• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

ยาชุดอีกแล้ว

ผมมักจะมีเรื่องใกล้ตัวมาเล่ามาบอกกับผู้อ่าน เพื่อจะได้ระมัดระวังได้ว่าควรหรือไม่ควรเพียงไร

เรื่องของเรื่องคือญาติผมคนหนึ่ง เพิ่งจะเสียชีวิตเมื่อไม่นานมานี้เอง แต่เดิมแกเป็นโรคธัยรอยด์ รักษาหายเป็นปกติ แต่ระยะหลังๆ แกเป็นโรคปวดข้อ ปวดตามมือ ตามขา ตามแขน

มียาดีหมอดีที่ไหนก็พยายามเจียดยาหรือหายามากิน คงมีเพื่อนบ้านหรือญาติที่หวังดีแนะนำยาชุดให้ บอกว่ากินแล้วจะหายปวดหายไข้ หายปวดข้อ

แกเลยสั่งให้ลูกไปเจียดยามาให้กิน กินแล้วก็สบายหายปวดข้อ หายไข้ แต่ดูว่าแกออกจะซีดลง เซียวๆ ไม่กินยาก็อ่อนเพลียไม่มีแรง ลูกๆขัดใจไม่ไปซื้อมาให้กินเพราะลูกรู้ว่าอาจเป็นยาอันตราย แกโกรธดุด่าว่าลูก หาว่าไม่ตามใจแม่ ไม่รักแม่ อยากให้แม่ทรมาน ลูกทนไม่ได้ก็ตามใจแก ไปซื้อยามาให้กิน จะอะไรเสียอีกเล่า ยาชุดแก้ ไข้แก้ปวดตัวดีนักแล จะเรียกว่า ร้อยทั้งร้อย ต้องผสมสตีรอยด์หรือวิตามินสีขาวหรือสีชมพู ยาสตีรอยด์อันตรายมาก พูดซ้ำแล้วซ้ำอีก กินแล้วจะกัดกระเพาะอาหาร ทำให้เลือดออก นั่นแหละที่ทำให้น้าแกซีด คงจะมีเลือดออกทีละเล็กละน้อย จนไม่ได้สังเกต

ยาสตีรอยด์ทำให้รู้สึกสบายใจ กินข้าวได้ เพราะเป็นผลข้างเคียงของยานั่นเอง
ยาสตีรอยด์ทำให้ไข้ลด ทำให้อาการปวดต่างๆ เช่น ปวดหลัง ปวดข้อลดลง มันไปบดบังอาการเท่านั้นและไม่ใช่เป็นการรักษาโรคปวดหรือโรคไขข้อนั้นๆ มีที่ใช้ไหม? ตอบว่ามี แต่ต้องให้แพทย์วินิจฉัย และเป็นผู้จ่ายยาเท่านั้น

อย่างที่ทราบกันดีว่า ยาสตีรอยด์และยารักษาในข้ออีกบางอย่าง กัดกระเพาะอาหารดีนักแล เหมือนกับยาแอสไพรินและยาเอพีซีสมัยก่อน ที่ทำเป็นซองๆ ทำให้คนเป็นแผลในกระเพาะอาหารและถ่ายเป็นเลือดเป็นสีดำกันมากมาย

ผลจากยาชุดดังกล่าว ทำให้น้าสาวเสียเลือด ช็อกตายก่อนจะถึงเวลาอันควร ก็ได้แต่ขอร้องเพื่อนบ้านหรือพ่อแม่ญาติพี่น้อง อย่าได้แนะนำ ยาชุด ยาซอง ยาลูกกลอน แก้ปวดแก้ไข้ หรือแก้ปวดหลังในข้อกระดูกให้ใครต่อใครกินเป็นอันขาด เพราะเท่ากับท่านทำร้ายเพื่อนบ้าน ญาติพี่น้อง โดยไม่เจตนาหรือด้วยความ ไม่รู้อวิชชาโดยแท้ น่าจะสิ้นสุดกันทีเรื่องยาชุด ยาซอง และคงจะต้องเขียนและตอกย้ำกันบ่อยๆกระมัง ตราบใดที่ยังมีคนโลภผลิตยา ทำยา ขายยา หรือจัดจำหน่ายจ่ายแจกให้กับเพื่อนมนุษย์ โดยไม่คำนึงถึงผลเสียและอันตราย

ข้อมูลสื่อ

235-010
นิตยสารหมอชาวบ้าน 235
พฤศจิกายน 2541
นพ.อำนาจ บาลี