• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

ผิวงามตามวัย

ผิวงามตามวัย
 

ผิวพรรณถือว่าเป็นสิ่งสำคัญและเป็นจุดแรกที่จะทำให้เกิดความประทับใจต่อคนที่พบเห็น โดยเฉพาะที่ใบหน้า คนผิวสวยจึงเป็นที่ชื่นชอบของบุคคลรอบข้าง ดังนั้น การดูแลรักษาผิวจึงนับว่าเป็นเรื่องสำคัญอันจะนำไปถึงสุขภาพกายและสุขภาพใจที่ดี

ผู้คนส่วนใหญ่ยังดูแลรักษาผิวของตนเองไม่ถูกวิธี ปล่อยให้อิทธิพลของสื่อโฆษณาต่างๆ มาชักจูงให้หันมาลองใช้ยาหรือเครื่องสำอาง เพื่อให้ผิวหน้าหรือผิวกายสวยงาม แต่ท้ายที่สุดหลายต่อหลายคนเกิดอาการแพ้ต้องรีบมาให้หมอรักษาผิวของคนในแต่ละวัยจะมีความชุ่มชื้น นุ่มนวล หรือเปล่งปลั่ง แตกต่างกันไปตามอายุ เด็กๆอาจจะมีผิวบางใสนุ่มนวลจนน่าอิจฉา ซึ่งเป็นลักษณะของเซลล์ที่อ่อนวัย อีกทั้งยังไม่เคยเจอกับสารพิษต่างๆที่จะทำลายผิว ไม่ว่าจะจากสภาพแวดล้อมหรือเครื่องปรุงแต่งต่างๆ พอเริ่มโตขึ้นมาจนถึงช่วงอายุ 30 กว่า เซลล์ผิวหนังจะเริ่มเสื่อม ความงดงามก็เริ่มลดน้อยลง การดูแลรักษาผิวจึงแตกต่างกันไปตามวัย ได้แก่ วัยทารก วัยเด็ก วัยรุ่น วัยกลางคน และวัยชรา

วัยทารก
ผิวจะอ่อนบาง ต้องระวังเรื่องการระคายเคืองเนื่องจากสะอาดมากเกินไป ที่น่าเป็นห่วงคือ คุณพ่อคุณแม่มักเลือกใช้สารที่แรงเกินไปสำหรับผิวเด็ก เพราะกลัวว่าจะไม่สะอาดพอ จึงล้างด้วยสบู่ยาบ้าง เช็ดด้วยแอลกอฮอล์บ้าง
ในปัจจุบันก็มีเครื่องสำอางสำหรับเด็กโดยเฉพาะ เช่น สบู่เด็ก ซึ่งไม่มีสารที่ระคายเคืองผิวเจือปนและมีส่วนผสมของไขมันช่วยทำให้ผิวไม่แห้งเกินไป แต่ในระยะหลังนี้มีสบู่เหลวออกมาจำหน่าย ซึ่งมีสาวนผสมของดีเทอร์เจน ซึ่งไม่ผสมไขมันเมื่อใช้ไปนานๆเด็กจะผิวแห้งเป็นขุย เป็นจุดด่างๆ จึงไม่ควรใช้กับทารก เพราะระคายเคืองผิวมากกว่าถนอมผิว

เสื้อผ้าของเด็กควรอ่อนนุ่ม บางเบา ไม่ใช่คำนึงถึงด้านสวยงามอย่างเดียว เพราะบ้านเราอากาศร้อน พวกผ้าอ้อมสำเร็จรูปก็เข้ามามีบทบาทมาก การใช้ต้องระวังไม่ให้เกิดโทษ คือไม่ใช้ตลอดเวลา เพราะอาจเกิดการระคายผิวและเป็นต้นเหตุให้เกิดเชื้อราหรือแบคทีเรียได้ จึงควรจะใช้เท่าที่จำเป็น ยาทาผิวประจำบ้าน เช่น น้ำมันหม่อง น้ำมันนวดกล้ามเนื้อ หรือน้ำมันแก้ฟกช้ำ ไม่เหมาะสำหรับผิวทารก อาจทำให้ผิวไหม้ได้
ถ้าผิวมีปัญหาจำเป็นต้องใช้ครีม ก็ควรจะใช้ครีมอ่อนๆ อย่าใช้ร่วมกับของผู้ใหญ่ เพราะสภาพผิวแตกต่างกัน อาจทำให้เกิดผลแทรกซ้อน ส่วนพวกเบบี้ออยหรือเบบี้ครีมใช้ทากันผิวแตกในอากาศหนาวได้ ช่วงอากาศร้อนไม่ควรใช้ เพราะจะไปอุดรูขุมขนและต่อมเหงื่อเป็นต้นเหตุให้เกิดผื่นคัน เบบี้โลชั่นบางชนิดมีส่วนผสมของยาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งในต่างประเทศเขาใช้ทำความสะอาดเมื่อเด็กเปรอะเปื้อน เนื่องจากอากาศหนาวไม่สะดวกในการใช้น้ำล้าง สำหรับเมืองไทยใช้น้ำสะอาดล้างก็พอแล้ว การใช้โลชั่นผสมน้ำยาฆ่าเชื้อบ่อยๆ ทำให้เกิดแพ้ได้

วัยเด็ก เป็นวัยที่มีปัญหาน้อย ปัญหาส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากการดูแลรักษาความสะอาดที่ไม่ดีพอ เนื่องจากเด็กเริ่มวิ่งซน หกล้มมีบาดแผล ถูกยุงกัด มดกัด พอเกาก็เป็นแผล มือไม่สะอาดก็จะเกิดการติดเชื้อ ควรรักษาความสะอาดด้วยการล้างมือ ล้างเท้า เมื่อกลับจากโรงเรียน ตัดเล็บให้สั้น โดยถือปฏิบัติตามหลักสุขอนามัยที่สอนในโรงเรียน เมื่อถูกยุงหรือมดกัดควรล้างน้ำฟอกสบู่ บางคนแพ้ยุงอย่างที่ชาวบ้านเรียกว่า “น้ำเหลืองเสีย” ต้องป้องกันไม่ให้ถูกยุงกัดด้วยการอยู่ในห้องมุ้งลวด สวมเสื้อแขนยาว นุ่งกางเกงขายาวอยู่เสมอ

วัยรุ่น (ตั้งแต่อายุ 14-25 ปี) เป็นวัยที่มีปัญหาเกี่ยวกับผิวพรรณมาก เนื่องจากร่างกายเริ่มเปลี่ยนแปลง มีฮอร์โมนทางเพศมาเกี่ยวข้อง เริ่มมีต่อมน้ำมันซึ่งไม่มีในวัยทารกและวัยเด็ก ลักษณะผิวเริ่มถูกควบคุมด้วยฮอร์โมน จะเริ่มรู้ว่าใครมีผิวแบบไหน ผิวมัน ผิวแห้ง หรือผิวธรรมดา
บางคนเริ่มมีสิวและเริ่มรักสวยรักงาม ขวนขวายหาเครื่องสำอางมาใช้หรือใช้ตามเพื่อน มีทั้งโฟมล้างหน้า ครีมล้างหน้า ครีมบำรุงผิว เริ่มแต่งหน้าแต่งตาตามแฟชั่น เป็นรูปแบบของสังคมว่าพอเริ่มวัยรุ่นจะต้องเริ่มใช้เครื่องสำอางกันแล้ว ทั้งๆที่ไม่จำเป็นเลยเพราะวัยรุ่นเป็นวัยที่ผิวสวยที่สุด สวยโดยธรรมชาติอยู่แล้ว ควรแต่งหน้าแต่พองามและใช้เครื่องสำอางเท่าที่จำเป็น เพราะคนที่มีปัญหาเรื่องผิวในวัยนี้ส่วนใหญ่มักจะเกิดจากการแพ้เครื่องสำอาง บางคนแพ้แล้วก็ยังไม่รู้ว่าตัวเองแพ้ ใช้อยู่นานจนเกิดสิวขึ้นมาเต็มหน้า ดังนั้นถ้าใช้เครื่องสำอางแล้วมีปัญหาเกิดความผิดปกติ เช่น คันหน้า หน้าลอก สิวขึ้น หรือหน้าแดงต้องหยุดใช้
⇒ คนที่หน้ามันมักจะมีปัญหาเรื่องสิว การล้างหน้าบ่อยไม่ได้ช่วยให้หน้าหายมัน ยิ่งล้างมากก็ยิ่งไปกระตุ้นต่อมให้ผลิตน้ำมันมากขึ้นอีก ควรใช้กระดาษซับมันซับเบาๆก็พอ ส่วนเครื่องสำอางประเภทครีมหรือออยนั้นเหมาะกับคนหน้าแห้ง ถ้าหน้ามันมากอาจจะใช้โลชั่นผสมยาประเภทแอลกอฮอล์เช็ดทำความสะอาดก่อนจะล้างด้วยสบู่ธรรมดา
⇒ คนหน้าแห้งไม่ควรล้างหน้าบ่อย การล้างด้วยโฟมหรือสบู่เหลวจะยิ่งทำให้หน้าแห้ง เพราะน้ำมันธรรมชาติที่เคลือบผิวอยู่ถูกละลายออกไป ถ้าหน้าแห้งมากควรล้างด้วยครีม วิธีใช้คือ ทาครีมให้ทั่วหน้าแล้วใช้ทิชชูเช็ดออกแล้วล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง
⇒ ส่วนคนผิวธรรมดาปัญหายิ่งน้อย ใช้แค่สบู่ธรรมดา ล้างด้วยน้ำสะอาดก็เพียงพอ

ปัญหาที่เกิดขึ้นจึงอยู่ที่ความไม่พอดี ความไม่เข้าใจในการดูแลรักษาผิวของตนเอง ประกอบกับการโฆษณาชวนเชื่อในรูปแบบต่างๆ ยกตัวอย่างการนวดหน้าซึ่งไม่มีความจำเป็นในวัยนี้ อาจจะช่วยให้ดูสดใสชั่วคราว เพราะการนวดจะช่วยให้การไหลเวียนเลือดดีขึ้น แต่หลังจากนั้นก็กลับเหมือนเดิมและอาจมีปัญหาตามมาอีก เช่น สิวหัวหนอง สิวหัวดำ เป็นต้น
วัยนี้เป็นวัยที่ผิวพรรณสวยสดชื่นตามธรรมชาติมากที่สุด จึงไม่ควรให้สารเคมีมาทำลายผิวอันสวยงามก่อนถึงเวลาอันสมควร

วัยกลางคน อยู่ในระหว่างช่วงอายุ 25 ปีจนถึง 50 ปี จึงเป็นช่วงที่มีจำนวนคนมากที่สุด เป็นช่วงที่อยู่ในวัยทำงาน ต้องออกสังคมบ่อย เริ่มแต่งหน้ามากขึ้น เริ่มแก่ ปัญหาของวัยนี้เกิดขึ้นจากความกลัวแก่จึงพยายามทุกวิถีทางที่จะชะลอความแก่ การโฆษณาด้านนี้จึงเข้ามามีบทบาทมาก ใครบอกว่าครีมชนิดไหนใช้ได้ผลทำให้หน้าไม่แก่ ไม่ย่น ก็จะรีบไปหามาใช้ ไม่ว่าจะแพงเท่าไร คนไม่เคยมีฝ้าก็เริ่มมีฝ้าซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติ ตามกรรมพันธุ์ จากอายุที่มากขึ้นและจากแสงแดด ต้องคำนึงไว้ด้วยว่าแสงแดดเป็นสาเหตุหนึ่งที่มีอิทธิพลต่อการทำให้ผิวเสื่อมและแก่เร็ว
ในวัยกลางคน บางครั้งจำเป็นต้องแงหน้าเพื่อปกปิดริ้วรอย ถ้าไม่แพ้ก็ไม่มีข้อห้าม แต่ควรระลึกไว้เสมอว่าผิวของใครก็ของคนนั้น ผิวดำจะเปลี่ยนเป็นขาวไม่ได้ ผิวมันก็จะเปลี่ยนเป็นแห้งไม่ได้ การใช้เครื่องสำอางอาจช่วยปรับผิวได้ชั่วคราว การที่คนหนึ่งใช้เครื่องสำอางชนิดหนึ่งแล้วดีก็ไม่ใช่ว่าอีกคนใช้แล้วจะดีเหมือนกัน ผิวใครจะสวยมากสวยน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับกรรมพันธุ์เป็นส่วนใหญ่

วัยชรา เป็นวัยเสื่อมของสังขารซึ่งร่วงโรยไปตามวันเวลา เซลล์ผิวหนังแห้งเหี่ยวและไม่มีการสร้างขึ้นมาใหม่ คุณสมบัติของผิวในการอุ้มน้ำจะลดลง เนื่องจากฮอร์โมนที่ทำหน้าที่ควบคุมลดลง ผิวจะบางลง ผมก็บางลง ต่อมเหงื่อ ต่อมน้ำมัน และรูขุมขนก็ฝ่อลงด้วย เนื้อเยื่อและไขมันที่อยู่ใต้ผิวหนังลดลง มีจุดตกกระเกิดขึ้น จุดดำบ้าง ขาวบ้าง ซึ่งเป็นความเสื่อมตามธรรมชาติ ยาทาอาจจะช่วยได้บ้างโดยทำให้ผิวที่หนาผิดปกติหลุดลอกออกไปหรือดูดีขึ้น

การปฏิบัติตัวในวัยนี้กลับไปเหมือนทารกใหม่เพราะมีผิวที่เปราะบาง ไม่ควรอาบน้ำบ่อยจนเกินไป วันละ 2 ครั้งก็พอ น้ำที่ใช้อาบไม่ควรร้อนจัดหรือเย็นจัด ควรจะเป็นน้ำอุ่นเพราะจะทำให้ผิวแห้ง สบู่ไม่ควรใช้สบู่ยาหรือสบู่เหลว หลังอาบน้ำอาจใช้ครีมบำรุงผิวเพื่อช่วยให้ผิวชุ่มชื้นขึ้น ไม่ควรถูกแสงแดดนานจะเกิดผิวไหม้แดดง่าย ผิววัยชรามีเส้นเลือดเปราะแตกง่าย จึงควรระวังการกระทบกระแทกและบาดเจ็บเพราะเมื่อเกิดแผลจะหายช้า

สรุปว่า การดูแลรักษาผิวที่ถูกต้องควรจะดูให้เหมาะกับวัย ควรใช้เครื่องสำอางเท่าที่จำเป็น เพราะผิวหน้าของเราไม่ใช่มีไว้ทดลองคุณภาพของเครื่องสำอาง

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้คนมีผิวแตกต่างกัน ได้แก่ กรรมพันธุ์ อาหาร งานอาชีพ สุขภาพอนามัย และสุขภาพจิตใจ กล่าวคือ ถ้าเกิดมาผิวพรรณดี ทำงานในร่มไม่ต้องถูกแสงแดด กินอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วน ออกกำลังกายสม่ำเสมอ สุขภาพแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัว ไม่มีความวิตกกังวล หรือเคร่งเครียดมาก ย่อมจะมีผิวที่สวยงามและชะลอความแก่ลงไปได้มาก ไม่มีเครื่องสำอางหรือยาใดที่จะสามารถทำให้คนเราเป็นหนุ่มเป็นสาวได้ตลอด ยังไม่มีใครสามารถยับยั้งสังขารไม่ให้เสื่อมได้เลย


 

 

ข้อมูลสื่อ

190-006
นิตยสารหมอชาวบ้าน 190
กุมภาพันธ์ 2538
พญ.ปรียา กุลละวณิชย์