• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

ปัญหาของริมฝีปาก

ปัญหาของริมฝีปากก็ไม่แตกต่างจากผิวพรรณในส่วนอื่นของร่างกาย และสิ่งที่ก่อความกังวลให้กับหญิงสาวจำนวนมากก็คือ ปัญหาริมฝีปากคล้ำ ริมฝีปากแห้งและแตกหรือลอกเป็นขุย ซึ่งหากดูแลไม่ดีพอหรือแก้ปัญหาไม่ถูกจุด ริมฝีปากก็จะยิ่งดำคล้ำทำให้ดูน่าเกลียด และบั่นทอนความงดงามของใบหน้าลงไปมากทีเดียว

สวยงามตามธรรมชาติ
สีของริมสีปากในคนปกติมีตั้งแต่ชมพูสด สีแดง ไปจนถึงสีคล้ำ การเปลี่ยนแปลงของสีที่ริมฝีปาดเป็นลักษณะเฉพาะตัวบุคคล เช่นคนผิวคล้ำก็มีแนวโน้มว่าปากจะมีสีเข้มมากกว่าคนผิวขาว
นอกจากนั้นก็ยังเป็นไปตามวัยและสภาพแวดล้อมด้วย ที่ธรรมชาติได้กำหนดไว้ว่าเมื่ออายุมากขึ้น ริมฝีปากก็จะเริ่มมีสีเข้มขึ้นเรื่อย ๆ เช่นเดียวกับสีของผิวหนังส่วนอื่น ๆ ในร่างกาย เพราะฉะนั้นก็อย่ากังวลไปเลย

ปัญหาของริมฝีปาก
ริมฝีปากเป็นอวัยวะบนใบหน้าที่ยื่นนูนออกมาเช่นเดียวกับจมูกและโหนกแก้ม ดังนั้นจึงได้รับผลกระทบจากสิ่งแวดล้อม และความเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศที่ร้อน หนาว และแล้งแห้ง ไม่ต่างจากใบหน้าที่ต้องเจอปัญหาการเกิดฝ้า กระ และจุดด่างดำต่าง ๆ

นอกจากนี้ อาหาร เครื่องดื่ม ยาบางชนิด การสูบบุหรี่ ยาสีฟัน ลิปสติก และความเจ็บป่วย ก็มีส่วนในการทำให้ริมฝีปากมีสีคล้ำขึ้นด้วย

ริมฝีปากดำคล้ำ
เกิดจากเหตุปัจจัยอย่าง ลองพิจารณาดูว่าปัญหาของคุณเกิดจากสิ่งเหล่านี้หรือเปล่า
ลักษณะเฉพาะบุคคล ดังที่กล่าวว่า คนผิวเข้มและมีรอยฝีปากสีเข้มมากกว่าคนผิวขาว ซึ่งเป็นเรื่องของธรรมชาติของคนคนนั้น
อุณหภูมิ อาจมีผลทำให้สีของริมฝีปากเปลี่ยนแปลงได้ เช่น ช่วงที่อากาศหนาวเย็น ปากอาจจะมีสีคล้ำขึ้น เพราะเส้นเลือดหดตัวและมีเลือดดำคั่งค้างมากกว่าปกติ
ผู้ที่สุขภาพไม่สมบูรณ์ เช่น เลือดจาง เจ็บป่วยเรื้อรัง ผู้ป่วยระยะฟื้นไข้ ปริมาณเลือดที่ไหลมาเลี้ยงริมฝีปากมีน้อย จึงทำให้ปากดูซีดเขียว ไม่มีสีสัน หรือผู้ป่วยโรคหัวใจที่เลือดมีสีเข้มข้น ก็จะทำให้ริมสีปากดูกล้ำกว่าคนปกติได้
อาหารที่เรากินอยู่ทุกวัน ก็มีส่วนไม่น้อยที่ทำให้เกิดปัญหาปากคล้ำ ตัวอย่างเช่น ผักขึ้นฉ่าย ผักชีฝรั่ง หอม กระเทียม ขิง หรือผลไม้ ของเปรี้ยวพวกส้ม มะนาว มะกรูด สับปะรด มะม่วง ฯลฯ เนื่องจากอาหารเหล่านี้มีสารที่ชื่อว่า โซราแลน ( psoralen ) สารดังกล่าวเมื่อตกค้างตามริมฝีปากก็ไม่ได้ทำให้เกิดปัญหาแต่ย่างไร แต่ถ้าสารนั้นสัมผัสกับรังสีอัลตราไวโอเลตในแสงแดด ก็จะเกิดปฏิกิรียาเคมีทำให้ผิวริมฝีปากอักเสบ และมีการกระตุ้นเซลล์สร้างให้สร้างเม็ดสีออกมามาก ๆ จนปากดำคล้ำ ( ทางแพทย์เรียกว่าปฏิกิริยาแพ้แดด )
ยาบางชนิด ก็เป็นสาเหตุทำให้เกิดปฏิกิริยาแพ้แดดได้ เช่น เบาหวาน ยาขับปัสสาวะ ยารักษาเชื้อรา ยารักษาหวัดหรือโรคภูมิแพ้
ริมฝีปากแห้ง ปากแตก หรือลอกเป็นขุย ส่วนใหญ่เกิดจากสิ่งที่ใช้อยู่ชีวิตประจำวันนี่เอง โดยที่หลายคนนึกถึง เช่น
ยาสีฟันและน้ำยาบ้วนปาก ซึ่งส่วนผสมของฟลูออไรด์หรือแอลกอฮอล์ในปริมาณสูง รวมถึงสารที่ทำให้เกิดฟอง และสารที่ทำให้เกิดความสดชื่นที่มีรสเผ็ดซ่าในยาสีฟันด้วย
ลิปสติก ซึ่งสารประกอบที่ก่อให้เกิดปัญหาได้บ่อยที่สุดก็คือ สี กลิ่น น้ำหอม ลาโนลิน ( ที่ให้ความชุ่มชื้น ) และสารกันบูด
สิ่งแวดล้อมรอบตัว เช่น อากาศ ที่เย็นและแห้งในหน้าหนาว หรือการทำงานในห้องปรับอากาศตลอดเวลา และการดื่มน้ำน้อย เป็นสาเหตุสำคัญอย่างหนึ่งที่ทำให้ริมฝีปากแห้ง
การเลียริมฝีปาก ซึ่งคนส่วนใหญ่ใช้วิธีนี้แก้ปัญหาปากแห้งและแตก แต่ความจริงที่ค้านกันความเคยชินของคนทั่วไป กลับกลายเป็นว่าหากเลียริมฝีปากบ่อย เอนไซม์ที่ช่วยย่อยอาหารในน้ำลายจะยิ่งรบกวนผิวริมฝีปากให้แห้งมากยิ่งขึ้น
การใช้ลิปปาล์ม เป็นเวลานานจนติดเป็นนิสัย เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ปากแห้ง ลิปปาล์มอาจช่วยบรรเทาริมฝีปากแห้งได้ชั่วคราว แต่ในระยะยาวอาจทำให้ริมฝีปากแตกแห้งมากขึ้น เพราะสาระสำคัญที่ผสมอยู่ในลิปปาล์มทั่วไปจะดูดความชื้นออกจากริมฝีปาก จึงทำให้ต้องทาลิปปาล์มบ่อยมากขึ้น

แก้ไขได้ไม่ยาก
หากสำรวจตัวเองจะได้คำตอบแล้วว่า ต้นตอของปัญหาริมฝีปากดำคล้ำ แห้ง แตก และลอกเป็นขุยเกิดจากสาเหตุใด วิธีแก้ไขก็ไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไรเลย โดยปฏิบัติตามคำแนะนำต่อไปนี้
1. ดื่มน้ำมาก ๆ มากจนเพียงพอที่จะให้ความชุ่มชื้นทั่วถึงทุกส่วนของผิวหนัง รวมทั้งริมฝีปาก เพราะยิ่งอายุมากขึ้น เซลล์ในร่างกายจะเก็บความชุ่มชื้นได้น้อยลง
2. เมื่อกินผักผลไม้เสร็จ ล้างปากให้สะอาดทุกครั้ง
3. เปลี่ยนยาสีฟัน ที่มีฟองมาก รสเผ็ดซ่า เป็นยี่ห้อที่มีฟองน้อยและเผ็ดน้อย หรือใช้ยาสีฟันเด็ก หรืออาจใช้วิธีทาวาสลินขาวเคลือบริมฝีปากก่อนแปรง เพื่อป้องกันฟองยาสีฟันรบกวน ถ้าไม่มีวาสลินขาวจะใช้เบบี้ออย ( beby oil ) แทนก็ได้
4. อย่าเลียริมฝีปาก แม้ว่าจะช่วยให้ริมฝีปากชุ่มชื้น ( ชั่วคราว ) แต่เมื่อความชื้นระเหยกลับจะทำให้ปากยิ่งแห้งมากขึ้น
5. ทาริมฝีปากบ่อย ๆ ด้วยวาสลินขาวแทนลิปกลอสหรือลิปมันที่แห้งหรือแห้งไป หรืออาจใช้ลิปปาล์มที่มีส่วนประกอบเป็นสารจากธรรมชาติ และมีสารป้องกันแสงแดดรวมอยู่ด้วย

การย้อมสีริมฝีปากให้แดงสด แม้จะมีให้บริการในร้านเสริมสวยหลายแห่ง ก็ไม่แนะนำให้แก้ปัญหาด้วยวิธีนี้ เพราะนอกจากจะไม่คงทนถาวรและไม่เป็นธรรมชาติแล้ว อาจเป็นอันตรายจากสารเคมีเหล่านั้นได้

สู้สวยจากข้างใน สวยที่ใจ และการปฏิบัติตัวที่ถูกต้องเหมาะสมไม่ได้ เพราะวิธีนี้จะทำให้คุณดูดีตลอดไป
 

ข้อมูลสื่อ

271-009
นิตยสารหมอชาวบ้าน 271
ตุลาคม 2544
ธารดาว ทองแก้ว