• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

รอยคล้ำ รอบดวงตา

ใบหน้าที่ชวนมองและมีเสน่ห์ หมายรวมไปถึงใบหน้าที่มี ดวงตาแจ่มใสเป็นองค์ประกอบที่สำคัญด้วยเช่นกัน

คงปฏิเสธไม่ได้ว่าใบหน้าที่งดงาม คงจะดูงามไปไม่ได้ ถ้าหากดวงตาคู่นั้นมีริ้วรอยหมองคล้ำ เหี่ยวย่นก่อนวัย เพราะขาดการดูแลเอาใจใส่จากเจ้าของ
คุณเป็นคนหนึ่งหรือเปล่า ที่ตื่นเช้ามาส่องกระจกแล้วพบว่าดวงตาของตัวเองไม่แจ่มใสเท่าที่ควร แถมยังมีเงาคล้ำๆ รอบดวงตา ดูชอบกล หรือบางคนก็อาจจะมีอาการตาบวม เรื่องนี้ทำให้ผู้หญิงกังวลได้มากเหมือนกัน การใส่ใจดูแลดวงตาเท่ากับที่ดูแลส่วนอื่นๆ ของร่างกาย และการปฏิบัติตัวที่ถูกต้อง จะช่วยลดปัญหาริ้วรอยที่ไม่พึงประสงค์ ได้มากทีเดียว

รู้ไหมว่าผิวหนังรอบดวงตานั้นเป็นส่วนที่บอบบางที่สุด อีกทั้งผิวหนังใต้ตาก็ไม่มีต่อมเหงื่อ ที่เป็นน้ำหล่อเลี้ยงผิวเหมือนส่วนอื่น ต่อมน้ำมันก็มีน้อย ดังนั้นผิวบริเวณใต้ตาจึงมักจะแห้งกว่าส่วนอื่นๆ แล้ววันหนึ่งๆ เราต้องกะพริบตานับหมื่นครั้ง (เฉลี่ยทุก 2 ถึง 10 วินาทีต่อครั้ง) เพื่อกระตุ้นกระบวนการหล่อลื่นของดวงตา จึงทำให้ผิวหนังส่วนนั้นเกิดริ้วรอยย่นได้ง่าย

รอยดำคล้ำใต้ตาที่เป็นปัญหาใหญ่ของผู้หญิง โดยทั่วไปจะไม่เกี่ยวข้องกับโรคภัยไข้เจ็บใดๆ และไม่ได้เกิดจากสาเหตุการพักผ่อนไม่เพียงพอ แต่เป็นปัญหาทางด้านกายวิภาคของร่างกาย และอาจเป็นเรื่องของกรรมพันธุ์ก็ได้ รอยคล้ำใต้ตาจะเห็นเด่นชัด ขึ้นเมื่ออดนอนเป็นเวลานานติดต่อกัน เมื่อร่างกายเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า อ่อนเพลียจากการใช้สายตา เครียด ดื่มสุรา ระหว่างการมีรอบเดือน ในช่วงท้ายของการตั้งครรภ์ เมื่ออายุมากขึ้นเงาดำก็จะยิ่งเข้มขึ้น เพราะการปรับตัวของผิวช้าลง ทำให้การไหลเวียนของเลือดบริเวณใต้ตาไปเลี้ยงผิวหนังไม่เพียงพอ และมารวมตัวอยู่ที่จุดเดียวคือใต้ตาคู่งามของคุณ แล้วร่องรอยหมองคล้ำนี้ก็จะยิ่งเป็นถาวรขึ้น

การดูแลดวงตาคู่งามให้เปล่งประกายสดใสอยู่เสมอนั้น ส่วนหนึ่งขึ้นอยู่กับการปฏิบัติตัวที่เหมาะสม ทั้งในเรื่องการกินอาหารที่มีประโยชน์ การพักผ่อนที่เพียงพอ การออกกำลังกายเป็นประจำ การดื่มน้ำสะอาดมากๆ และอารมณ์ที่ไม่เคร่งเครียด อีกส่วนหนึ่งเป็นการดูแลเฉพาะเป็นพิเศษ เมื่อมีการใช้สายตามากเกินไป หรือเมื่อเกิดรอยหมองคล้ำ

การใช้ครีมบำรุงรอบดวงตาเป็นประจำ จะทำให้ผิวหนังบริเวณใต้ตาดูชุ่มชื้น ไม่แห้งกร้านจนเห็นริ้วรอยได้ชัดเจน ส่วนการนวด การลอกหรือพอกหน้านั้น นอกจากจะเป็นวิธีที่ทำให้ผิวหน้านวลเนียนแล้ว ยังช่วยกระตุ้นให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงบริเวณใต้ตามากขึ้นด้วย ที่สำคัญจงพยายามหลีกเลี่ยงการขยี้ตา เพราะทำให้ผิวเหี่ยวย่นได้ง่าย

สำหรับคุณผู้หญิงที่กังวลเกี่ยวกับรอยคล้ำใต้ตา อาจใช้เครื่องสำอาง เพื่อลดริ้วรอยโดยเฉพาะทาปิดทับก่อนลงแป้ง ก็พอช่วยได้บ้าง หรือสำหรับผู้ที่สวมแว่นตา หากเลือกใช้แว่นสีชา ก็ทำให้แลดูว่ารอยคล้ำใต้ตาจางลงได้

วิธีง่ายๆ ในการป้องกันริ้วรอยรอบดวงตา
ให้ใช้ปลายนิ้วทั้ง 2 ข้าง กดลงบริเวณใต้ตา โดยเริ่มจากด้านหัวตาแล้วออกแรงกดเล็กน้อยพอให้มีน้ำหนัก จากนั้นค่อยๆ ดึงนิ้วไล่ไปลงสิ้นสุดที่หางตา ทำซ้ำ 2 ถึง 3 ครั้ง แล้วทำแบบเดียวกันนี้กับเปลือกตาบน
การนวดแบบนี้มีประโยชน์ คือเป็นการช่วยขับน้ำหล่อเลี้ยงลูกนัยน์ตาให้ออกมาเพิ่มขึ้น ช่วยให้ดวงตาผ่อนคลายจากการใช้สายตาเพ่งมองสิ่งต่างๆ มาเป็นเวลานาน ที่สำคัญคือช่วยลดปัญหาการเกิดถุงใต้ตา หรือปัญหาขอบตาดำช้ำจากการอดนอนได้

การใช้น้ำเย็นล้างตา หรือใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำเย็นจัดวางปิดที่ดวงตาทั้ง 2 ข้าง จะช่วยให้ตาที่เมื่อยล้าสดชื่นขึ้น
มันฝรั่งหั่นบางๆ (ยิ่งแช่เย็น ยิ่งดี) นำมาปิดบนเปลือกตา จะช่วยทำให้ตาบวมน้อยลง
แตงกวาฝานบางๆ (จะเย็นมากขึ้นถ้านำไปแช่ตู้เย็น) นำมาปิดตา จะช่วยให้ดวงตาสดชื่น และบรรเทาอาการคันตาได้
การใช้ถุงชาฝรั่ง อีกหนึ่งวิธีในการผ่อนคลายความเมื่อยล้าของดวงตา วิธีใช้คือแช่ถุงชาในน้ำร้อน แล้วยกขึ้น บีบน้ำส่วนที่ค้างอยู่ออก วางทิ้งไว้จนเย็นแล้วนำมาปิดตา กรดแพนนิน จากใบชาจะช่วยให้ผิวหนังที่บวมช้ำหดตัว และช่วยให้เย็นตาและรู้สึกผ่อนคลาย
 
รู้เคล็ดลับอย่างนี้แล้ว เลือกปฏิบัติเพื่อดวงตาสดใสกันได้เลย
 

ข้อมูลสื่อ

269-008
นิตยสารหมอชาวบ้าน 269
กันยายน 2544
ธารดาว ทองแก้ว