• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

ลายมือบอกโรค

ลายมือบอกโรค
 

ลายเส้นบนฝ่ามือของมนุษย์นั้น เป็นสิ่งที่ดึงดูดความสนใจของมนุษย์มาโดยตลอดตั้งแต่อดีตกาลจวบจนปัจจุบันนี้ จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์คือเครื่องปั้นดินเผายุคสังคมบุพกาลที่ขุดพบที่หมู่บ้านป้านพอ มณฑลซีอาน ซึ่งมีอายุกว่า 6,000 ปีมาแล้ว เครื่องปั้นดินเผาเหล่านั้นมีรอยพิมพ์นิ้วมือปรากฏให้เห็น นับเป็นเครื่องปั้นดินเผาที่เกี่ยวข้องกับเส้นลายมือที่เก่าแก่ที่สุดของโลก นอกจากนี้เมื่อประมาณ 4,300 กว่าปีก่อนคริสศักราชในยุคหินใหม่มีภาชนะดินเผาที่วาดลายเส้นนิ้วมือบนภาชนะดินเผาในยุคนั้นหลงเหลืออยู่ และปรากฏให้เห็นในยุคปัจจุบัน

ณ พิพิธภัณฑสถานในเมืองชิคาโก ประเทศสหรัฐอเมริกา มีตราชื่อโบราณซึ่งด้านหน้าแกะชื่อนามสกุลเป็นตัวหนังสือจีนไว้ และด้านหลังตราชื่อมีรอยนิ้วหัวแม่มือปรากฏให้เห็น สันนิษฐานว่าเป็นตราชื่อที่ทำขึ้นในระหว่างสมัยโจวถึงสมัยฮั่น หรือประมาณ 2,000 กว่าปีมาแล้ว

มือทั้งสองข้างของมนุษย์นั้นไม่เพียงแต่เป็นเครื่องมือสำหรับใช้งานเพื่อสร้างสรรค์โลก ขณะเดียวกันมือยังเป็นอวัยวะที่สะท้อนอารมณ์จิตใจของมนุษย์ออกมาให้เห็นภายนอกอีกด้วย ดังคำกล่าวของนักปรัชญาชาวเยอรมัน ชื่อ อิมมานูเอล คานท์ (Immanuel Kant – 1804) กล่าวไว้ว่า
“มือคือสมองที่อยู่ข้างนอกของมนุษย์”

ทั้งนี้เพราะสิ่งมีชีวิตทั้งหลายในโลกนี้ มีเพียงมนุษย์และสัตว์จำพวกลิงเท่านั้นที่มีลายเส้นบนฝ่ามือสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดอื่น ฝ่ามือและเท้าจะเรียบไม่มีลายเส้นให้เห็นด้วยเหตุที่มนุษย์และสัตว์จำพวกลิงมีสมองที่พัฒนามากกว่าสัตว์ประเภทอื่นๆ ดังนั้นความเฉลียวฉลาดตลอดจนอารมณ์ความรู้สึกจึงมีความเกี่ยวข้องกับเส้นลายมืออย่างแยกไม่ออก และนี่เองคือจุดเริ่มที่มนุษย์หันมาสนใจเส้นลายมือของตนเอง


การแพทย์จีนเชื่อว่า ร่างกายมนุษย์นั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่เป็นองค์รวมการเปลี่ยนแปลงซึ่งปรากฏให้เห็นที่อวัยวะภายนอกนั้น มีความสัมพันธ์อย่างสนิทแน่นกับอวัยวะภายในอย่างแยกไม่ออก
ทฤษฎีเส้นลมปราณของการแพทย์จีนนั้นได้อธิบายไว้ว่า

เส้นลมปราณเป็นเส้นที่เชื่อมโยงอวัยวะภายในและภายนอกเข้าด้วยกัน ด้วยเหตุนี้ความผิดปกติของอวัยวะภายในก็จะสะท้อนออกมาให้เห็นภายนอกโดยเส้นลมปราณเหล่านี้ ทำนองเดียวกันความผิดปกติที่เกิดขึ้นจากภายนอกก็จะส่งผลกระทบต่ออวัยวะภายในด้วยเช่นกัน”

สำหรับแขนทั้งสองข้างนั้นมีเส้นลมปราณหลักทั้ง 12 เส้นพาดผ่านและมีจุด(สำหรับปักเข็ม) ถึง 86 จุด นอกจากนี้ยังมีจุดพิเศษอีก 224 จุด แสดงให้เห็นว่าเส้นลมปราณซึ่งพาดไปทั่วร่างกายนั้นมารวมกันที่มือ ดังนั้นมือจึงสามารถสะท้อนความผิดปกติของอวัยวะภายในต่างๆออกมาให้เห็นได้เช่นกัน
ดังนั้นเมื่ออวัยวะภายในผิดปกติก็จะสะท้อนออกมาให้เห็นที่อวัยวะใดอวัยวะหนึ่งภายนอกของร่างกาย ดังที่กล่าวไว้ในหนังสือ หลิงซูบทเปิ่นจั้ง ว่า

มองปรากฏการณ์ที่ปรากฏภายนอกก็จะรู้ความผิดปกติของอวัยวะภายใน นั่นคือรู้ถึงความเจ็บไข้ได้ป่วย”
แพทย์จีน จูตานชวี(ค.ศ.1281-1358) ได้กล่าวไว้เช่นกันว่า
“อยากรู้ภายใน จะต้องดูจากภายนอก วินิจฉัยจากภายนอก จึงจะรู้ภายใน”
การเปลี่ยนแปลงของลายเส้นบนฝ่ามือ สามารถสะท้อนให้เห็นถึงโรคต่างๆได้ ทำให้การวินิจฉัยโรคและการรักษาโรคทางคลินิกชัดเจนยิ่งขึ้น ดังบทสรุปทางปรัชญาที่ว่า
ในขอบเขตหนึ่งๆ ปรากฏการณ์ภายนอกจะสามารถจะสามารถสะท้อนความขัดแย้งภายในร่างกายให้เห็น”

กล่าวโดยทั่วไปแล้ว การดูลายเส้นบนฝ่ามือนั้นโดยความเคยชินแล้วจะดูมือขวาก่อน แล้วค่อยดูมือซ้าย ดูลักษณะของมือก่อน แล้วจึงดูลักษณะของฝ่ามือ ลักษณะของนิ้ว หลังจากนั้นจึงดูผิวหนัง ดูลายเส้นบนด้านหน้าและสันมือ ดูลายเส้นบนฝ่ามือ แล้วเปรียบเทียบมือซ้ายและขวา จะต้องพิจารณาอย่างละเอียดจึงจะแม่นยำ


สำหรับการดูลายมือของชาวตะวันตกนั้นมักจะดูมือขวาก่อน เพราะเชื่อว่าลายเส้นมือขวาจะสะท้อนสภาวะที่เกิดขึ้นภายหลัง เป็นตราประทับที่บ่งบอกถึงสภาพแวดล้อมของการเจริญเติบโตในวัยเด็กและวัยรุ่น ตลอดจนประสบการณ์ของชีวิตเมื่อเข้าสังคมแล้ว ส่วนมากมักสะท้อนสภาวะ และความแข็งแรงของร่างกายในปัจจุบันและอนาคต

ส่วนลายเส้นมือซ้ายจะบ่งบอกถึงคุณภาพของร่างกายที่ถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์ มักสะท้อนให้เห็นถึงสุขภาพและการเจริญเติบโตในวัยทารกและเด็ก ตลอดจนสภาพร่างกายในช่วงที่ผ่านไปแล้ว
การดูลายมือจะต้องพิจารณาดังต่อไปนี้

1. ลักษณะของมือ สามารถแบ่งออกได้ 7 ลักษณะด้วยกันคือ
1.1 ลักษณะมือเด็ก ลักษณะมือเล็กและสั้น นิ้วมือคดเล็กน้อย เส้นข้อนิ้วด้านหลังมือยุ่งและลึก เส้นเลือดดำอยู่ตื้น
ผู้ที่มีรูปมือแบบนี้ ส่วนมากมักมีรูปร่างเตี้ย ร่างกายแข็งแรง มีกำลังวังชา ไม่ค่อยเจ็บไข้ได้ป่วย ถ้าเป็นคนที่ไม่ค่อยหยุดนิ่ง จะทำให้มีจิตใจที่ตึงเครียด มีโอกาสเป็นโรคความดันเลือดสูง

 

 

1.2 ลักษณะมือเหลี่ยม รูปมือมีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยม กล้ามเนื้อบนฝ่ามือแน่น เส้นข้อนิ้วด้านหลังมือบางและตื้น
ผู้ที่มีรูปมือแบบนี้มักมีร่างกายแข็งแรง กระฉับกระเฉง ว่องไว ไม่ค่อยเป็นโรค

 

 

 

 

1.3 ลักษณะมือกลม รูปมือมีลักษณะเป็นรูปรีหรือค่อนข้างกลม มีเนื้อแน่น เส้นเลือดบนมือไม่ค่อยเห็น เส้นข้อนิ้วด้านหลังมือตื้น
ผู้ที่มีรูปมือแบบนี้มักมีร่างกายแข็งแรง มีอารมณ์เบิกบาน มีศักยภาพในการทำงาน ไม่ค่อยเป็นโรค

 

 

 

 

1.4 ลักษณะมือยาวรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า รูปมือแบบนี้มักมีข้อนิ้วและฝ่ามือค่อนข้างยาว เส้นเลือดและเส้นข้อนิ้วด้านหลังมือเห็นได้ชัดเจน
ผู้ที่มีลายมือแบบนี้มักเป็นผู้ที่ชอบใช้สมอง มีความคิด ชอบจินตนาการ แต่ความคิดมักมีผลกระทบต่อสุขภาพจิตและกาย ทำให้ร่างกายอ่อนแอเจ็บป่วยได้ง่าย

 

 

 


1.5 ลักษณะมือเรียว รูปมือมีลักษณะเรียวยาว ปลายนิ้วมักเรียว เส้นข้อนิ้วด้านหลังมือบางและตื้น
ผู้ที่มีลักษณะมือแบบนี้ระบบย่อยมักไม่ค่อยดี เป็นโรคเกี่ยวกับกระเพาะอาหารและลำไส้ได้ง่าย

 

 

 

1.6 ลักษณะมือรูปช้อน ลักษณะมือเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ปลายนิ้วกลมรูปร่างคล้ายช้อน เนื้อบริเวณมือแน่น ข้อมือใหญ่
ผู้ที่มีลักษณะมือแบบนี้มักมีร่างกายแข็งแรง ไม่ค่อยเป็นโรค แต่ถ้าเป็นคนที่มีอารมณ์ฉุนเฉียววู่วามจะเป็นโรคเกี่ยวกับหัวใจ และหลอดเลือดได้ง่าย

 

 

 

1.7 ลักษณะมือเล็กและอ่อนแอ ลักษณะมือแบบนี้ฝ่ามือและนิ้วมือเล็กอ่อนแอไม่มีแรง นิ้วมือคดเล็กน้อย เส้นเลือดบริเวณหลังมือตื้น
ผู้ที่มีลักษณะมือแบบนี้มักมีร่างกายอ่อนแอ เป็นโรคได้ง่าย

 

 

 


การดูลักษณะมือนี้ต้องดูให้ละเอียดทั้งลักษณะของมือ ลักษณะของนิ้ว เส้นหลอดเลือด เส้นลายมือ และอื่นๆ ประกอบกันจึงจะสามารถบ่งบอกถึงลักษณะภายในได้แม่นยำ


                                                                                                                           (อ่านต่อฉบับหน้า)

 

ข้อมูลสื่อ

187-003
นิตยสารหมอชาวบ้าน 187
พฤศจิกายน 2537
วิทิต วัณนาวิบูล