• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

ลูกติดทีวี

ลูกติดทีวี

ดิฉันมีลูกชายอายุ 4ขวบ เรียนอยู่ชั้นอนุบาล 1 เทอมหน้าก็ขึ้นอนุบาล 2 ดิฉันมีปัญหาเกี่ยวกับลูกชายคือ แกจะติดทีวีมาก สาเหตุคงเนื่องมาจากที่บ้านชอบดูทีวี ที่บ้านจะมีคนอยู่เยอะ คนนั้นเปิดทีคนนี้เปิดทีก็เรียกว่าเปิดแทบทั้งวันแล้วลูกก็ติด

แกจะมีม้วนวิดีโอการ์ตูนเรื่องที่ชอบอยู่ม้วนหนึ่ง แกจะเปิดดูทุกวันวันละหลายๆรอบ ตอนเช้าก่อนไปโรงเรียนก็จะเปิดดูก่อน ตอนเย็นกลับมาก็ต้องรีบมาเปิดดู เวลาไปซื้อของหรือไปไหนชวนแกไป แกก็ไม่ยอมไป เด็กๆแถวบ้านแกก็ไม่เล่นด้วย เรียกว่าแทบจะกินนอนอยู่หน้าทีวีจนบางครั้งต้องบังคับไม่ให้ดูทีวี ให้ไปเล่นนอกบ้าน ซึ่งแกก็ไม่ค่อยเต็มใจนัก ดิฉันอยากเรียนปรึกษาคุณหมอว่าจะแก้ปัญหานี้ได้อย่างไร ตอนนี้ดิฉันได้ให้คนในบ้านลดการดูทีวีลง และพยายามชวนแกไปโน่นไปนี่ แต่ก็ยังไม่ค่อยได้ผลเท่าไร ดิฉันกังวลว่าต่อไปแกจะเป็นคนเก็บตัวเข้าสังคมกับใครไม่ได้ค่ะ

                                                                                                          อัญชลี/สุราษฎร์ธานี

 

                                                         *********************************

 

ลูกชายอายุ 4 ขวบ ที่เรียนอยู่ชั้นอนุบาล 1 กำลังติดทีวีมาก แทบจะกินนอนอยู่หน้าทีวี เป็นปัญหารีบด่วนที่คุณอัญชลีมองข้ามไม่ได้ และจะต้องมีกลยุทธ์ต่างๆ เพื่อแก้ไขพฤติกรรมนี้ เด็กในวัย 4ขวบทั่วไปจะเป็นวัยของการเลียนแบบพฤติกรรมต่างๆของคนในสังคม

ป้าหมอเคยเห็นเด็กอายุ 4-5 ขวบที่มาพบหมอ แล้วนั่งไขว่ห้างเอานิ้ว 2 นิ้วทำท่าเหมือนคีบบุหรี่แล้วก็ยกนิ้ว 2 นิ้ว ที่ทำท่าเหมือนคีบบุหรี่เข้าออกจากปากเป็นระยะๆ แล้วยังทำท่าเหมือนพ่นบุหรี่ฉุย หลังจากที่ได้พบและได้พูดคุยกันไประยะหนึ่ง เด็กก็เล่าให้ฟังว่าที่บ้านคุณพ่อทำแบบนี้

เด็กอายุ 4 ขวบกำลังดูคุณอยู่ค่ะ คุณพ่อคุณแม่และคนในบ้านทำอะไรเด็กก็จะทำตาม ถ้าคุณพ่อคุณแม่เป็นนักอ่านและเริ่มพาเด็กไปร้านหนังสือในขณะนี้ เด็กก็จะอยู่ที่กองหนังสือการ์ตูนซึ่งมีรูปสัตว์นานาชนิดวาดสวยงาม เปิดดูอย่างไม่รู้จักเบื่อหน่าย โดยที่พ่อแม่สามารถแยกไปเลือกหนังสือในมุมของผู้ใหญ่ได้

เมื่อมาพบกันอีกครั้งหนึ่งนอกเหนือจากที่พ่อแม่ซื้อหนังสือสำหรับตัวเองแล้ว ลูกก็ยังมีการ์ตูนที่น่าสนใจกลับบ้าน พอหนุ่มคนนี้โตขึ้นบอกได้คำเดียวว่าเป็นนักวิชาการเรียนรู้สิ่งต่างๆรอบๆตัวได้เก่ง

คุณอัญชลีตอบคำถามแล้วนะคะว่า ที่บ้านมีคนอยู่แยะและชอบดูทีวี คนนั้นก็เปิดคนนี้ก็เปิด เปิดทั้งวัน แล้วลูกคุณอัญชลีก็เลยพลอยติดทีวีไม่ยอมไปไหนๆกับเพื่อน ถ้าอยากจะแก้คงจะต้องเริ่มแก้เลยค่ะ แต่ต้องแก้อย่างประนีประนอมอะลุ่มอล่วยและเห็นอกเห็นใจเด็ก

ถ้าเด็กได้เกิดพฤติกรรมชอบดูทีวีติดต่อเนิ่นนานมาจนชินแล้ว รวมทั้งถ้ามีอาหารขนมนมเนยอยู่หน้าทีวี ก็เรียกว่าที่นั่นสุขสบายทุกอย่าง การจะชักจูงให้เด็กมาสนใจกิจกรรมอื่นๆนั้น งานนี้คุณอัญชลีต้องลงไปเล่นเอง คุณพ่อเองก็มีส่วนสำคัญมากเพราะลูกชายควรจะได้รับแบบอย่างความเป็นชายชาตรีจากคุณพ่อโดยตรง ผู้หญิงเราเลี้ยงลูกให้ดีอย่างไรลูกก็จะนุ่มนิ่มดูไม่เป็นแมนเหมือนกับเด็กที่เป็นลูกของพ่อเขา

วิธีแก้ปัญหาคุณอัญชลีต้องหาสิ่งอื่นที่น่าจะสนใจสำหรับเด็กวัย 4 ขวบ เข้ามาทดแทน เช่น ลูกเรียนอยู่ชั้นอนุบาล 1และกำลังจะขึ้นอนุบาล 2 ไปรับให้ช้าหน่อยก็ได้ค่ะให้เด็กๆเล่นกับเพื่อนๆที่โรงเรียนก่อน หรือถ้าไปถึงเห็นเด็กกำลังเล่นกับเพื่อน ก็กรุณาอย่ารีบร้อนอยู่คอยให้ลูกเล่นให้เสร็จก่อน หรือบอกลูกว่าเล่นก่อนก็ได้อยู่เป็นเอนกันก่อน เพราะพ่อแม่ของเพื่อนคงยังจะไม่มารับ

เด็กก็จะสนุกสนานเพลิดเพลินจากกิจกรรมการเล่น แทนที่จะตรงดิ่งกลับบ้านไปดูทีวี หรือถ้ารับกลับบ้านแล้วไม่รีบร้อนมาก ก็อย่าเพิ่งไปเข้าบ้านพาไปตลาดเสียหน่อย เดินเข้าไปตลาดแล้วชี้ให้ลูกดูว่านั่นไข่เป็ด นี่ไข่ไก่ นั่นผักตำลึง นี่ผักบุ้ง เด็กก็จะได้ความรู้ไปอีกแบบหนึ่ง

ถ้ากลับมาถึงบ้านแล้ว และคุณพ่อคุณแม่อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ได้ สัตว์ต่างๆก็จะเป็นสิ่งที่ดึงความสนใจได้มาก เช่น อาจจะเลี้ยงแมวสักตัวหนึ่งช่วยกันตั้งชื่อแมว ให้ลูกมีกิจกรรมสำหรับแมว เช่น เอาอาหารไปให้แมวกิน เอาน้ำไปให้แมวกิน ช่วยล้างจานข้าวแมว หรืออนุญาตให้เด็กเล่นกับแมว หรือหมาบ้าง เด็กจึงจะเพลิดเพลินกับการเลี้ยงสัตว์จนแทบจะไม่อยากกลับไปดูทีวีเพียงอย่างเดียว

กิจกรรมอื่นๆที่ควรจะต้องมี เช่น การฝึกกล้ามเนื้อต่างๆ อาจจะทำได้โดยการซื้อจักรยาน ๒ ล้อขนาดเล็กสำหรับเด็ก ซึ่งมีขาค้ำกันล้มให้เด็กขี่ ก็จะทำให้เด็กผู้ชายสนุกสนานจนแทบจะไม่ลงจากจักรยาน นอกจากนี้ควรจะพาเด็กไปตามสถานที่ที่มีธรรมชาติต่างๆ เช่น เดินเล่นหน้าบ้าน แวะสังสรรค์กับเพื่อนบ้านบ้าง หรือชักชวนเด็กอื่นๆให้มาเล่นที่บ้าน หรือไปเล่นที่บ้านร่วมกับเด็กคนอื่นๆ ก็ล้วนแต่ทำให้ลูกสนุกสนานเพลิดเพลินและได้ฝึกเลียนแบบชีวิตของคนซึ่งมีแบบอย่างที่แตกต่างกัน

เพราะเพื่อนบางคนอาจจะรวย เพื่อนบางคนอาจจะจน เพื่อนบางคนอาจจะนิสัยดี เพื่อนบางคนอาจจะเกเร เพื่อนบางคนอาจจะโกรธฉุนเฉียวมาก เพื่อนบางคนอาจจะใจเย็น สิ่งเหล่านี้คือการวางพื้นฐานที่ไม่มีอยู่ในตำราเรียน แต่เด็กจะสามารถเรียนได้ ถ้าได้มีโอกาสและมีประสบการณ์

ค่อยๆทำนะคะ ไม่ต้องรีบร้อน ใจเย็นๆ คงจะต้องทำนานสักหน่อยกว่าที่จะได้ผล เพราะเด็กค่อนข้างชินกับการกินนอนอยู่หน้าทีวี ส่วนคนในบ้านซึ่งเป็นผู้ใหญ่แล้ว และชอบดูทีวีควรจะมีทีวีดูเป็นสัดเป็นส่วนในห้อง หรือถ้าลูกยังอยากดูทีวีมาก อย่าปล่อยลูกให้นั่งอยู่กับญาติคนอื่นๆเยอะแยะ คุณควรนั่งลงข้างๆลูก พูดคุยกับลูกในเรื่องที่ลูกกำลังดู เด็กก็จะเพลิดเพลินและได้ข้อคิดจากการดูทีวีแทนที่ดูเองคิดเองตามภาษาเด็ก

ส่วนเรื่องม้วนวิดีโอการ์ตูนที่ลูกชอบนั้น คงจะมีเนื้อหาอะไรบางอย่างพิเศษที่เด็กประทับใจ เช่น ตัวการ์ตูนอาจจะสวย ตัวการ์ตูนอาจจะเก่งหรืออาจจะมีเพลงเพราะ คุณอัญชลีลองหาวิดีโอม้วนที่เป็นการ์ตูนทำนองนั้น เช่น ถ้าเป็นการ์ตูนเรื่องกระต่าย ก็อาจจะหาเรื่องกระต่ายอีกม้วนหนึ่งมาให้เด็กดู เพื่อเปลี่ยนความทรงจำ ต้องทำเรื่อยๆ ทำจนกระทั่งเด็กเริ่มชอบการ์ตูนม้วนอื่นๆบ้าง ไม่อย่างนั้นก็คงจะเป็นเรื่องที่แก้ไขยาก

คุณอัญชลีเองก็เป็นคุณแม่ที่สนใจลูก มองถึงปัญหาดังกล่าวแล้วก็พยายามบังคับลูกให้ไปเล่นนอกบ้านซึ่งเด็กก็ไม่ค่อยสนใจนัก แสดงว่าคุณอัญชลีมีอิทธิพลต่อชีวิตลูก เมื่อคุณอัญชลีแนะนำให้ลูกทำอะไรลูกก็ทำได้ถึงแม้ว่าจะเป็นการบังคับ ลองค่อยๆเชิญชวนดูสิคะจะได้ผลดีกว่าการบังคับ

การมีกิจกรรมต่างๆนอกเหนือจากการดูทีวีบอกลูกได้เลยค่ะว่าสนุก มีเพื่อนแล้วก็ได้สะสมอะไรแปลกๆ ที่บางครั้งเราไม่เคยได้ยิน โตขึ้นถ้าลูกทำได้ลูกจะมีเพื่อนเยอะแล้วแม่เองก็ไม่ต้องกังวลว่าลูกจะเข้ากับคนอื่นไม่ได้หรือเป็นคนเก็บตัวอีกต่อไป

ขอเอาใจช่วยนะคะ ขอให้โชคดีเพราะคิดว่าแก้ไขได้และอย่าลืมชวนคุณพ่อเข้ามามีกิจกรรมละคะ เพราะจะได้เป็นสุภาพบุรุษเต็มตัวสมความตั้งใจของคุณพ่อคุณแม่ค่ะ
 

 

                                                           *********************************

ข้อมูลสื่อ

206-006
นิตยสารหมอชาวบ้าน 206
มิถุนายน 2539
ป้าหมอ