ทรงบาดาล : ความมั่นคงและคุ้มครองของไม้มงคล
ช่วงหลายปีที่ผู้เขียนใช้บ้านทรงไทยของมูลนิธิฯ เป็นที่พักค้างคืนยามมาทำงานในเขตจังหวัดสุพรรณบุรี หากนับเป็นจำนวนคืนก็คงเกินพันราตรี เมื่อมองทบทวนเหตุผลที่ผู้เขียนชอบพักค้างคืนบนบ้านทรงไทยหลังนี้มากกว่าบ้านพักของมูลนิธิฯ ในตัวเมืองสุพรรณฯ ที่มีความสะดวกสบายมากกว่า ก็พบว่า เหตุผลหลักเกิดจากบรรยากาศยามค่ำคืน และยามเช้าที่มีทั้งกลิ่นหอมตามธรรมชาติ จากต้นไม้ดอกไม้นานาพันธุ์ และเสียงจากเพื่อนตัวน้อยๆ หลายๆ เสียง ทั้งยามค่ำ ยามดึก และโดยเฉพาะยามเช้าที่มีทั้งเสียงกบ เขียด อึ่ง จิ้งหรีด นก และเสียงนาฬิกาปลุกมีชีวิตอันไพเราะที่สุดในโลก นั่นคือ เสียงไก่ขันมาจากทิศต่างๆ ทั้งใกล้ และไกล ทำให้บรรยากาศยามเช้ามีเสน่ห์เป็นอย่างยิ่ง
ช่วงปลายเดือนธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๖ ที่ผ่านมา ก่อนขึ้นปีใหม่ไม่กี่วัน บรรยากาศยามเช้าของบ้านทรงไทยเปลี่ยนแปลงไปอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน เพราะเสียงนาฬิกาปลุกที่มีชีวิตที่เคยดังประสานเสียงกันเซ็งแซ่กลับเงียบหายไปเกือบหมด มีเพียงเสียงไก่ขันดังมาจากระยะทางห่างไกลนานๆ ครั้ง เว้นก็ยามเช้าแทบจะสูญหายไปอย่างสิ้นเชิง แม้สิ่งที่มองเห็นรอบๆ บ้านทรงไทยและกลิ่นหอมจากดอกไม้ยังคงเดิมก็ตาม แต่เสียงไก่ขันที่หายไปก็บอกถึงความผิดปกติที่ไม่เคยเป็นมาก่อน จนถึงปลายเดือนมกราคม ความผิดปกติที่เกิดกับไก่รอบๆ บ้านทรงไทยก็ถูกเปิดเผยว่าเป็นโรคไข้หวัดนก มีเด็กชาวสุพรรณฯ ถูกประกาศให้เป็นคนไทยคนแรกที่ติดไข้หวัดนก และพบเชื้อไข้หวัดนกในไก่ที่เลี้ยงในเขตจังหวัดสุพรรณบุรีเป็นแห่งแรก หลังจากนั้นไก่ในประเทศไทยก็ล้มตายและถูกฆ่าเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไข้หวัดนกนับสิบล้านตัว
วิกฤติการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดจากโรคไข้หวัดนก ทำให้รู้สึกได้ถึงความไม่มั่นคงของระบบนิเวศ (ecosystem) ของโลกในปัจจุบัน มนุษย์กำลังได้รับผลกระทบจากสิ่งแวดล้อม หลังจากมนุษย์เองทำให้สิ่งแวดล้อมเสื่อมโทรมลงมาโดยลำดับ มนุษย์คงต้องตั้งคำถามและตอบคำถามกับตัวเองให้ได้ว่า อะไรทำให้มนุษย์ปฏิบัติตัวเป็นศัตรูกับธรรมชาติ จนทำลายธรรมชาติลงได้ถึงขนาดนี้ และเมื่อไรมนุษย์จะสำนึกตัวและเปลี่ยนวิถีชีวิตให้สอดคล้องกับข้อจำกัดของธรรมชาติได้อย่างทันกาล จากเหตุการณ์หรือปรากฏการณ์โรคระบาดนกไปทั่วภูมิภาคเอเชียครั้งล่าสุดนี้ ทำให้คนไทยส่วนใหญ่รู้สึกถึงความไม่ปลอดภัย และต้องการความมั่นคงของชีวิต ซึ่งหมายรวมถึงความปลอดภัยและได้รับการคุ้มครองป้องกันจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์เหนือธรรมชาติ ตามความเชื่อถือที่สืบเนื่องมาในวัฒนธรรมของชาวไทย มีต้นไม้บางชนิดที่คนไทยตั้งแต่อดีตถือว่าเป็นไม้มงคล มีความศักดิ์สิทธิ์ สามารถให้คุณและป้องกันสิ่งร้ายที่จะเกิดกับมนุษย์ได้ เช่น ทำให้ได้รับการปกป้อง คุ้มครองจากเทวดา เป็นต้น ไม้มงคลที่คนไทยเชื่อว่าจะทำให้เกิดความมั่นคงปลอดภัย และได้รับการคุ้มครองจากเทวดานั้น ก็คือต้นไม้ที่ชื่อ ทรงบาดาล นั่นเอง
ทรงบาดาล : ความหมายที่เป็นมงคล
ทรงบาดาล เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Cassia surattensis Burm. f. อยู่ในวงศ์ Leguminosae อันเป็นพืชจำพวกถั่ว ขนาดลำต้นสูงราว ๔-๗ เมตร มีกิ่งก้านสาขามาก ใบเป็นชนิดใบรวมคล้ายใบคูณ มีใบย่อยหลายใบบนก้านเดียวกัน ใบย่อยกว้างราว ๑ เซนติเมตร ยาวราว ๒.๕ เซนติเมตร ดอกออกเป็นช่อขนาดสั้นออกตามง่ามใบบริเวณปลายกิ่ง ดอกมีกลีบสีเหลือง ๕ กลีบ ดอกมีเส้นผ่าศูนย์ กลางราว ๓ เซนติเมตร มีดอกดก ออกดอกได้ตลอดปี ผลของทรงบาดาลมีลักษณะเป็น ฝัก เช่นเดียวกับพืชจำพวกถั่วต่างๆ รูปทรงคล้ายฝักส้มป่อย ทรงบาดาลเป็นพืชพื้นบ้านดั้งเดิมของไทย มีถิ่นกำเนิดในเขตร้อนของทวีปเอเชีย ซึ่งรวมถึงพื้นที่ประเทศไทย ขึ้นได้ดีในดินแทบทุกชนิด ชอบขึ้นในพื้นที่กลางแจ้งมีแสงแดดตลอดวัน
ชื่อที่ใช้เรียกในประเทศไทย คือ ทรงบาดาล ตรึงบาดาล ทรงบันดาล (ภาคกลาง) สะเก้ง (เชียงใหม่) ภาษาอังกฤษ คือ Kalamona คนไทยรู้จักคุ้นเคยกับทรงบาดาลมาเนิ่นนาน แม้จะไม่ค่อยพบชื่อในวรรณคดียุคโบราณ แต่เชื่อได้ว่าคนไทยได้พบเห็นทรงบาดาลอยู่ทั่วไป ในวรรณคดีของสุนทรภู่เรื่องรำพันพิลาป มีตอนที่สุนทรภู่ (ในขณะที่บวชเป็นพระภิกษุ) บรรยายถึงบริเวณกุฏิที่ท่านพักอาศัย ตอนหนึ่งว่า
"ทรงบาดาลบานดอกกลีบออกทันเก็บทุกวันเช้าเย็นไม่เว้นวาย"
จากบทกลอนข้างบนนี้ แสดงว่าบริเวณกุฏิของพระภิกษุสุนทรภู่ ปลูกต้นทรงบาดาลเอาไว้ และทรงบาดาลต้นนั้น (หรือหลายต้น) ออกดอกให้เก็บได้ทุกวัน ทั้งเช้าและเย็น แสดงว่าทรงบาดาลออกดอกดกตลอดปี เนื่องจากดอกทรงบาดาลเป็นช่อสีเหลืองไม่มีสีอื่นเจือปน จึงน่าจะทำให้ได้รับความนิยมปลูกในบริเวณวัดมาแต่สมัยโบราณ เพราะนอกจากเพื่อความสวยงามแล้ว ดอกสีเหลืองที่คล้ายสีจีวรพระและเณรยังใช้ในการนำไปบูชาพระได้อย่างเหมาะสมอีกด้วย
ประโยชน์ของทรงบาดาล
ทรงบาดาลเป็นไม้ดอกที่คนไทยพบเห็นได้ทั่วไปในปัจจุบัน เพราะเป็นต้นไม้ยืนต้นที่หาง่าย ขยายพันธุ์ง่าย ปลูกง่าย แข็งแรง ทนทาน อายุยืนนาน ตัดแต่งรูปทรงได้ดี ใบดก ดอกดกสีเหลืองสดใส สามารถนำไปปลูกได้ในหลายสถานที่ นอกจากบริเวณวัดอย่างในอดีตแล้วยังนิยมปลูกตามสถานที่อื่นๆ เช่น บ้านเรือน อาคาร สวนสาธารณะ สวนหย่อม ทางเท้า และ ๒ ข้างทาง ถนนสายใหญ่ในชนบท เป็นต้น ผู้เขียนเดินทางบนเส้นทางสายบางบัวทอง-สุพรรณบุรีอยู่เสมอ พบว่า มีต้นทรงบาดาลปลูกอยู่ ๒ ข้างทาง เป็นระยะทางหลายกิโลเมตร เช่นเดียวกับต้นไม้ที่มีดอกอีกหลายชนิด แต่ทรงบาดาลออกดอกติดต่อกันยาวนานกว่าดอกไม้ชนิดอื่นๆ จนอาจกล่าวได้ว่าแทบจะไม่ค่อยพบเห็นต้นทรงบาดาลที่ไม่มีดอกสีเหลืองอยู่ด้วยเลย (ยกเว้นช่วงถูกตัดแต่งกิ่ง) จึงถือว่าทรงบาดาลเป็นต้นไม้ดอกที่เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบดูดอกไม้ที่ติดอยู่กับต้นอย่างยาวนานตลอดปี ทรงบาดาลใช้ทำเป็นอาหารได้ โดยใช้ใบอ่อนเป็นผัก นอกจากนี้ยังมีสรรพคุณเป็นสมุนไพร มีบรรยายสรรพคุณไว้ในตำราสมุนไพรคือ ราก : ถอนพิษผิดสำแดง แก้สะอึก เนื่องจากกระเพาะอาหารขยายตัว
ทรงบาดาลเป็นไม้มงคลชนิดหนึ่ง แม้จะไม่มีรายชื่อเป็นไม้มงคลที่ปลูกบริเวณบ้าน แต่เป็นไม้มงคลที่ใช้ประกอบพิธีก่อฤกษ์หรือวางศิลาฤกษ์ในการก่อสร้าง อาคารหรือถาวรวัตถุต่างๆ เป็นไม้มงคล ๑ ใน ๙ ชนิดที่ใช้เป็นเสาเข็มตอก รองรับแผ่นศิลาฤกษ์ เป็นไม้มงคลลำดับที่ ๖ เชื่อว่าจะทำให้เกิดความมั่นคง มีเทวดาคุ้มครอง บางแห่งถือว่าช่วยบันดาลโชคลาภ (ตามชื่อทรงบันดาล) เมื่อมูลนิธิข้าวขวัญทำพิธีวางศิลาฤกษ์สำหรับอาคารที่จะใช้เป็นสำนักงานถาวร ในเดือนพฤศจิกายน ๒๕๔๕ ก็ใช้ไม้มงคลทั้ง ๙ ชนิดตามตำรา ซึ่งไม้ทรงบาดาลที่ใช้ในพิธีเป็นไม้ที่เก็บมาจากต้นทรงบาดาล ที่ปลูกอยู่ในเขตจังหวัดสุพรรณบุรีนี้เอง ในขณะที่ไม้มงคล อีก ๘ ชนิดมีผู้จัดเตรียมมาให้จากภาคอีสานทั้งสิ้น
ผู้เขียนไม่ตั้งความหวังกับการใช้ไม้ทรงบาดาลว่าจะทำให้มีเทวดาคุ้มครอง มีความมั่นคง และโชคลาภ เป็นต้น แต่หวังว่าการใช้ไม้ทรงบาดาลในพิธีวางศิลาฤกษ์จะเป็นการสืบทอดวัฒนธรรมความเชื่ออันดีงามของคนไทยจากอดีตเอาไว้เพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจ ในยุคสมัยที่มนุษย์เหินห่างจากธรรมชาติยิ่งขึ้นทุกขณะ และวิกฤติการณ์ด้านต่างๆ อาจเกิดขึ้นได้ทุกวัน
- อ่าน 13,048 ครั้ง
- พิมพ์หน้านี้