต่ำที่เป็นกะเทยก็ยังมี เช่น ไส้เดือน หอยทาก ปลาบางชนิด ไส้เดือนแต่ละตัวมีทั้งอวัยวะเพศตัวผู้และตัวเมีย เวลาผสมพันธุ์ต้องผสมกับอีกตัวหนึ่ง โดยที่แต่ละตัวเป็นทั้งผัวทั้งเมียพร้อมๆ กันไป เสมอภาคกันดีแท้ คำว่า ไส้เดือน ในที่นี้หมายถึง ไส้เดือนดิน ส่วนพยาธิไส้เดือน ที่ปักหลักทำมาหากินอยู่ในลำไส้คน ไม่เป็นกะเทย มีตัวผู้ตัวเมีย


เล่าถึงพยาธิในท้องคนแล้ว ยังมีพยาธิที่เป็นกะเทยอยู่อีกชนิดหนึ่ง คือ พยาธิตัวตืด ที่ตัวมันยาวตั้งหลายเมตร และปล้องสุกหลุดออกมาทีละปล้องสองปล้องนั่นแหละ บางทีก็หลุดออกมากับอุจจาระ บางทีก็ออกมาทางก้นเฉยๆ รู้สึกคันและมีอะไรกระตุบกระตับอยู่ เอามือไปเกาก็ได้เส้นก๋วยเตี๋ยวเส้นสั้นๆ ติดมือมาเส้นหนึ่ง ดูไปดูมา เอ๊ะ ทำไมมันถึงกระดุกกระดิกได้ นั่นแหละครับ ปล้องของพยาธิตัวตืดที่มันสุกแล้วหลุดออกมา แต่ละปล้องเป็นกะเทย คือมีอวัยวะเพศหญิงและอวัยวะเพศชายอยู่ในปล้องเดียวกัน แต่ละปล้องมีไข่อยู่เต็มและผสมพันธุ์กันเองภายในแต่ละปล้อง เห็นไหมครับ ในธรรมชาติกะเทยไม่ใช่ของแปลก แต่ในมนุษย์กะเทยเป็นของแปลก


หวนกลับมาเรื่องกะเทยในคน กะเทยในคนแบ่งเป็นชนิดใหญ่ๆ 2 ชนิด คือ กะเทยแท้ กับ กะเทยเทียม ดังกล่าวแล้ว แต่ละชนิดยังแบ่งแยกเป็นชนิดย่อยออกไปอีกมากมาย กะเทยส่วนใหญ่เกิดจากความผิดปกติทางกรรมพันธุ์ ดังจะได้เล่าเรื่องของแต่ละชนิดต่อไปนี้
 

   


กะเทยแท้
( True hermaphrodite)
กะเทยแท้ หาดูได้ยากมาก ก็ขอสารภาพไว้เสียเลยว่า ผมเองก็ยังไม่เคยเห็นตัวจริงเหมือนกัน เคยแต่ได้ยินเขาเล่า หรืออ่านพบในหนังสือ ก็ทั่วโลกมีกล่าวถึงไว้เพียง 200 รายเท่านั้นเอง รายที่พิลึกพิลั่นที่สุดที่มีจารึกไว้เห็นจะเป็นทหารชาวอิตาลีชื่อ ดาเนียล เบิร์กแฮมเมอร์ คืนหนึ่งก่อนเข้านอน แกบ่นกับภรรยาว่าปวดท้องและมีอะไรก็ไม่รู้ดิ้นอยู่ในท้อง ต่อมาอีกหนึ่งชั่วโมง ก็คลอดลูกออกมาเป็นผู้หญิง เด็กปกติและแข็งแรงดี ทหารคนนี้สารภาพว่า ตนเองได้ปกปิดเป็นความลับตลอดมาว่าร่างกายของเขาซีกหนึ่งเป็นชาย อีกซีกหนึ่งเป็นผู้หญิง เขาแต่งงานกับภรรยามา 7 ปี และมีชีวิตสมรสตามปกติแต่ไม่มีลูก อวัยวะเพศชายของเขาปกติ เขาสารภาพว่า เคยมีความสัมพันธ์ทางเพศกับผู้ชายเพียงครั้งเดียวเท่านั้นก็ตั้งท้อง หลังจากคลอดลูกแล้ว เขาสามารถให้ลูกดูดนมได้จากเต้านมข้างขวา ซีกตัวข้างขวาของเขาเป็นผู้หญิง ซีกซ้ายเป็นผู้ชาย แต่อวัยวะเพศชายปกติ นี่ก็เป็นรายเดียวในโลกที่มีจารึกไว้เป็นหลักฐานถึงกะเทยแท้ที่มีลูกได้ และมันก็เกิดนานมาแล้วคือกว่า 300 ปี ตั้งแต่ปี ค.ศ.1601 โน่น ทหารคนนี้มีประวัติจารึกไว้ที่โบสถ์แห่งหนึ่งในประเทศอิตาลีว่า หย่าขาดจากภรรยาเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม ค.ศ. 1601


กะเทยแท้ที่รู้จักกันเป็นส่วนใหญ่เป็นหมัน มีอวัยวะเพศภายนอกก่ำกึ่ง แต่ก็มักจะดูคล้ายไปทางเพศใดเพศหนึ่ง ที่สำคัญคือมีทั้งอัณฑะและรังไข่ บางคนอาจมี รังไข่ (ovary) อยู่ข้างหนึ่งของตัว อีกข้างหนึ่งเป็น อัณฑะ (testis) หรือบางคนมีก้อนตรงตำแหน่งของรังไข่ ซึ่งเมื่อตัดมาศึกษาดูด้วยกล้องจุลทรรศน์แล้วพบว่าเป็นทั้ง เนื้อรังไข่และอัณฑะผสมกัน (ovotestis) บางคนอาจมีลักษณะของร่างกายภายนอกเป็นหญิงซีกหนึ่งอีกซีกหนึ่งเป็นชาย (อย่างรายทหารอิตาลีที่เล่าแล้ว) แม้แต่หนวดก็งอกเฉพาะซีกของร่างกายที่เป็นผู้ชาย


สำหรับกะเทยแท้นี้ยังไม่เคยได้ยินว่าสืบพันธุ์ผิดปกติมาจากพ่อหรือแม่ น่าจะเกิดจากความผิดปกติของการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์มากกว่า โดยที่ความผิดปกตินั้นอาจมีสาเหตุมาจากตัวกำหนดพันธุ์ (โครโมโซม) บางส่วนผิดปกติไปตอน ที่ทารกเจริญเติบโตอยู่ในท้องแม่ก็ได้ เพราะฉะนั้น ถ้าถามว่า กะเทยแท้เป็นกรรมพันธุ์หรือไม่ ก็ตอบให้เข้าใจได้ง่ายๆ ว่าไม่เป็นใครมีลูกหลาน ญาติโกโหติกาเป็นกะเทยแท้ ก็ไม่ต้องวิตกกังวลว่าลูกหลานคนต่อๆ ไปจะเป็นอีก เพราะว่าความผิดปกติไม่ได้ถ่ายทอดมาจากใครทั้งสิ้น มันเกิดขึ้นเองในเด็กคนนั้น แต่ถ้าถามว่ากะเทยแท้มีสาเหตุเกี่ยวข้องกับเชื้อพันธุ์ (ยีน) หรือไม่ ก็ต้องตอบว่าน่าจะเกี่ยว และความผิดปกติของเชื้อพันธุ์ น่าจะเกิดขึ้นในเด็กคนนั้นเอง ไม่ได้รับถ่ายทอดความผิดปกติมาจากพ่อแน่


(ต่อฉบับหน้าตอน “กะเทยเทียม”)

 

ข้อมูลสื่อ

31-012
นิตยสารหมอชาวบ้าน 31
พฤศจิกายน 2524
นพ. วิจารณ์ พานิช