ซื้อของเล่นให้เหมาะกับวัยของลูก
การเล่นของเด็กนอกจากจะเป็นการเสริมสร้างพัฒนาการทั้งทางร่างกาย จิตใจ สมองของเด็ก แล้วยังสามารถส่งเสริมพัฒนาการด้านมนุษยสัมพันธ์ของเด็กด้วย หากผู้ใหญ่สามารถส่งเสริมการเล่นของเด็กให้สัมพันธ์กับพัฒนาการในวัยต่างๆ ของเด็ก การเล่นก็จะถูกดึงจากความคิดฝันจินตนาการให้เข้ามาสู่ความจริงในชีวิตมากขึ้นเรื่อยๆ
สมัยที่ยังเป็นเด็ก บางท่านคงยังจำได้ว่าของเล่นที่โปรดปรานนั้นไม่เคยต้องเสียสตางค์ หรือไปหาซื้อที่ไหน ส่วนใหญ่จะเป็นวัสดุธรรมชาติที่นำมาดัดแปลงเป็นของเล่นได้ทั้งนั้น อย่างกาบกล้วย ตัดส่วนใบออกเหลือเพียงส่วนหัวกับหาง ผูกเชือกสะพายเป็นม้ากาบกล้วย วิ่งไล่กันได้รอบบ้าน ลงมาจากบ้านเด็กผู้ชายจะรวมกลุ่มกันเล่นลูกหิน ลูกข่าง เป็นต้น ส่วนของเล่นที่เด็กผู้หญิงรวมกลุ่มกัน เช่น หมากเก็บ เล่นขายของ เป็นต้น จะได้เจอะเจอของเล่นมีราคาก็ต้องอดขนม เก็บสตางค์รองานวัด ซึ่งนานๆจะมีสักครั้ง
พอมาถึงสมัยนี้ ธุรกิจของเล่นเติบโตขึ้นซึ่งมีกลุ่มเป้าหมายล่อใจตั้งแต่เด็กจนถึงผู้ใหญ่ ของเล่นเด็กบางชิ้นก็มีราคาที่ไม่ใช่เล่น บางอย่างยังเป็นการเล่นที่ลดพัฒนาการด้านมนุษยสัมพันธ์ของเด็ก เพราะเด็กสามารถเล่นอยู่คนเดียวได้ทั้งวันทั้งคืน ถ้าไม่มีใครมาคอยควบคุมเรื่องเวลา และอิทธิพลของสื่อต่างๆ ที่ใช้ในการโฆษณาปัจจุบันยิ่งสามารถเข้าถึงจินตนาการของเด็กมากเท่าไร ท่านผู้ปกครองก็ยิ่งต้องระมัดระวังในการซื้อมากขึ้นเท่านั้น เพราะของเล่นบางอย่างอาจส่งเสริมความรุนแรง ซึ่งเป็นผลร้ายต่อจิตใจเด็ก
วัสดุที่ใช้ทำของเล่นเด็กส่วนใหญ่จะเป็นพลาสติกสีสันสวยงาม ดึงดูดความสนใจของเด็ก คงทน แตกหักยาก ทำให้สามารถเล่นได้นาน ราคาถูก และหาซื้อได้ง่าย แต่สีและโลหะที่อยู่ในเนื้อพลาสติกนั้นต้องระมัดระวังเพราะหากเป็นพลาสติกคุณภาพต่ำที่ไม่ใช่ใช้สำหรับทำของเล่นโดยเฉพาะ อาจเป็นอันตรายต่อเด็กเล็กๆ ที่ชอบเอาของเล่นเข้าปาก เนื้อพลาสติกอาจมีสารตะกั่วเจือปนหรือสีที่เคลือบพลาสติกอาจละลายในน้ำลายเด็กแล้วเข้าสู่ร่างกายเป็นอันตรายได้ ของเล่นที่เป็นชิ้นเล็กๆ ก็ต้องระวังเด็กเล็กที่อาจจับใส่ปากกลืนลงไปแทนขนม
ส่วนของเล่นเด็กผู้ชายที่เป็นไฟฟ้าท่านผู้ปกครองควรอ่านฉลากคำเตือนและวิธีเล่นให้ถูกต้องเสียก่อน แล้วค่อยสอนให้เด็กเล่นอย่างถูกวิธี นอกจากนั้นการสอนหรือการเรียนรู้ร่วมกันยังเป็นการเชื่อมความสัมพันธ์กับเด็กอีกด้วย
การเรียนรู้ธรรมชาติการเล่นของเด็กในแต่ละวัย จึงจะช่วยให้เด็กมีพัฒนาการที่ดีได้ ดังนี้
- วัยทารก ช่วง 3 เดือนถึง 12 เดือน
เป็นวัยที่เด็กรู้จักยิ้ม หัวเราะ ใช้เสียง มือเท้าเคาะ จับวัตถุได้ ของเล่นสำหรับเด็กวัยนี้จึงไม่ควรใช้สารจำพวกพลาสติก ตะกั่ว ดีบุก และควรดูแลอย่างใกล้ชิดไม่ให้เด็กนำของเล่นใส่ปาก
- วัยเด็กอายุ 2-6 ขวบ
เป็นวัยที่ซุกซน ชอบการวิ่ง กระโดด ปีนป่าย รื้อค้น ฯลฯ สามารถใช้ส่วนต่างๆของร่างกายได้คล่องแคล่วมากขึ้น สามารถเล่นอะไรแผลงๆจนทำให้ต้องเป็นห่วงอยู่เสมอ และบางครั้งการห้ามก็อาจไปขัดขวางพัฒนาการบางอย่างของเด็กได้ การเล่นของเด็กถ้าปล่อยให้เล่นได้โดยมีคนคอยดูแลอยู่ห่างๆ ก็จะทำให้เด็กเรียนรู้การป้องกันอันตรายตนเองไปด้วย ของเล่นที่สามารถรื้อได้ประกอบง่าย และทนทานก็จะช่วยประหยัดได้หากเจ้าตัวเล็กไม่เบื่อเสียก่อน
- วัยเด็ก 7-12 ขวบ
วัยนี้จะมีพัฒนาการทางสังคม มีมนุษยสัมพันธ์มากขึ้น เด็กจะชอบรวมกลุ่มกับเพื่อนเล่นด้วยกันโดยมีกฎกติกาง่ายๆ จะเริ่มสนใจการแข่งขันกีฬา มีความคิดริเริ่ม รู้จักประดิษฐ์ของเล่นเองอย่างง่ายๆ ซึ่งเป็นส่วนที่ควรส่งเสริม เด็กในวัยนี้ยังสามารถเรียนรู้และเข้าถึงสื่อต่างๆ ได้ดี โฆษณาจึงเข้ามามีอิทธิพลในการซื้อของเด็กวัยนี้มาก หลายคนยอมอดขนมเพื่อซื้อของเล่นอย่างเพื่อนแม้จะถูกผู้ปกครองห้าม แต่ก็ควรใช้ไม้อ่อนคุยกันด้วยเหตุผลก่อนไม้แข็ง
- วัยรุ่น
วัยนี้เด็กจะแยกกลุ่มผู้หญิงผู้ชายมากขึ้น การเล่นจะมีกฎเกณฑ์กติกาซับซ้อน มีจินตนาการและความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ควรส่งเสริมเรื่องงานอดิเรก เช่น การสะสมต่างๆ งานศิลปะ ดนตรี กีฬาต่างๆ
อย่าลืมว่าการส่งเสริมการเล่นของเด็กอย่างเหมาะสมของคุณจะช่วยเปิดประตูอนาคตให้กับพวกเขา ทำนองเดียวกับการห้ามบางอย่างก็อาจไปปิดกั้นหนทางแห่งอัจฉริยะของเด็กๆ ได้เช่นกัน ที่สำคัญที่สุด คือ เวลาที่คุณให้กับเด็กๆ จะยิ่งช่วยเสริมสร้างความมั่นคงทางจิตใจมากกว่าของเล่นแพงๆ แต่เพียงอย่างเดียว
- อ่าน 5,131 ครั้ง
พิมพ์หน้านี้