ดัดตน แก้ขัดแขน
พระโสณะสันโดษฐด้าว ดงดรึม
ภูตโขมตโฆษครหึม กู่ก้อง
ล้มไข้ขบเศียรซึม ยอกขัดแขนขา
ยกศอกขึ้นเข่าจ้อง จรดซ้ายเปลี่ยนขวา
(พระองค์จ้าวทินกร)
เมื่อวันที่ ๒๐ เมษายน ๒๕๔๘ ที่ผ่านมา ผมได้ไปร่วมประชุมทำหลักสูตรการนวดไทยให้กับสำนักมาตรฐานและประเมินผลอุดมศึกษาที่จังหวัดเชียงใหม่ และได้มีโอกาสไปดูการนวดแบบล้านนาของสำนักอาจารย์บุญชู จันทรบุตร ในอำเภอหางดง การรักษาแบบพื้นบ้านล้านนา คือมีเช็ดแหก ย่ำขาง เรียกขวัญ และตอกเส้น
อย่างอุปกรณ์เช็ดแหก เขาจะใช้ไม้ที่ต้นโดนฟ้าผ่าตายมาทำเป็นมีดไม้ มีเขี้ยวสัตว์ต่างๆ เช่น เขี้ยวเสือ เขี้ยวหมูป่า เป็นต้น ถ้าเป็นเขาสัตว์ เขาจะใช้เขาควายที่ชนกันแล้วหักออกมา หรือเขาควายที่ฟ้าผ่าตายมาทำพิธีการรักษาคนไข้ด้วยวิธีขูดบริเวณที่มีอาการของโรค
สำหรับวิธีย่ำขางคือ ใช้ฝ่าเท้าแตะน้ำมันสมุนไพรแล้วจึงแตะที่แผ่นเหล็กที่เผาร้อนจนแดงก่อนจึงค่อยมาเหยียบตามร่างกายตามแนวที่มีอาการของโรค
ผมได้ตกลงให้หมอทดลองวิธีตอกเส้นที่บ่าไหล่ให้ดู เครื่องมือตอกเส้นทำด้วยไม้เหมือนเครื่องมือช่างไม้คือ สิ่วกับค้อน เสร็จแล้วก็สบายดี อาจารย์บุญชูได้บอกกับคณะที่ได้ดูงานด้วยกันว่า ถ้าผู้ใดจะเรียนตอกเส้นต้องเรียนรู้จุดและเส้น ของหมอนวดไทยก่อนจะทำให้เรียนตอกเส้นง่ายขึ้น ผมและคณะได้เข้าสู่พิธีการเรียกขวัญ หมอที่ทำพิธีได้อ่านโองการมีเสียงทุ้ม เสียงต่ำ เสียงสูง เสียงแหลม ฟังแล้วเหมือนกับรักษาด้วยพลังเสียง สุดท้ายก็ผูกข้อมือทุกคนด้วยสายสิญจน์ในพิธี เป็นอันเสร็จพิธีเรียกขวัญ
วันที่สาม ก่อนจะบินกลับตอนเย็นอาจารย์ที่นั่น ได้พาไปดูการจัดกระดูกของพระจีน แต่เป็นคนไทยไป บวชเรียนมาจากพระไต้หวัน ไปถึงที่นั่นต้องนั่งรอ พักหนึ่งพระหมอจึงมาถึง อาจารย์ที่พาคณะผมไปได้นอนเป็นหุ่นให้พระหมอจัดกระดูกให้ ก่อนจะทำการรักษา พระหมอได้ตรวจอาการก่อน เสร็จแล้วก็ให้ พี่สาวของท่านนวดคลึงบริเวณหลังสักพักหนึ่ง แล้วพระหมอถึงจะทำการดัดกระดูกแบบไคโรแพร็กติก คนที่นั่นบอกว่าจะมีคนไปรับการรักษาแน่นทุกวัน และพี่สาวของพระหมอก็บอกว่าต้องใช้ผ้ามารัดเอวให้แน่น เพราะต้องนวดคลึงตั้งแต่เช้าถึงเย็น ทำให้มีอาการเมื่อยหลังมาก
ดูการรักษาเสร็จแล้วก็กลับมาสนามบินกันเพื่อรอกลับบ้าน อาจารย์ที่พาผมไปดูและได้รับการรักษา มาแล้วยังมีอาการปวดที่ไหล่อยู่นิดหน่อย ผมได้แนะนำให้เขาใช้ท่าบริหารแบบฤาษีดัดตนแก้ปวดไหล่ทุกวัน เพราะผมเคยแนะนำคนไข้ของผมหลายคนบริหารไหล่แล้วมีอาการดีขึ้น บางคนก็หายจากอาการปวดไหล่เลย ท่านี้ผมเคยเขียนลงในหนังสือนี้มาแล้ว คือ
- อ่าน 8,433 ครั้ง
- พิมพ์หน้านี้