ครีมแก้ฝ้า สวยหรือเสี่ยง
ไฮโดรควิโนนหรือเอชคิว (HQ) เป็นสารเคมี ที่ถูกนำมาใช้เป็นส่วนผสมสำคัญในเครื่องสำอางหลายชนิดที่มีสรรพคุณทำให้ผิวขาว เนื่องจากเอชคิวมีฤทธิ์ในการฟอกสีผิวทำให้ผิวคล้ำกลับกลายเป็นผิวขาวได้ สารนี้ออกฤทธิ์โดยการไปยังยั้งปฏิกิริยาการสร้างเม็ดสีที่ผิวหนังมีผลทำให้จำนวนเม็ดสีลดน้อยลง เมื่อจำนวนเม็ดสีลดลง สีผิวก็จะจางลง เมื่อใช้ไปนานๆ สีผิวจะจางลงทุกที จนสามารถเปลี่ยนสีผิวจากดำเป็นขาวได้
ด้วยเหตุนี้เอชคิวจึงเป็นสารยอดนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการมีผิวขาว จึงมีผู้นำมาใช้ผสมในครีมฟอกสีผิวหรือครีมรักษาฝ้า อาจทำในรูปครีมหรือโลชั่นลอกฝ้า ขัดผิว ล้างหน้า หรือกันแดด (การนำเอาเอชคิวผสมในสบู่หรือครีมล้างหน้าไม่น่าจะได้ผลดีในด้านฟอกสีผิว เพราะใช้แล้วล้างออกไปทำให้ระยะเวลาในการสัมผัสอยู่บนผิวไม่นานพอ ส่วนการผสมเอชคิวลงในครีมหรือโลชั่นกันแดด เอชคิวไม่ได้ออกฤทธิ์เป็นสารกันแดด แต่เป็นตัวทำให้หน้าขาว ใช้ร่วมกับสารกรองแสง เท่ากับในเครื่องสำอางชนิดเดียวกันมีฤทธิ์ ๒ อย่าง)
ฤทธิ์ของยาหรือสารเคมีที่ถูกนำมาใช้ประโยชน์ต่อร่างกาย มักจะมีทั้งข้อดีและข้อเสียอยู่ในตัวเสมอ มิอาจแยกเอาข้อดีมาใช้อย่างเดียว สารเอชคิวก็เช่นเดียวกัน เมื่อใช้ในความเข้มข้นสูงหรือใช้ไปนานๆ จะเกิดฤทธิ์แทรกซ้อน คือ แทนที่ผิวจะขาวนวลสวย กลับเกิดผิวด่างขาว เป็นจุด หรือเป็นดวงขาวอยู่บนหน้า บายรายใช้ใหม่ๆ ก็หน้าขาวสวยดีพอใช้ไปนานๆ หน้ากลับดำเหมือนดินหม้อ บางทีก็มีจุดดำๆเหมือนเม็ดหูดขึ้นหลายเม็ด เมื่อหยุดใช้ยาแล้ว ก็ยังไม่หาย เป็นที่น่าตกใจและน่าเสียดายความหวังที่จะได้หน้าขาว กลับได้หน้าดำและจุดล่างขึ้นมาแทน ต้องมาทำการรักษาอาการแทรกซ้อนต่อ พอถึงระยะนี้ การรักษาจะยิ่งยากต้องใช้เวลาและต้องทนหน้าด่างหน้าดำอยู่นาน
กฎหมายเครื่องสำอางได้ให้ความคุ้มครองผู้บริโภคอยู่แล้ว คือ อนุญาตให้ใช้เอชคิวในเครื่องสำอาง ได้ในความเข้มข้นไม่เกินร้อยละ ๒ แต่ถึงกระนั้น เมื่อใช้ไปนานๆ ก็อาจมีฤทธิ์ไม่พึงประสงค์เกิดขึ้นได้เหมือนกัน อีกประการหนึ่งวิสัยการใช้เครื่องสำอางของคนส่วนใหญ่ มักจะไม่ได้ใช้อยู่อย่างเดียว มักมีกรรมวิธีหรือการใช้เครื่องสำอางประทินผิวชนิดอื่นๆ ไป พร้อมๆ กัน เช่น ลอกหน้า พอกหน้า ขัดหน้า นวดหน้า สารประทินผิวในกระบวนการเหล่านี้ จะช่วยส่งเสริมการดูดซึมของสารเอชคิวให้เข้าสู่ผิวหนังได้มากขึ้น ซึ่งถึงแม้จะใช้ชนิดเปอร์เซ็นต์ควบคุม ก็จะเกิดฤทธิ์แทรกซ้อนเหมือนใช้ชนิดเข้มข้นได้เหมือนกัน
ยังมีเครื่องสำอางเถื่อน ที่อยู่นอกเหนือความควบคุมของทางการ มีผู้ฉวยโอกาสผลิตครีมลอกผ้าผสมเอชคิวในความเข้มข้นสูงเกินร้อยละ ๒ มีจำหน่ายตามร้านเสริมสวยหรือมีคนเดินขาย บางรายอ้างว่าเป็นยาของหมอ ครีมพวกนี้เมื่อนำมาใช้รักษาฝ้า จะได้ผลรวดเร็ว ก่อให้เกิดความประทับใจ แต่เมื่อใช้ไปสักพักหน้าจะแดงจัด พอหยุดใช้ก็ยิ่งดำกว่าเดิม ในกรณีเช่นนี้ทางการดูแลไม่ทั่วถึง ผู้ใช้ต้องรู้จักระวังภัยด้วยตนเองไม่เอาหน้าไปเสี่ยง เมื่อเสี่ยงซื้อมาแล้วให้คอยสังเกต หากเกิดอาการหน้าแดงหน้าดำ หรือขาวไม่เสมอกัน ต้องรีบหยุดใช้ ก่อนที่จะลุกลามเป็นมากขึ้น และเพื่อเป็นการช่วยเหลือสังคม เมื่อเราเห็นว่าสิ่งนี้ไม่ดีไม่ถูกต้อง ต้องช่วยบอกต่อ ๆกันไปจะได้รู้กันทั่ว เป็นการช่วยกันดูแล ควบคุม ป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นกับคนอื่น
คณะกรรมการอาหารและยาเห็นความสำคัญของเรื่องนี้ และเฝ้าติดตามผลเสียของเครื่องสำอางผสมเอชคิวอยู่นาน เห็นว่าไม่ได้ผล ก่อนที่จะปล่อยให้พิษภัยเกิดขึ้นมากกว่านี้ จึงมีแนวคิดว่าควรให้งดใช้เอชคิวในเครื่องสำอาง เพื่อให้ความปลอดภัยของประชาชนจากพิษภัยดังกล่าว
อย่าไปเสียดายเอชคิว หรือกลัวว่าจะไม่มียารักษาฝ้า ยังมีสารฟอกสีชนิดอื่นที่ทดแทนกันได้และมีพิษภัยน้อยกว่า สำหรับผู้ที่เป็นฝ้าเพียงเล็กน้อยไม่ถึงกับเสียโฉม ขอแนะนำให้ใช้เครื่องสำอาง แต่งหน้าปกปิด ปลอดภัยกว่าใช้ยาแรง ๆมาลอกหน้า จะได้ไม่ต้องเสี่ยง เสียโฉม เสียเงิน และเสียใจ
- อ่าน 3,773 ครั้ง
- พิมพ์หน้านี้