• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

ข้าวเกรียบปากหม้อ

                                                                                 
 
ส่วนผสมไส้

เนื้อหมูสับ                                     ๑ ๑/๔ ถ้วย
หอมแดง                                           ๑/๒ ถ้วย
หัวไชโป๊วสับ                                    ๓/๔ ถ้วย
ถั่วลิสงคั่วโขลกหยาบ                       ๑/๒ ถ้วย
รากผักชีหั่น                                          ๒ ช้อนโต๊ะ
พริกไทยเม็ด                                         ๑ ช้อนชา
กระเทียมสับ                                         ๒ ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี๊บ                                            ๘ ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา                                                 ๑ ช้อนโต๊ะครึ่ง
กระเทียมเจียว                                      ๕ ช้อนโต๊ะ
น้ำเปล่า                                             ๑/๒ ถ้วย
น้ำมันพืชสำหรับผัด                               ๑ ช้อนโต๊ะครึ่ง
ส่วนผสมแป้ง
แป้งข้าวเจ้า                           ๑ ถ้วย + ๒ ช้อนโต๊ะ
แป้งท้าวยายม่อม                                  ๕ ช้อนโต๊ะ
แป้งมัน                                                  ๕ ช้อนโต๊ะ
เกลือป่น                                            ๑/๘ ช้อนชา
น้ำ                                                         ๑ ถ้วยครึ่่ง
น้ำร้อน                                               ๓/๔ ถ้วย
ผักสด
ผักกาดหอม, ผักชี, พริกขี้หนู

วิธีทำไส้
๑. โขลกรากผักชี พริกไทย กระเทียม ให้ละเอียด
๒. ใส่เครื่องที่โขลกลงผัดใช้ไฟอ่อน ใส่หอมแดง เนื้อหมูสับ หัวไชโป๊ว ยีให้เนื้อหมูแตกตัวไม่จับเป็นก้อน ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาล ผัดจนหมูสุกและเครื่องปรุงทั้งหมดเข้ากัน
๓. ใส่น้ำเปล่า เคี่ยวด้วยไฟปานกลาง พอส่วนผสมเริ่มข้นและ เหนียวเล็กน้อย ปิดไฟแล้วใส่ถั่วลิสงคั่ว คนให้เข้ากัน ทิ้งไว้ให้เย็น นำมาปั้นเป็นก้อนกลมๆ เล็กๆ พักไว้

วิธีทำตัวแป้ง
๑. ผสมแป้งทั้ง ๓ ชนิดและเกลือป่นเข้าด้วยกัน นวดกับน้ำเปล่า โดยค่อยๆ ใส่น้ำแล้วนวดจนน้ำหมด นาน ๑๐-๑๕ นาที แล้วกรองด้วยผ้าขาวบาง อย่าให้เหลือแป้งเป็นเม็ด
๒. จากนั้นใส่น้ำร้อน แล้วใช้พายคนเร็วๆ เพื่อไม่ให้แป้งสุก จับกันเป็นก้อน

การละเลงข้าวเกรียบปากหม้อ
๑. ใช้ผ้าแพรเนื้อแน่นผูกปากหม้อสำหรับละเลง (หม้อปากกว้าง คอคอด) ผูกให้ตึงเว้นริมไว้นิดหน่อย พอให้ไอน้ำขึ้นได้ ใส่น้ำเกือบเต็ม แต่อย่าให้ถึงผ้าปากหม้อ
๒. พอน้ำเดือด ใช้ช้อนคนแป้งให้ถึงก้นภาชนะ ตักแป้งขึ้นละเลงบนผ้า ปิดฝา พอเปิดฝาแป้งพองแสดงว่าสุก หยิบไส้ที่เตรียมไว้ใส่ ใช้พายเล็กพับแป้งให้เป็นก้นหอย ตักขึ้น ใส่ถาดหรือใบตองที่มีน้ำมันทาไว้กันติด
๓. โรยด้วยกระเทียมเจียว กินกับผักสด
หมายเหตุ : สูตรนี้ทำได้ประมาณ ๗๐-๘๐ ตัว

ตารางแสดงคุณค่าทางโภชนาการของอาหารไทย "ข้าวเกรียบปากหม้อ" จะมีคุณค่าทางโภชนาการต่อ ๑ ตัว คำนวณประมาณแคลอรีได้ดังนี้
พลังงาน                           ๓๙.๕ กิโลแคลอรี
คาร์โบไฮเดรต                  ๔.๘๑ กรัม
โปรตีน                              ๑.๘๔ กรัม
ไขมัน                                ๐.๙๖ กรัม
ที่มาของข้อมูล : จากรายงานการวิจัย "คุณค่าอาหารไทยเพื่อสุขภาพ" โดยทีมวิจัยสถาบันวิจัยโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล
จะเห็นได้ว่าไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยในการทำ แต่ก็ไม่พ้นความพยายามและความตั้งใจถ้าเราคิดจะทำ เมื่อทำได้จะทำให้เราเพลิด-เพลิน และสนุกกับการประกอบอาหารชนิดนี้ทีเดียว อาจถึงขั้นยึดเป็นอาชีพได้ด้วย ข้าวเกรียบปากหม้อเป็นอาหารว่างที่มีส่วนของน้ำมันค่อนข้างมาก หลีกเลี่ยงได้โดยไม่ใส่น้ำมันในการทำมากเกินไป (น้ำมันที่ทาใบตอง หรือถาด ) กินกับผักสดเราก็จะได้กากใยอาหาร ด้วย นับว่าเป็นอาหารว่างไทยที่มีคุณค่าทางโภชนาการที่ไม่ด้อยไปกว่าอาหารอื่นทีเดียว

เคล็ดลับ

๑. ไอน้ำที่ใช้ต้องแรงแป้งจึงจะสุกใส
๒. อย่าผัดไส้เหนียวเกินไป เพราะเวลาทิ้งไว้ให้เย็นจะตกทราย
๓. ก่อนละเลงแป้งทุกครั้ง ต้องคนให้แป้งที่นอนก้นภาชนะเข้ากันเสียก่อน
๔. ขั้นตอนการผสมแป้งต้องค่อยๆนวดกับน้ำเปล่า แป้งที่ได้จึงจะนุ่มเหนียว

ข้อมูลสื่อ

311-018
นิตยสารหมอชาวบ้าน 311
มีนาคม 2548
เข้าครัว
ริญ เจริญศิริ, ศศพินทุ์ ดิษนิล