• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

คันรูทวารหนัก

คันรูทวารหนัก
ถาม : ลีลาวดี/ปทุมธานี
อาการคันที่รูทวาร หากไม่ใช่เพราะพยาธิเส้นด้าย น่าจะเป็นอะไรได้บ้าง
มีอาการคันที่รูทวารเป็นเวลานานแล้ว ซื้อยาฟูกาคาร์มากิน ก็ถ่ายตามปกติ แต่อาการคันที่รูทวารก็ยังไม่หาย มีอาการคันเป็นพักๆ ไม่ได้คันตลอดเวลา อยากทราบว่าจะเป็นเพราะสาเหตุอื่นได้หรือไม่

ตอบ : นพ.มาวิน วงศ์สายสุวรรณ
สาเหตุการคันรอบทวารหนักได้แก่
๑. โรคผิวหนัง เช่น โรคภูมิแพ้ หรือโรคเรื้อนกวาง
๒. สารบางอย่าง เช่น หัวเชื้อน้ำหอมบางอย่าง หรือสบู่บางชนิด หรือแม้กระทั่งอาหารที่กินเข้าไป ได้แก่  พวกเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์ น้ำอัดลม กาแฟ ชา นม อาหารเผ็ดๆ อาหารรสเปรี้ยว ยา เช่น โคลชิซีน (ใช้รักษาโรคเกาต์)  เตตราไซคลีน วิตามินซี  ผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว 
๓. เชื้อจุลชีพบางอย่าง เช่น เชื้อรา หรือแบคทีเรีย
๔. ปรสิต เช่น พยาธิ หิด (พยาธิ เช่น พยาธิ เข็มหมุด พยาธิเส้นด้าย)
๕. โรคประจำตัว ได้แก่ เบาหวาน โรคตับ หรือโรคเกี่ยวข้องกับทวารหนัก (เช่น มีติ่งเนื้อยื่น จากทวาร ฝีคัณทสูตร หรือแม้กระทั่งเนื้องอกบางอย่าง) 
๖. การรักษาความสะอาดมากเกินไป บางครั้งการทำความสะอาดหรือการชำระล้างด้วย   สบู่ หรือถูบ่อยก็ทำให้ผิวหนังบริเวณนั้นแห้งมากไปและคันได้ 
๗. การมีเหงื่อออกมากและอับชื้นตลอด
วลาเช่นบุคคลบางอาชีพ เช่น จ๊อกกี้ม้า หรือคนอ้วนมาก 
๘. ภาวะทางจิต 

การปฎิบัติตน
๑. สังเกตตัวเองว่ามีปัจจัยดังกล่าวหรือไม่และหลีกเลี่ยง 
๒. พยายามอย่าเกา ใส่เสื้อผ้าหลวมสบายๆ กางเกงในควรเป็นผ้าคอตตอนจะดีที่สุดครับ 
๓. หลีกเลี่ยงการอาบน้ำร้อนหรือ การล้างบริเวณนั้นบ่อยเกินไป อาจใช้ครีมที่ผสมมอยส์เจอไรเซอร์แทนการใช้สบู่ 
๔. ไม่ควรให้บริเวณนั้นเปียกชื้นตลอดเวลา อาจใช้แป้งเด็กทาก็ได้ 
๕. ถ่ายอุจจาระสม่ำเสมอ 
๖. หากใช้กระดาษชำระไม่ควรถูแรงเกิน อาจทำให้ผิวหนังถลอกเป็นแผลได้ 
๗. ไม่ควรใช้แป้งหอม หรือน้ำหอม บริเวณทวาร 
๘. หาสาเหตุอื่นๆ แล้วทำการรักษา เช่น พยาธิ เบาหวาน หรือริด-    สีดวง หรืออื่นๆ
๙. ถ้ายังไม่ดีขึ้นควรพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุต่อไป 

 


 

ข้อมูลสื่อ

343-014
นิตยสารหมอชาวบ้าน 343
พฤศจิกายน 2550
นพ.มาวิน วงศ์สายสุวรรณ