• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

ไฮเปอร์

ไฮเปอร์


คุณใจ หญิงชราวัย ๗๐ ปี มารักษากับป้าหมอเมื่อประมาณ ๑๐ ปีก่อน ด้วยอาการนอนไม่หลับ แต่เมื่อรับการรักษาได้สักระยะ คุณใจก็บอกว่า "รู้สึกโล่งเหมือนไม่เป็นอะไร  กินยาคุณหมอก็อยู่ได้"

ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาคุณใจก็บอกว่าตอนนี้เรื่องต่างๆ วุ่นวายไปหมด ยังไม่มาพบป้าหมอ ขอกินยาไปก่อน แล้วคุณใจก็ถามป้าหมอว่า "ขอยานานที่สุดได้แค่ไหน" ป้าหมอจึงจัดยาให้กินนาน ๒ เดือน พอยาหมด คุณใจมาที่ห้องตรวจพร้อมใบหน้ายิ้มหวาน แล้วบอกว่า "ยาหมดค่ะ ขอยาเหมือนเดิม ๒ เดือน" เนื่องจากผลตรวจหัวใจและความดันเป็นปกติ ป้าหมอจึงให้ยาต่อ เป็นอย่างนี้มาตลอด คุณใจปฏิเสธการตรวจเลือด โดยอ้างว่าไม่มีเวลา แต่วันนี้คุณใจมาแปลก พาลูกๆ มาเต็มไปหมด เดินมานั่งที่โต๊ะคนไข้ พร้อมกับบอกป้าหมอว่า "ดิฉันรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ นอนไม่หลับ กลัวมากมีความรู้สึกว่า มีคนมาคอยจ้องมอง" ขณะพูดคุณใจก็มองเลิ่กลั่กไปรอบตัว แล้วก็ชี้ไปที่ที่ไม่มีคนอยู่พร้อมกับ บอกว่า "ตรงนี้มีผู้ชาย ๓ คน ท่าทางจะคิดร้ายกับดิฉัน" พร้อมกับเอามือปิดหน้าร้องไห้เสียงโหยหวน เอะอะโวยวาย จนป้าหมอต้องรับเข้าไว้เป็นผู้ป่วยใน

ลูกๆ มาเล่าให้ป้าหมอฟังเพิ่มว่า "ปกติคุณใจแข็งแรงดี เวลาจะมารักษากับป้าหมอ ลูกๆ ขอตามมาคุณใจก็บอกว่า รู้จักกับหมอดี ไม่ต้องมาเสียเวลาทำมาหากิน จนกระทั่งสัปดาห์ก่อน คุณใจมาเคาะประตูที่ห้องลูกชายแล้วบอกว่า "มีขโมยมาปีนประตูบ้าน บางคนก็ถือมีด บางคนก็ถือปืน ให้โทร.ไปตามตำรวจมา" คุณใจก็ตัวสั่นกลัวเหมือนกับว่ามีเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นจริง ลูกชายจึงให้คุณใจพาไปดูขโมย คุณใจก็ชี้ไปที่ผนังว่างๆ แล้วบอกว่า "นั่นไงกำลังปีนขึ้นมา"  พอลูกชายพยายาม อธิบายคุณใจก็โวยวาย ลูกชายต้องพาคุณใจไปนั่งพัก  พร้อมกับเรียกหลานๆ ให้ตื่นขึ้นมานั่งเป็นเพื่อนคุณย่า แต่คุณใจก็ไม่สงบ คุณใจวิ่งขึ้นลงเป็นระยะพร้อมทั้งกำกับให้ตามลูกคนอื่นๆ มาด้วย เมื่อลูกทุกคนมาครบ คุณใจก็เล่าเรื่องให้ฟังพร้อมกับพาไปดู คราวนี้ไม่เห็นอะไรแล้ว คุณใจก็สงบลง แต่ขอย้ายไปอยู่บ้านลูกสาวอีกคน เพราะคุณใจคิดว่าบ้านลูกชายดูจะไม่ปลอดภัย 

คุณใจไปอยู่บ้านลูกสาวได้แค่คืนเดียว กลางดึกคืนนั้นคุณใจก็เอะอะโวยวายขึ้นมาอีก บอกว่าเห็นแมลงตัวใหญ่เกาะอยู่ในห้อง ทั้งๆ ที่ลูกสาวที่มานอนเป็นเพื่อนกลับมองไม่เห็นอะไรเลย คุณใจหวีดร้องด้วยความหวาดกลัว ลูกสาวต้องพาไปหาหมอที่โรงพยาบาลใกล้ๆ  คุณหมอต้องฉีดยาจนคุณใจยอมสงบลง ถึงกลับบ้านได้ อีก ๒ วันที่เหลือก็เต็มไปด้วยความวุ่นวาย คุณใจวิ่งทั่วบ้านพร้อมบอกว่าเห็นนั่นเห็นนี่ ทำเอาทั้งบ้านวุ่นวายไปหมด จนในที่สุดลูกๆ ต้องลงความเห็นว่า "ต้องพาคุณแม่มาตรวจแล้ว"

ลูกๆ เล่าให้ฟังเพิ่มเติ่มว่า คุณใจเคยแต่งงานมาก่อน โดยมีลูกชาย ๓ คน คุณใจทำธุรกิจหลายอย่าง ทั้งขายที่ดิน ขายของผ่อนส่ง ขายเครื่องใช้ในบ้าน เป็นพนักงานขายที่เก่ง ทำยอดขายได้ดี มีรายได้ประจำต่อเนื่องตลอดมา เมื่อคุณใจหย่าขาดจากสามีคนแรก ลูก ๓ คนนั้นก็อยู่กับพ่อ แต่คุณใจมีหน้าที่ส่งเสียเงินทองให้ใช้ จนคุณใจมาพบรักกับสามีคนปัจจุบัน คราวนี้คุณใจยิ่งดิ้นรนมากขึ้นเพราะรู้สึกว่าตัวเองมีภาระที่ต้องดูแลลูกของสามีเก่า แต่ลูก ๓ คน จากสามีเก่ากลับกลายเป็นเด็กที่ไม่มีความรับผิดชอบต้องขอเงินคุณใจอยู่เสมอ เดี๋ยวก็นำเงินไปลงทุนแล้วขาดทุน เดี๋ยวก็ตกงาน ลูกๆ ๓ คนของสามีปัจจุบันก็พูดอะไรไม่ออก 

เมื่อป้าหมอรับคุณใจเข้ารักษาในโรงพยาบาล คุณใจก็เอะอะโวยวาย เห็นภาพหลอนตลอดเวลา ป้าหมอจึงส่งคุณใจไปตรวจเลือดและเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมอง จากผลตรวจเลือดพบว่าคุณใจไม่เป็นเบาหวาน แต่ระดับไขมันในเลือดสูงมาก ผลเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมองพบว่า คุณใจมีภาวะสมองขาดเลือดหลายจุด ทำให้เกิดปัญหาการเห็นภาพหลอน มีปัญหาเรื่องพฤติกรรมเปลี่ยนไป ดังนั้น การรักษาคุณใจจึงต้องเป็นการรักษาที่ต่างไปจากเดิม คือ นอกเหนือจากการรักษาอาการประสาทหลอนทางตาแล้ว ยังต้องรักษาอาการไขมันในเลือดสูงด้วย ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้คุณใจมีอาการทางภาพหลอนมากขึ้น คุณใจอยู่ควบคุมไขมันกับเราจนอาการดีขึ้น ปัจจุบันคุณใจยังต้องกินยาอยู่อย่างต่อเนื่อง สามารถใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัว แต่อาจจะไม่สามารถออกไปทำงานข้างนอกได้ ทุกวันนี้คุณใจอยู่กับลูกๆ ไม่มีภาพหลอนแต่บางครั้งยังมีการพูดแปลกๆ เช่น พูดถึงคนที่ตายไปแล้ว 

อาการทางจิตอาจจะเป็นผลจากโรคทางกายหลายอย่าง เช่น เด็กเล็กเมื่อเป็นไข้อาจจะพูดว่ามีคนมายืนอยู่ที่ปลายเท้า ซึ่งเป็นอาการที่เกิดจากภาวะไข้สูง ผู้ใหญ่ที่มีอาการผิดปกติของพฤติกรรมอย่างกะทันหัน เราก็อาจจะพบอาการทางจิตได้ เช่น โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ  โรคสมองอักเสบ ปัญหาเรื่องหลอดเลือดสมอง ซึ่งทำให้ เกิดอาการอัมพฤกษ์หรืออัมพาตแบบที่เราเห็นทั่วไปนั้น อาจจะแสดงอาการออกมาในรูปของการเห็นภาพหลอน การมีพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงก็ได้ ดังนั้นการรักษาโรคทุกโรคต้องมุ่งค้นให้พบสาเหตุ และรักษาให้ตรงสาเหตุนั้นๆ จึงทำให้การรักษาได้ผล

ข้อมูลสื่อ

329-013
นิตยสารหมอชาวบ้าน 329
กันยายน 2549
ป้าหมอ