• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

อย่าตื่นตระหนก!! โรคแอนแทร็กซ์

เรียนรู้จากข่าวฉบับนี้ขอพาท่านผู้อ่านมาเล่าสู่กันฟังเรื่องอาวุธเชื้อโรคหรืออาวุธชีวภาพ ข่าวว่ามีการนำเชื้อโรคมาทำอาวุธเชื้อโรคได้กว่า 43 ชนิด และประเทศที่มีศักยภาพจริง ๆ ที่จะผลิตอาวุธเชื้อโรคอย่างเป็นล่ำเป็นสันส่วนใหญ่ก็เป็นประเทศมหาอำนาจ

เมื่อได้ยินคำว่าอาวุธแล้วก็อย่าเพิ่งตกใจกลัว โดยเฉพาะเห็นภาพในต่างประเทศเขาใส่เสื้อผ้าพิเศษอย่างกับเป็มนุษย์อวกาศเก็บเชื้อแอนแทร็กซ์ ( Anthrax ) หลายท่านเห็นแล้วอาจรู้สึกน่ากลัวตกใจ บางท่านอาจรู้สึกทึ่งกับเขาที่มีชุดทันสมัยขนาดนั้น

แต่พอมาดูภาพบ้านเราที่กำลังตรวจผงฝุ่นที่เกรงว่าจะเป็นเชื้อแอนแทร็กซ์ ใช้บุคลากรเพียงปิดปากปิดจมูกใส่ถุงมือเท่านั้น หลายท่านเห็นแล้วคงรู้สึกสบายใจว่าไม่น่ากลัวนัก บางท่านที่เห่อผรั่งอาจดูว่าของเราไม่ทันสมัยเลย ยิ่งเห็นผู้สื่อข่าวบางท่านออกมาบรรยายสรรพคุณประสิทธิภาพของอาวุธยุทโธปกรณ์ว่าเก่งกาจขนาดไหนที่จะสามารถทำลายและไล่ฆ่ามนุษย์อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งเห่อกับเทคโนโลยีไปกันใหญ่

กลับมาพูดเรื่องอาวุธเชื้อโรคต่อดีกว่า เชื้อโรคที่นำมาเป็นอาวุธนั้น ส่วนใหญ่มักเป็นเชื้อโรคที่เคยระบาดกับคนส่วนใหญ่และทำให้คนตายได้มากมายมาแล้ว คงไม่มีใครนำเชื้อหวัดไปเป็นอาวุธเชื้อโรคเพราะเป็นแล้วไม่ถึงตาย ไม่ต้องกินยาก็หายเองเสียอีก

เชื้อโรคที่เคยระบาดเหล่านั้น ต่อมาพบวิธีแก้ไข เช่นใช้วัคชีนหรือยา จึงหมดไปจากสังคมโลกทั่วไป เชื้อดังกล่าว เช่น เชื้อกาฬโรค เชื้อไข้ทรพิษ หรือฝีดาษ และอื่น ๆ แต่มีหน่วยงานของประเทศบางประเทศเก็บไว้ เขาว่าเอาไว้ศึกษาเผื่อเกิดระบาดขึ้นมาอีกจะได้มีทางแก้ไข ฟังแล้วก็ดูดี ถ้าไม่มีการนำมาเป็นอาวุธเชื้อโรคเสียเอง หรือหลุดไปอยู่ในมือพวกก่อการร้าย

สำหรับเจ้าเชื้อแอนแทร็กซ์ที่นำมาเป็นอาวุธเชื้อโรค ข้อมูลมีว่าไม่ต้องลงทุนสูงในการผลิต ทำให้ผู้ร้ายไม่ต้องเป็นมหาอำนาจก็สามารถผลิตขึ้นมาได้ และที่เจ้าเชื้อแอนแทร็กซ์มีชื่อเสียงขึ้นมาก็เพราะว่ามีบรรณธิการหนังสือพิมพ์อเมริกันคนหนึ่งเสียชีวิตไปจากการที่ได้รับจดหมายและสูดเอาฝุ่นผงเข้าในซองจดหมายที่มีเชื้อแอนแทร็กซ์เข้าไปในปอดจนเสียชีวิต นอกจากนั้น ก็มีคนนำฝุ่นผงในซองจดหมายที่มีแป้งทาตัวใส่ซองส่งเล่มในประเทศไทย ทำเอากลัวกันเป็นแถว

ปกติเชื้อแอนแทร็กซ์นี้ จะพบในสัตว์ เช่น วัว ควาย แพะ แกะ ฯลฯ ซึ่งพบได้ไม่ยากในแถบเอเชีย แอพริกา และละอเมริกา ในประเทศไทยเราก็ได้ยินข่าวเป็นระยะ ๆ แต่เชื้อนี้จะพบน้อยในกลุ่มประเทศยุโรปและอเมริกา

เชื้อแอนแทร็กนี้เป็นแบคทีเลียชนิดหนึ่งที่มีสปอร์ และสปอร์เป็นส่วนที่แพร่เชื้อโรค จึงมีการนำสปอร์ของเชื้อนี้มาทำเป็นอาวุธ การที่เชื้อนี้มีสปอร์ทำให้เชื้อนี้มีอายุที่มียืนยาว เชื้อนี้ติดต่อคนได้ 3 ทางคือการสัมผัสทางผิวหนังที่มีแผล การกิน และการสูดดมสปอร์เข้าไปในปอด

- การติดเชื้อเกิดจากได้รับเชื้อ
บรริเวณแผลจากการสัมผัสสัตว์ที่มีเชื้อ จะเกิดตุ่มน้ำปนหนองบริเวณที่เป็นแผล ต่อมาแผลจะแตกออกกลายเป็นสะกิดคล้ายรอยบุหรี่จี้ ต่อมาก็กระจายไปตามกระแสเลือด

- การติดเชื้อจากการกิน เกิดจากการกินเนื้อสัตว์ที่ไม่ปรุงให้สุก หรือสุก ๆ ดิบ ๆ จากสัตว์ที่เป็นโรค ผู้ป่วยจะแสดงอาการ คออักเสบ ปวดท้องรุนแรง มีไข้ อาเจียน ท้องเสียเป็นเลือด และช็อก

- การติดเชื้อการสูดดมเอาสปอร์ของเชื้อเข้าไปในปอด อาการทั่วไปคล้ายไข้หวัดใหญ่ หายใจลำบากและเร็ว สุดท้ายจะเข้าสู่กระแสเลือดเกิดเลือดเป็นพิษ เยื่อหุ้มสมองและไขสันหลังอักเสบ ซึ่งวิธีนี้อันตรายสูง

อย่างไรก็ตามเชื้อแอนแทร็กซ์นั้นไม่ติดต่อระหว่างคนกับคน จึงจำกัดขอบเขต ไม่ได้ระบาดเหมือนเชื้อร้ายอื่น ๆ และทางการแพทย์ หากวินิจฉัยถูกต้องว่าเป็นเชื้อแอนแทร็กซ์มียาง่าย ๆ รักษาหายได้

ดังนั้น จึงไม่ควรตกอกตกใจจนเสียขวัญ ถ้าท่านไม่ได้ไปปทำร้ายหรือกลั่นแกล้งใครให้เจ็บใจก็คงไม่มีใครทำร้ายท่านโดยต้องลงทุนหาเชื้อโรคมางานท่าน

แต่ไม่ควรประมาทหากได้รับสิ่งของทางไปรษณีย์ที่ผิดปกติก็ไม่ควรเปิด ควรระมัดระวังในการเปิดสักหน่อย การเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นมาจึงควรถือเป็นโอกาสในการเรียนรู้

หากมีผู้พบผงสีขาว มีลักษณะตามที่เป็นข่าว ให้ปฎิบัติดังนี้
- แจ้งตำรวจ แล้วกันออกจากบริเวณนั้น ถ้ามีการสัมผัสวห้ล้างมือด้วยสบู่และน้ำนาน 5 นาที จากนั้นให้แจ้งนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดจดรายชื่อผู้ที่สัมผัสผงสีขาวนั้น ๆ รับอาบน้ำทำความสะอาดรjางกาย แล้วพบแพทย์
- สำหรับการทำลายเชื้อและสปอร์ของแอนแทร็กซ์ จะถูกทำลายได้โดยวิธีต้มในน้ำเดือดนาน 20 นาที แช่น้ำยาฟอร์มาลีน 4 % นาน 4 ชั่วโมง หรือแช่น้ำยาฟอกขาว เช่น ไฮเตอร์เจือจางด้วยน้ำประมาณ 10 เท่า นาน 30 นาที
 

ข้อมูลสื่อ

271-002
นิตยสารหมอชาวบ้าน 271
พฤศจิกายน 2544
เธียร วิฑูรย์