• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

ต้อกระจก

ต้อกระจกคือโรคที่เกิดการเสื่อมหรือขุ่นของเลนส์ตามนุษย์ โดยมนุษย์ทุกคนต้องมีการเกิดต้อกระจกในที่สุด เพราะเป็นการเสื่อมตามธรรมชาติ อาจเร็วหรือช้า เช่น เด็กบางคนอาจเป็นโรคต้อกระจกมาแต่กำเนิด

โดยทั่วไปมักเริ่มมีอาการของโรคต้อกระจก คือมองเห็นภาพเป็นหมอกหรือควันบัง หลังอายุ ๕๐ ปีขึ้นไป แต่อาจเป็นเร็วขึ้นกรณีมีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน หรือกินยาจำพวกสตีรอยด์เป็นประจำ

การรักษาโรคต้อกระจกที่ได้ผลดีคือการสลายเลนส์ตาซึ่งขุ่นเป็นต้อกระจก ด้วยคลื่นเสียงอัลตราซาวนด์ แล้วใส่เลนส์แก้วตาเทียมใหม่ ซึ่งมีลักษณะใสเข้าไปทดแทน
ในอดีตมักรอให้ต้อกระจกสุกจึงทำการผ่าตัดเปลี่ยนเลนส์ แต่ปัจจุบันมักนิยมรักษาโดยการสลายต้อกระจกแต่เนิ่นๆ คือเมื่อปัญหาตามัวนั้นทำให้เป็นอุปสรรคกับการดำเนินชีวิตของผู้ป่วยก็ควรรับการรักษา เพราะการรอต้อกระจกสุก จะทำให้การรักษาด้วยการสลายต้อทำได้ยาก และยังอาจทำให้เกิดโรคตาอื่นแทรกซ้อน เช่น ต้อหิน ซึ่งอาจทำให้เกิดอันตรายมากขึ้นได้

ต้อกระจกรักษาง่าย
การผ่าตัดรักษาโรคต้อกระจกในอดีตดูจะเป็นเรื่องน่ากลัวและเป็นการผ่าตัดที่ใหญ่โต มีความเสี่ยงสูง รวมทั้งกระทบกับการดำเนินชีวิตหลังการผ่าตัดเป็นอย่างมาก

ปัจจุบันเทคโนโลยีการผ่าตัดต้อกระจกด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงมีการพัฒนาก้าวหน้าเป็นอย่างมาก การผ่าตัดเปลี่ยนเลนส์ตาสามารถทำได้ในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง  โดยอาจใช้เฉพาะยาชาชนิดหยอดไม่ต้องแม้แต่ฉีดยาชา มักไม่มีความรู้สึกเจ็บและแทบไม่เสียเลือดเลย

นอกจากนั้น ยังสามารถรับการผ่าตัดได้โดยอาจไม่จำเป็นต้องนอนค้างที่โรงพยาบาล และที่สำคัญสามารถใช้สิทธิในการรักษาโรคต้อกระจกได้ ทั้งกรณีสิทธิข้าราชการ ประกันสังคม และบัตรทองได้อีกด้วย    
 

การผ่าตัดต้อกระจกด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง

 

การใส่เลนส์แก้วตาเทียมเข้าไปแทนที่ตำแหน่งเลนส์ตาเดิม

 

เลนส์แก้วตาเทียม เป็นอย่างไร
เลนส์แก้วตาเทียมนับเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ทดแทนอวัยวะดั้งเดิมของมนุษย์ที่ใช้ได้ผลและปลอดภัยมากที่สุดชนิดหนึ่ง โดยเมื่อจักษุแพทย์ทำการสลายเลนส์ตาเดิมที่ขุ่นเป็นต้อกระจกออกแล้ว จะใส่เลนส์แก้วตาเทียมซึ่งเป็นวัสดุที่มีลักษณะใส เข้าไปแทนที่ตำแหน่งเลนส์ตาเดิมในลูกตาตามธรรมชาติ  

 

แก้วตาเทียม

 

ดังนั้น ผู้ป่วยจึงไม่ต้องคอยกังวลเรื่องการเคลื่อนหลุดของเลนส์แก้วตาเทียม อีกทั้งไม่ต้องเป็นภาระในการถอดล้างหรือทำความสะอาดเลนส์แก้วตาเทียมแต่อย่างใด  ที่สำคัญเลนส์แก้วตาเทียมนี้มีอายุการใช้งานยาวนาน สามารถใช้ได้ตลอดชีวิตของผู้ป่วยโดยไม่ต้องผ่าตัดเปลี่ยนเลนส์อีก  

นอกจากนั้น เทคโนโลยีทางการแพทย์เกี่ยวกับเลนส์แก้วตาเทียม มีการพัฒนาไปมาก มีทั้งเลนส์ชนิดแข็ง และเลนส์ชนิดนิ่มซึ่งสามารถพับเพื่อใส่ผ่านแผลผ่าตัดขนาดเล็กได้  มีเลนส์แก้วตาเทียมที่สามารถช่วยป้องกันรังสีอัลตราไวโอเลตให้ดวงตาได้  และเทคโนโลยีล่าสุด ยังเริ่มมีเลนส์แก้วตาเทียมที่สามารถแก้สายตาเอียง หรือทำให้ผู้ป่วยสามารถกลับมามองเห็นหนังสือในระยะใกล้โดยไม่มีภาวะสายตายาวได้อีกด้วย

ผู้ป่วยที่เป็นโรคต้อกระจกจึงไม่ต้องวิตกกังวลใจ สามารถปรึกษาจักษุแพทย์เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสมได้ในโรงพยาบาลทุกแห่ง


 

ข้อมูลสื่อ

390-042
นิตยสารหมอชาวบ้าน 390
ตุลาคม 2554
รักษ์ “ดวงตา”
ผศ.นพ.ศักดิ์ชัย วงศกิตติรักษ์