• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

อยากมีลูก

อยากมีลูก


ถาม : วรรณา/สุราษฎร์ธานี
ดิฉันแต่งงานมาเกือบปีแล้ว และอยากมีลูก ในช่วงที่เพิ่งแต่งงานได้ ๓ เดือน ก็มีอาการปวดหน่วงที่ท้องน้อย เป็นๆหายๆอยู่พักหนึ่งก็จะปวดมาก ปวดเหมือนถูกกดแรงๆ ปวดทะลุเอาร้อนผ่าวไปด้านหลัง หมอบอกว่า มดลูกอักเสบ กินยาก็ไม่ดีขึ้น จนมีตกขาวเป็นสีเหลือง มีกลิ่นออกมา ไปหาหมออีกคราวนี้กินยาก็หาย แต่พอมาเดือนเมษายน หลังจากประจำเดือนหายก็มีอาการแน่นในท้องเกือบทุกวัน และปวดแสบร้อนมาก ๒ ครั้ง คือ วันที่ ๒๒ มกราคม และ ๒๑ เมษายน ปวดท้องประจำเดือนมากจนทำอะไรไม่ได้ สามีค่อนข้างขี้เกียจ หรือรูปร่างเราไม่ค่อยเร้าใจ คือ ดิฉันมีรูปร่างค่อนข้างบาง หน้าอกเล็ก แต่สามีค่อนข้างอ้วนกลม ถ้าวันไหนทำงานเหนื่อย เราต้องนอนเหงาคนเดียว ดิฉันมีปัญหาขอเรียนถามคุณหมอ ดังนี้ค่ะ

๑. แรกๆกินยาคุมอยู่ ๓ เดือนแล้วก็เลิก และสามีก็สูบบุหรี่จัดด้วย ไม่รู้ว่าเกี่ยวกันไหม และอยากทราบแต่งานกันนานแค่ไหนถึงจะมีลูก

๒. เวลามีเพศสัมพันธ์บางครั้ง จะมีอาการปวดแน่นในท้อง หรือบางครั้งถึงกับสะดุ้ง พอใกล้ถึงจุดสุดยอดจะปวดปัสสาวะทุกครั้ง เข้าห้องน้ำ พอกลับเข้ามาสามีก็หลับแล้ว

๓. การมีเพศสัมพันธ์ตอนที่ประจำเดือนยังไม่หายสนิท จะทำให้ปวดท้องได้ไหม

๔. การมีกระดูกเชิงกรานผิดรูปเดิม จากการคลอดลูกจะมีผลเสียต่อสุขภาพมากน้อยแค่ไหน (ในคนที่พิการจากสะโพกเคลื่อน)

๕. การทำหมัน บางคนจะมีความต้องการทางเพศสูง หรือบางคนก็ตายด้านไปเลย ไม่ทราบว่า ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร

ขอความกรุณาคุณหมอตอบด้วยนะคะ ดิฉันอยากมีลูกมากเลยค่ะ มีสักคนก็ยังดี
 

ตอบ : นพ.พันธ์ศักดิ์ ศุกระฤกษ์

๑. การกินยาเม็ดคุมกำเนิดแค่ ๓ เดือน ไม่น่าจะมีผลอะไรต่อการมีบุตร ส่วนการที่ผู้ชายรูปร่างอ้วน และไม่ค่อยมีกิจกรรมเป็นปัญหาที่ทำให้มีบุตรยากได้เช่นเดียวกับการสูบบุหรี่ อาจจะมีผลทำให้คุณภาพของอสุจิลดลง มีปริมาณน้อยลงและตัวอสุจิไม่แข็งแรงเท่าที่ควร อันเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้มีบุตรยาก

๒. อาการปวดในท้องอาจจะเกิดจากการที่มีเลือดไปคั่งภายในอุ้งเชิงกราน ซึ่งเป็นเรื่องปกติธรรมดา แต่จากประวัติที่เล่ามานั้น คุณอาจจะมีการอักเสบเรื้อรังอยู่ภายในอุ้งเชิงกรานหรือมีพังผืดอยู่ด้วยก็ได้ ถ้ายังคงมีอาการปวดทุกครั้งและทำให้ไม่มีความสุขจากการร่วมรักก็น่าที่จะไปให้แพทย์ทำการตรวจรักษา

๓. อาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดการอักเสบติดเชื้อได้ ถ้ารักษาความสะอาดอวัยวะเพศของทั้ง ๒ ฝ่ายไม่ดีพอก่อนที่จะร่วมรักกัน ควรให้ฝ่ายชายสวมถุงยางอนามัยทุกครั้ง เมื่อมีเพศสัมพันธ์ขระที่มีประจำเดือนจะปลอดภัยกว่า

๔. การที่มีข้อสะโพกเคลื่อนจะมีผลต่อการเดินและบุคลิกภาพมากกว่า แต่ถ้าดูแลสุขภาพโดยทั่วๆไปได้ดี ก็ไม่น่าจะมีผลต่อสุขภาพมากนัก

๕. เป็นไปได้ทั้ง ๒ กรณี แต่ไม่ได้เป็นผลจากการทำหมันโดยตรง เป็นเพราะภาวะทางจิตใจมากกว่าที่ทำให้เกิดปรากฏการณ์ดังกล่าว ซึ่งเป็นผลทางอ้อมมาจากการทำหมัน เพราะคนที่ทำหมันถ้าคิดว่าต่อไปนี้ปลอดภัยไม่ตั้งครรภ์ และเป็นคนที่มีความต้องการทางเพศสูง ก็จะรู้สึกว่าได้ถูกปลดปล่อย กลายเป็นคนเซ็กซ์จัด ในขณะที่คนกลัวทำหมันหรือถูกบังคับให้ทำหมันกลับคิดว่าตนเป็นหมันแล้วสมรรถภาพทางเพศจะเสื่อม ก็อาจจะกลายเป็นคนกามตายด้านไปได้

ข้อมูลสื่อ

294-quiz-004
นิตยสารหมอชาวบ้าน 294
ตุลาคม 2547
นพ.พันธ์ศักดิ์ ศุกระฤกษ์