คุณยายมาหาหมอด้วยอาการคัน ทรมานมานาน คันจนนอน ไม่หลับ คันศีรษะ คันหลัง คันขา พยายามรักษาตนเองด้วยวิธี ต่างๆที่เคยรู้มาจากการบอกต่อๆกันมาบ้าง รู้จากเพื่อนบ้านบ้าง และจากลูกหลานในบ้านบ้าง การรักษาบางอย่างทำให้ดีขึ้นชั่วคราว แต่เดี๋ยวก็เป็นใหม่อีก คุณยายใช้วิธีอาบน้ำบ่อยๆ ลองอาบน้ำร้อน ก็ไม่หาย เลยเปลี่ยนมาเป็นน้ำเย็น บางครั้งเอาใบชามาต้มน้ำอาบหนักๆเข้าเอาสบู่ยามาฟอก อาบเสร็จแล้วใช้แอลกอฮอล์เช็ด บางทีก็เอาขมิ้นมาทา ทายาสมุนไพร ทาว่านหางจระเข้บ้าง เพื่อนบ้านผู้หวังดีเอายาแก้เชื้อราชนิดครีมมาให้ทา หลานๆแนะให้กินยาแก้แพ้ ก็ยังไม่หายอยู่ดี วันนี้คุณยายจึงมาหาหมอ
หมอตรวจคุณยายอายุ ๗๐ ปี พบว่าคุณยายมีผิวบางและแห้ง แบบผิวผู้สูงอายุ มีรอยเกาเป็นบางแห่ง โดยเฉพาะที่หลังและที่ขาแห้งจนเป็นขุย บริเวณขาใกล้ๆข้อเท้า มีรอยผิวแตกเหมือนดินหน้าแล้ง คือเป็นลายสี่เหลี่ยมเล็กๆ สีคล้ำๆ แบบคนผิวแห้งในฤดูอากาศหนาว
หมอสงสัยว่าคุณยายเป็นหิดหรือเปล่า เพราะอาการคันเป็นอาการที่ต้องนึกถึงโรคหิด ก็ไม่พบหลักฐานที่สนับสนุนโรคหิด คือถ้าเป็นหิดจะพบตุ่มใสๆ และตุ่มแดงๆ เป็นกลุ่มๆ อยู่ตามง่ามนิ้วมือ ข้อศอก รักแร้ และที่ก้น คุณยายไม่มีอาการดังกล่าวนี้
หมอถามว่าคุณยายมีโรคประจำตัวหรือเปล่า ญาติตอบว่าไม่มี ถามว่าเคยตรวจเลือดไหม ปรากฏว่าเคยตรวจมานานแล้ว ไม่มีโรคอะไร หมอจึงสั่งตรวจเลือดใหม่เพราะเคยตรวจนานแล้วไม่มีโรค ตอนนี้อาจมีก็ได้ โรคบางอย่างทำให้เกิดอาการคันได้ หมอสั่งตรวจเบาหวาน โรคตับ โรคไต ไหนๆจะเจาะแล้ว หมอจึงให้ตรวจหาไขมันในเลือดด้วย ผู้สูงอายุควรตรวจ สุขภาพสม่ำเสมอเป็นการเฝ้าระวัง หากมีสิ่งผิดปกติจะได้รักษาเสียตั้งแต่ขณะยังเป็นน้อยๆ ผลการตรวจเลือดของคุณยาย ไม่พบความผิดปกติ พบว่าคุณยายเป็นผู้สูงอายุที่มีสุขภาพดี ไม่มีโรคเบาหวาน โรคตับ โรคไต และ ไขมันในเลือดไม่สูง
เมื่อไม่มีโรคทางร่างกาย ไม่มีโรคผิวหนัง หมอให้การวินิจฉัยว่าคุณยายมีอาการคันจากผิวแห้งเกินไป และปฏิบัติตนด้านบำบัดรักษาไม่ถูกต้อง แทนที่จะดีขึ้นกลับทำให้อาการยิ่งกำเริบมากขึ้นโดยไม่รู้ตัว การอาบน้ำบ่อยๆ ด้วยน้ำร้อน น้ำเย็น การใช้สบู่ยา ใช้แอลกอฮอล์เช็ด ล้วนแต่ทำให้ผิวแห้งยิ่งขึ้น แป้งน้ำคาราไมน์ หรือดินสอพอง ทำให้ผิวแห้งขึ้นไปอีก เพราะแป้งมีคุณสมบัติเป็นตัวซับน้ำ เหมาะสำหรับกรณีผิวชื้นหรือผิวมันมากกว่า สารจำพวกยาสมุนไพร ขมิ้น ว่านหางจระเข้ ก่อให้เกิดความระคายเคืองต่อผิว ยิ่งผิวแห้งอยู่แล้ว จะยิ่งเกิดอาการระคายได้ง่าย
ดังนั้นสิ่งที่คุณยายนำมาใช้ รักษาอาการคันโดยหวังว่าจะช่วยให้ดีขึ้น กลับยิ่งทำให้คันมากขึ้น ตอน ใช้ยาทาแก้โรคเชื้อรา คุณยายรู้สึกว่าอาการคันดีขึ้นมาหน่อย ทั้งนี้เพราะตัวยาที่เป็นครีมทำให้ผิวชุ่มชื้นขึ้น ไม่ได้ดีขึ้นเพราะยาเชื้อรา เพราะคุณยายไม่ได้เป็นเชื้อรา แต่ในที่สุดคุณยายก็ใช้ยาเชื้อราต่อไปอีกไม่ไหว เพราะยานั้นเป็นยาหลอดเล็กๆ ใช้ทาขาข้างเดียวก็หมดหลอดแล้ว คุณยายคันทั้งตัว ถ้าจะทาให้ทั่วต้องใช้ยาหลายโหล ต้องเสียเงินมาก และผลที่ได้ไม่คุ้ม ยากิน แก้แพ้มีส่วนทำให้คุณยายนอนหลับได้บ้าง ไม่ต้องตื่นมาคันตอนกลางคืน เพราะยาแก้แพ้ทำให้ง่วงนอน แต่ไม่ได้ออกฤทธิ์แก้แพ้เพราะคุณยาย ไม่ได้แพ้อะไร
สรุป อาการคันของคุณยายเกิดจากผิวแห้ง เนื่องจาก เซลล์ของผิวหนังเสื่อมคุณภาพลง ไม่สามารถอุ้มน้ำได้เหมือนวัยหนุ่มสาว
หมอสั่งการรักษาให้คุณยาย ใช้น้ำมันหรือครีมที่ให้ความชุ่มชื้นต่อผิว ให้ใช้หลังจากคุณยายอาบน้ำ เมื่อเช็ดตัวเสร็จใหม่ๆ ผิวยังชุ่มน้ำอยู่ ให้ใช้ครีมหรือน้ำมันลูบไล้ให้ทั่ว จะช่วยให้ผิวชุ่มชื้นได้มาก แต่ไม่ใช่ใช้ชั่วคราวแล้วจะหายได้ จำเป็นต้องใช้เป็นประจำ หากอากาศดีไม่แห้งเกินไป อาจจะใช้เท่าที่จำเป็น แต่ถ้าอากาศแห้งแล้งมาก เช่น ในขณะอากาศหนาวเย็น ผิวจะยิ่งแห้ง คุณยายต้องใช้ครีมทาเป็นประจำ ทุกวัน หรือวันละ ๒ ครั้ง จึงจะรู้สึกสบาย และไม่มีอาการคันอีกต่อไป
ส่วนการกินยาแก้แพ้ เพื่อแก้อาการคันในรายที่มีผิวแห้งนั้น เป็นสิ่งที่แก้ไม่ถูกจุด เนื่องจากคุณยาย นอนไม่หลับจากอาการคัน ถ้าจำเป็นต้องใช้ยาชั่วครั้งชั่วคราว ก็พออนุโลมให้ใช้ได้ แต่ไม่ควรให้ยากินติดต่อกันนานๆ ผู้สูงอายุไม่ควรกินยามากถ้าไม่จำเป็น เพราะร่างกายไม่ทนทานเหมือนคนหนุ่มสาว อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนจากฤทธิ์ยาได้ง่าย
เมื่อคุณยายได้รับคำแนะนำจากแพทย์ ดังกล่าวแล้ว เมื่อนำครีมมาทาให้ผิวชุ่มชื้นขึ้น อาการคันก็ดีขึ้นเป็นลำดับ คราวนี้พอคนแถวบ้านหรือญาติโยมของคุณยายที่มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน มีอาการคันอย่างเดียวกันนี้ คุณยายก็จะแนะนำให้ ใช้น้ำมันและครีมที่ทำให้ผิวชุ่มชื้น ครีมอะไรก็ตามที่มีขายตามร้านเครื่องสำอาง เลือกดูตามใจชอบ จะปรึกษาผู้ขายก็ได้ว่าต้องการครีมบำบัดผิวแห้ง ไม่จำเป็นต้องมีราคาแพง เพราะครีมประเภทนี้ไม่ได้ มีตัวยาพิเศษ แค่ทำให้ผิวลื่นและชุ่มชื้นเท่านั้น
คุณยายยอมรับในการรักษาแผนปัจจุบัน เลิกใช้แนวการรักษาแบบเดิมที่เชื่อต่อๆกันมา ซึ่งอาจได้ผลในบางโรค ถ้าการรักษากับโรค ไม่ตรงกันก็จะไม่ได้ผล การรักษา บางชนิดทำให้โรคกำเริบมากขึ้นก็มี เมื่อแก้ถูกจุด ผลปรากฏว่าคุณยายและญาติโยมหายสบายดีกันหมด ทุกคน
- อ่าน 4,785 ครั้ง
- พิมพ์หน้านี้