แม้ขณะนี้ข่าวคราวและสถานการณ์ไข้หวัดใหญ่ 2009 ดูเหมือนจะเงียบไป แต่ไม่ได้หมายความว่า จำนวนผู้ป่วยจะลดน้อยลงหรือหมดไปด้วย อย่างที่รู้กันว่าไข้หวัดเป็นโรคที่เกิดขึ้นได้ทุกฤดูกาล ฉะนั้นเพื่อความไม่ประมาทจึงควรดูแลตัวเองอย่างสม่ำเสมอทั้งคนที่ป่วยและคนที่ยังไม่ป่วย
คำแนะนำ สำหรับประชาชนทั่วไป คือ
- ล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำ สบู่ หรือแอลกอฮอล์เจล
- ไม่ใช้สิ่งของร่วมกับผู้อื่น โดยเฉพาะของใช้ส่วนตัว เช่น แก้วน้ำ ช้อน ผ้าเช็ดมือ ฯลฯ
- ไม่คลุกคลีใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่มีอาการไข้หวัด
- หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่ที่ผู้คนแออัดและอากาศถ่ายเทไม่ดี
- กินอาหารที่มีประโยชน์ เน้นผัก ผลไม้ นม ไข่ และกินอาหารปรุงสุกใหม่ๆ ใช้ช้อนกลาง
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
- หมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
คำแนะนำ สำหรับผู้ป่วย
- ผู้ป่วยไข้หวัดทั้งไข้หวัดทั่วไป ไข้หวัดใหญ่ และไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ หากยังกินอาหารได้ ไข้ไม่สูง มีอาการไม่รุนแรง ให้รับการตรวจรักษาที่สถานพยาบาลทั่วไปใกล้บ้านได้ แต่หากเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ที่มีอาการรุนแรงควรรับการตรวจรักษาที่โรงพยาบาล
การดูแลรักษาตนเอง สำหรับผู้ป่วยไข้หวัด
- พักผ่อนให้เพียงพอ (วันละ 6-8 ชั่วโมง) ไม่นอนดึก
- ดื่มน้ำมากๆ
- ห้าม! กินยาแอสไพริน (หากเป็นไข้หรือปวดศีรษะให้กินยาพาราเซตามอล)
- หมั่นสังเกตอาการตนเอง หากอาเจียน ไอมาก กินอาหารไม่ได้ รู้สึกเหนื่อย หอบ เจ็บหน้าอก มีไข้สูง ปวดเมื่อย อาการไม่ดีขึ้นภายใน 2 วัน ควรพบแพทย์ทันที
การป้องกัน สำหรับผู้ป่วยไข้หวัด
- ใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้ง เมื่อต้องอยู่ร่วมกับผู้อื่น เพื่อป้องกันเชื้อที่สามารถแพร่กระจายจากการไอ จาม
- ล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่ หรือใช้แอลกอฮอล์เจลถูมือบ่อยๆ
- หยุดเรียนหรือหยุดทำงาน เมื่อรู้ตัวว่าป่วยควรพักผ่อนอยู่ที่บ้านจนกว่าจะหาย (ประมาณ ๓-๗ วัน)
- ใช้ผ้าหรือกระดาษทิชชูปิดปากและจมูกทุกครั้ง และทิ้งทิชชูในถังขยะที่มีฝาปิดให้เรียบร้อย
หากปฏิบัติได้เช่นนี้ คนที่ยังไม่ป่วยก็จะแข็งแรงต่อไป คนที่ป่วยจะหายป่วยเร็วขึ้น และถือเป็นความรับผิดชอบที่ผู้ป่วยพึงปฏิบัติ ทั้งต่อตนเองและผู้คนรอบข้าง
ข้อมูล : โรงพยาบาลศิริราช www.si.mahidol.ac.th<
- อ่าน 4,847 ครั้ง
พิมพ์หน้านี้