เตือนระวังสารพัดภัยผิวหน้าฝน

เตือนระวังสารพัดภัยผิวหน้าฝน

แพทย์ชี้ เดินย่ำน้ำสกปรกเสี่ยงต่อการติดเชื้อรา แบคทีเรีย พยาธิ และโรคฉี่หนู อาการรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้

จากการที่ระยะนี้มีฝนตกชุกและมีน้ำท่วมขังในหลายท้องที่ อีกทั้งกรมอุตุนิยมวิทยาได้พยากรณ์ว่ามีโอกาสเกิดฝนตกชุกและน้ำท่วมต่อไปอีก นายแพทย์ประวิตร พิศาลบุตร แพทย์ผู้เชี่ยวชาญสาขา  โรคผิวหนัง อดีตนักวิจัยสถาบันสาธารณสุขแห่งสหรัฐอเมริกา ให้สัมภาษณ์ว่า ในช่วงฤดูฝนมีน้ำท่วมขังเช่นนี้ จะพบโรคน้ำกัดเท้า ซึ่งคือ การติดเชื้อราที่เท้าได้บ่อย เห็นเป็นผื่นเปียกยุ่ยสีขาวที่ง่ามนิ้วเท้า บาง ครั้งมีการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน ทำให้เป็นผื่นแดงและมีน้ำเหลือง ไหล นอกจากนั้นก็ยังพบโรคเท้าเหม็น ซึ่งเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย แกรมบวก เห็นเป็นรูพรุนเล็กๆ ที่เท้า บางครั้งเป็นแอ่งเว้าแหว่งตื้นๆ ที่ฝ่าเท้า มีน้ำเหลืองซึม และเท้ามีกลิ่นเหม็นมาก แบคทีเรียบางตัว เช่น Areomonas hydrophila อาจทำให้เกิดการอักเสบลุกลามทั้งเท้าและขาจนถึงขั้นเสียชีวิต การเดินย่ำน้ำเฉอะแฉะยังเสี่ยงต่อการติดโรคพยาธิ ที่พบได้บ่อยคือพยาธิปากขอ ซึ่งทำให้เกิดโรคโลหิตจาง และยังทำให้เกิดโรคฉี่หนู (leptospirosis) มีอาการเป็นไข้ ตัวเหลือง ตาเหลือง ถ่ายปัสสาวะเป็นเลือดและถึงแก่กรรมได้ นอกจากนั้นการเดินย่ำน้ำก็ยังเสี่ยงต่อการถูกแมลงสัตว์กัดต่อย เช่น งู แมงป่อง ตะขาบ

การหลีกเลี่ยงโรคติดเชื้อที่อาจถ่ายทอดจากอาการเดินย่ำน้ำสกปรกจึงควรสวมรองเท้าบู๊ตกันน้ำให้มิดชิด ถ้าจำเป็นต้องใส่ถุงเท้ารองเท้าไปทำงานไม่ควรเลือกถุงเท้าที่หนาและคับเกินไป ควรล้างเท้าด้วยสบู่และน้ำเปล่าจนสะอาดแล้วซับให้แห้งทุกครั้งที่เดินย่ำน้ำ หากอยู่ในเวลาพักผ่อน ควรสวมรองเท้าแตะเพื่อให้เท้าแห้ง จะลดการ   ติดเชื้อราที่เท้า ไม่ควรนุ่งกางเกงที่หนา เช่น กางเกงยีน เพราะจะชื้นแฉะง่ายและเกิดการลุกลามของเชื้อราที่เท้ามายังขาหนีบเกิดเป็นโรคสังคังขึ้น
นายแพทย์ประวิตร เตือนอันตรายอีกอย่างที่มักพบในช่วงฤดูฝน คือการโดนแมงกะพรุนไฟ เพราะมักมีชุกชุมในท้องทะเลทุกแห่งของไทย โดยเฉพาะหลังมีพายุฝนฟ้าคะนอง แผลจากการโดนแมงกะพรุนไฟรักษายากมาก และมักทิ้งแผลเป็นไว้ตลอดชีวิต พบผู้ป่วยที่โดนแมงกะพรุนไฟที่หน้าหรือที่ขาจะเสียโฉมเสมอ จึงขอแนะนำให้ว่ายน้ำในสระน้ำริมทะเลแทนว่ายน้ำในทะเล หากโดนแมงกะพรุนไฟต้อง  รีบขึ้นจากน้ำทันที เพราะอาจแพ้พิษถึงขั้นจมน้ำตายได้ และห้ามใช้น้ำจืดหรือแอลกอฮอล์ราดแผล เพราะกระเปาะพิษจะยิ่งแตก อาจใช้น้ำทะเลล้างแผลแล้วใช้บัตรแข็งขูดกระเปาะพิษออก แล้วรีบไปพบแพทย์ทันที
ข้อมูล : โครงการเพื่อสุขภาพ สนพ.โฮลิสติก