• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

มีลูกยาก

มีลูกยาก

 "ถ้ากินยาเร่งไข่ตกจะมีโอกาสเป็นมะเร็งได้หรือไม่ และทำอย่างไรดิฉันจึงจะสามารถตั้งครรภ์ได้"

ดิฉันอายุ 32 ปี แต่งงานมา 2 ปีกว่า ไม่มีลูก ไปหาหมอ หมอตรวจหาน้ำเชื้อของแฟน ครั้งแรกตรวจนับได้ 22 ล้าน หมอบอกว่าน้ำเชื้อแข็งแรงดีแต่ค่อนข้างน้อย จึงให้ยามากิน นัดตรวจอีก 1 เดือนถัดมา ครั้งที่สองตรวจนับน้ำเชื้อได้ 96 ล้าน หมอบอกว่าปกติแต่ท่อน้ำเชื้ออักเสบเล็กน้อย และให้ยาแก้อักเสบมากินทั้ง 2 คน เรื่องของแฟนก็หยุดแค่นั้น ดิฉันได้รับการตรวจเองบ้าง หมอให้วัดปรอทหาวันไข่ตก ดิฉันทำอย่างนี้อยู่ประมาณ 5-8 เดือน หมอบอกว่าไข่อาจจะไม่ตก จึงให้ยาเร่งไข่ตก กิน 5 เม็ดต่อ 1 เดือน หมอให้ยามากินอยู่ 3 เดือน ก็ยังไม่ได้ผล 

ดิฉันเลยเปลี่ยนหมอคนใหม่ บอกประวัติกับหมอคนใหม่ว่าเคยทำอะไรบ้าง หมอก็ให้ยามากิน บอกว่าเป็นยากินสำหรับไม่ทราบสาเหตุของการมีลูก และหมอนัดไปดูว่ามีไข่ตกหรือไม่ และพอตรวจภายในปรากฏว่าปากมดลูกอักเสบอย่างรุนแรงคือไม่มีผนังมาห่อหุ้มเลยและรักษาหายยากด้วย หมอจึงให้งดนอนกับแฟนอย่างน้อย 2 เดือน และให้ยามากิน ขณะนี้ดิฉันกำลังกินยาอยู่ แต่ตอนนี้หมดกำลังใจแล้ว รบกวนคุณหมอช่วยดิฉันด้วย

ดิฉันขอถามปัญหาดังนี้

1. เชื้ออสุจิเท่าไหร่จึงจะถือว่าปกติ อย่างกรณีของแฟนทำไมตอนแรกน้อย พอครั้งที่สองกลับปกติ หรือเป็นเพราะยาเพิ่มน้ำเชื้อ ถ้าอย่างนั้นถ้าเราต้องการลูก แฟนควรกินยาเพิ่มอีกหรือไม่

2. ดิฉันเคยทราบว่าคนที่กินยาเร่งไข่ดก จะมีโอกาสเป็นมะเร็งรังไข่จริงหรือไม่ อย่างกรณีของดิฉันจะระมัดระวังตัวอย่างไร และจะตรวจสอบได้อย่างไรว่าเป็นหรือไม่เป็น

3. ดิฉันเคยตรวจมะเร็งปากมดลูกเมื่อปีที่แล้ว หมอบอกว่าไม่มี แต่มีเชื้อราเล็กน้อยให้ยามากิน ปีนี้ก็ตรวจอีกแต่ยังไม่รู้ผล ดิฉันมีโอกาสเป็นมะเร็งปากมดลูกได้มากกว่าคนอื่นใช่หรือไม่ ถ้าเกิดเป็นขึ้นมาเราจะต้องทำอย่างไร โอกาสมีลูกยังมีอีกหรือไม่

4. ดิฉันมีโอกาสตั้งครรภ์ได้หรือไม่ ในเมื่อหมอบอกว่าปากมดลูกอักเสบรุนแรงมีหนองด้วย และมดลูกของดิฉันมีโอกาสหายเป็นปกติได้หรือไม่ ต้องใช้เวลานานเท่าไร

5. ดิฉันและแฟนสามารถผสมเทียมได้หรือไม่ ต้องทำอย่างไรบ้าง โรงพยาบาลในภาคใต้มีที่ไหนบ้าง ใช้เวลานานเท่าไร และค่าใช้จ่ายประมาณเท่าไร

                                                                                                    

                                                                                                           ผู้ถาม นนทรี /ภูเก็ต

                                                   * *  * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

ผู้ตอบ น.พ.พันธ์ศักดิ์ ศุกระฤกษ์

1. ค่าปกติของการตรวจน้ำเชื้ออสุจิก็ควรจะมีประมาณ 2-5 ซีซี ความเข้มข้นของตัวอสุจิมากกว่า 20ล้านตัวต่อซีซี โดยเคลื่อนไหวอย่างน้อยร้อยละ 50 และมีรูปร่างปกติไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 และมีเม็ดเลือดขาวในน้ำอสุจิน้อยกว่า 1 ล้านต่อซีซี การตรวจน้ำเชื้ออสุจิจะต้องงดเว้นการมีเพศสัมพันธ์อย่างน้อย 3 วันก่อนตรวจ และในการตรวจนั้นการตรวจครั้งแรกพบว่าน้อยกว่าปกติ ควรทำการตรวจใหม่หลังจากเว้นไป 6 สัปดาห์

โดยปกติแล้วปริมาณและความเข้มข้นของตัวอสุจิจะเปลี่ยนไปได้ตามสภาพร่างกายและการใช้งาน ดังนั้นการตรวจพบว่าผิดปกติเพียงครั้งเดียวจะยังถือว่าไม่ผิดปกติ เมื่อตรวจอีกครั้งพบว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติแล้วก็ไม่จำเป็นจะต้องกินยาแต่อย่างใด ควรพยายามรักษาสุขภาพของร่างกายให้สมบูรณ์แข็งแรงก็เพียงพอแล้ว

2. การกินยาเร่งไข่ตกมีโอกาสที่จะทำให้เป็นมะเร็งของรังไข่น้อยมาก ยกเว้นนายที่รังไข่เป็นมะเร็งอยู่ก่อนแล้ว การกินยาเร่งไข่ตกจะไปกระตุ้นให้มีการสร้างฮอร์โมนเพศหญิงซึ่งมีผลให้มะเร็งรังไข่ที่เป็นอยู่แล้วเจริญเติบโตเร็วมากกว่า ดังนั้นในคนปกติจึงสามารถที่จะกินได้  การระมัดระวังตัวว่าจะกระตุ้นรังไข่จนเกินไปหรือไม่ ทำได้โดยการตรวจติดตามผลการเจริญของถุงไข่ด้วยเครื่องอัลตราซาวนด์ ซึ่งจะพบเห็นถ้ารังไข่เป็นถุงน้ำอยู่หรือมีมะเร็งของรังไข่อยู่

3. คิดว่าคงจะมีโอกาสเป็นมะเร็งปากมดลูกเท่าๆกับคนทั่วๆไป การตรวจเช็กเซลล์มะเร็งของปากมดลูกทำให้สามารถตรวจพบได้ว่า มีการเป็นมะเร็งปากมดลูกในระยะเริ่มแรกอยู่หรือไม่ ถ้าตรวจพบในปัจจุบันการรักษาอาจทำเพียงตัดบางส่วนของปากมดลูกที่มีเซลล์มะเร็งระยะเริ่มแรกออกก็เพียงพอแล้ว และสามารถที่จะมีบุตรต่อไปได้ตามปกติ

4. ถ้าปากมดลูกอักเสบก็สามารถทำการรักษาได้ โดยการกินยาฆ่าเชื้อที่เป็นสาเหตุของการอักเสบ หลังจากนั้นถ้าปากมดลูกเป็นแผลเรื้อรังจากการอักเสบก็สามารถที่จะรักษาโดยการจี้ปากมดลูกด้วยความเย็นเพื่อให้แผลหาย ซึ่งจะใช้เวลานานประมาณ 6-8 สัปดาห์

5. การผสมเทียมมีหลายชนิดตั้งแต่การคัดเชื้ออสุจิที่สมบูรณ์แข็งแรงฉีดเข้าไปในโพรงมดลูกในวันที่ไข่ตก การทำ GIFT โอยการเจาะเอาไข่ฝ่ายหญิงและนำมาผสมกับเชื้ออสุจิในท่อนำไข่ส่วนปลาย และการปฏิสนธินอกร่างกายที่เรียกว่า “เด็กหลอดแก้ว” คุณอยู่ภาคใต้น่าจะเป็นโรงพยาบาลของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ส่วนค่าใช้จ่ายก็คงแล้วแต่ว่าจะทำการผสมเทียมชนิดไหน และใช้ยาและเครื่องมือเครื่องใช้มากน้อยเท่าใด

 

                                                      *******************************

ข้อมูลสื่อ

211-011
นิตยสารหมอชาวบ้าน 211
พฤศจิกายน 2539
นพ.พันธ์ศักดิ์ ศุกระฤกษ์