• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

ภัยเงียบ

ภัยเงียบ


คุณชัชเงยหน้าขึ้นมองป้าหมอเหมือนกับพยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหล แต่ก็ยังมีน้ำเสียงหลุดออกมาอย่างเคียดแค้นว่า “ผมอยากจะฆ่ามัน!”

‘คุณชัช’ คุณพ่อวัย 30 ปีกว่าๆ คนนี้ ป้าหมอจำได้ดีว่าเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนเขามารับยาครั้งสุดท้ายด้วยท่าทองที่ดูแจ่มใส โดยบอกป้าหมอว่าคราวนี้ตนต้องขอเยอะหน่อย เพราะอีกประมาณ 10 วันทางบริษัทจะส่งไปดูงานที่ต่างประเทศหลายเดือน ป้าหมอดูประวัติบันทึกครั้งสุดท้ายก็พบว่า คุณชัชขอยาไปถึง 3 เดือน

คุณชัชพูดว่า “ถ้าผมรู้เรื่องหลังจากกลับมา ก็ไม่ทราบว่าอะไรจะเกิดขึ้น กับชีวิตของลูกผมถึงแม้จะเป็นเรื่องที่เลวร้าย แต่ผมก็ยังดีใจที่ได้รับรู้เรื่องเมื่อคืนนี้เอง พอรู้เรื่องทั้งคืนผมนอนไม่หลับ วันนี้ผมจึงต้องมาพบป้าหมอ”

คุณชัชหยุดนิดหนึ่ง แล้วถามป้าหมอว่า “ป้าหมอจำนายช้าง ลูกคนโตของผมได้ไหมครับ”

ป้าหมอพยักหน้า นึกถึงเด็กหนุ่มที่มาพบป้าหมอพร้อมกับคุณพ่อ ซึ่งนอกเหนือจากมีความสูงที่เกินกว่าวัยแล้ว ยังดูเป็นเด็กที่มีหน้าตาหล่อเหลาเอาการทีเดียว อีกทั้งกิริยามารยาทก็ดูนุ่มนวล ยิ้มแย้มแจ่มใส และเป็นเด็กเรียนดี

คุณชัชเล่าต่อว่า “ปีนี้นายช้างเรียนอยู่ ป.6 และกำลังจะขึ้นชั้น ม.1 ซึ่งผมคิดว่าน่าจะลองให้นายช้างไปสอบเข้าโรงเรียนสหศึกษาที่มีชื่อเสียงใกล้ๆ บ้าน ผมกับแม่เขาวางแผนหลายอย่างเพื่อให้นายช้างสอบเข้าโรงเรียนนั้นให้ได้ ผมจึงพาไปสมัครเรียนกวดวิชาที่โรงเรียนมีชื่อแห่งหนึ่ง

เพียงแค่ 5-6 สัปดาห์แรกผ่านไป โรงเรียนกวดวิชาก็ทำการทดสอบเด็กขึ้น ความจริงนายช้างเป็นเด็กเรียนดี ได้ที่ 1 เป็นประจำ แต่เมื่อคะแนนสอบที่โรงเรียนกวดวิชาออกมาทำให้ผมใจฝ่อ เพราะนายช้างสองได้อันดับที่เกือบสองร้อยจากจำนวนเด็กเป็นพันๆ คน นายช้างเองก็หน้าเสีย แต่บอกผมว่า ‘พ่อไม่ต้องห่วงช้างจะขยันให้มากขึ้น’

แต่คำยืนยันจากลูกก็ไม่ได้ทำให้ผมสบายใจขึ้น ผมจึงไปปรึกษากับอาจารย์ที่โรงเรียนกวดวิชา และดูเหมือนโชคจะเข้าข้าง เพราะอาจารย์แนะนำว่ามีครูสอนวิชาคณิตศาสตร์บางคนที่อาจว่างไปติวที่บ้านได้ ผมจึงรีบติดต่ออาจารย์ท่านนั้นทันที

ผมทราบว่าอาจารย์เองก็มีงานล้นมือ แต่พอรู้ว่าผมเป็นศิษย์เก่าโรงเรียนเดียวกับอาจารย์ ซึ่งอาจารย์เป็นรุ่นน้องผมหลายปี อาจารย์ก็เลยจะช่วยสอนให้เป็นกรณีพิเศษ แต่ต้องให้ลูกไปเรียนที่บ้านอาจารย์ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโรงเรียนลูกนัก และในบางวันผมก็ไปรับกลับหลังจากเรียนเสร็จ

ตลอดเวลาที่นายช้างเรียนกับอาจารย์คนนี้ เขามีเรื่องกลับมาเล่าให้ที่บ้านฟังทุกวัน ซึ่งล้วนแต่เป็นการพรรณนาถึงความดีของอาจารย์ทั้งนั้น ไม่ว่าเรื่องสอนเก่ง ใจดี แนะนำวิธีต่างๆ ในการทำข้อสอบ และอาจารย์ได้เอาแบบฝึกหัดจำนวนมากมาให้นายช้างทำ ผมดูเขาทั้งสองสนิทสนมกลมเกลียวกันดีจนผมเองก็รู้สึกสบายใจ

เวลาทีผมไปรับลูก อาจารย์ท่านนั้นก็ออกมาคุยกับผมถึงหน้าบ้าน ชมว่านายช้างเป็นเด็กตั้งใจเรียนดี การเข้าโรงเรียนแห่งที่เราหวังนั้นดูจะไม่เป็นปัญหา ผมเองก็รู้สึกขอบคุณอาจารย์ตลอดมา และคิดเสมอว่าลูกช่างโชคดีอะไรอย่างนี้ มิหนำซ้ำคะแนนสอบของนายช้างที่โรงเรียนกวดวิชาแห่งเดิมซึ่งเคยได้ลำดับที่เกือบสองร้อยก็ดีขึ้นกลายเป็นห้าสิบคนแรก

จนเมื่อสองสามวันมานี้เองผมเริ่มรู้สึกว่าลูกดูแปลกไป ระยะหลังลูกมีเสื้อผ้าใหม่สีสันสดใส พอถามดูลูกก็บอกว่าอาจารย์ซื้อให้ บางครั้งลูกก็มีเงินทองใช้เหลือเฟือ โดยมีคำอธิบายในเรื่องนี้จากลูกว่า อาจารย์บอกว่า ได้ค่ากวดวิชาเยอะแยะ สำหรับลูกนั้นอาจารย์ไม่เคยคิดค่าสอน แต่ก็ปฏิเสธคุณพ่อไม่ได้ เพราะฉะนั้นก็เลยถือโอกาสให้เงินช้างมาใช้ ผมเคยเปิดกระเป๋าลูกแล้วพบเงินแบงค์ห้าร้อยหลายในจนรู้สึกไม่ค่อยสบายใจว่าลูกเรารบกวนอาจารย์มากเกินไปหรือเปล่า แต่ก็คิดว่าดูเขาจะเข้ากันได้ดี

แต่เมื่อคืนนี้เองที่ผมทราบความจริง ผมตกใจแทบเป็นบ้า เพราะเมื่อเข้าไปในห้องของลูกในขณะที่ตัวเขายังไม่กลับจากเรียนพิเศษ ผมพบหนังสือโป๊ ซึ่งเป็นหนังสือโป๊คู่ระหว่างผู้ชายกับผู้ชาย ไม่รู้ว่าลูกได้หนังสือพวกนี้มาจากไหน

ผมคอยลูกจนเกือบสามทุ่ม ลูกจึงกลับบ้าน นายช้างดูกระปรี้กระเปร่าสดชื่นแจ่มใส เมื่อเห็นผมนั่งคอยอยู่นายช้างก็ถามว่า “คุณพ่อยังไม่นอนอีกหรือครับ คุณหมอบอกว่าคุณพ่อควรนอนแต่วัน เพราะต้องตื่นแต่เช้า” ผมนั่งเฉย ยังไม่ตอบคำถาม

แสงไฟนวลจากในห้องส่องให้มองเห็นนายช้างอย่างถนัดตายิ่งขึ้น ผมรู้สึกว่านายช้างมีหน้าตาหมดจด เกลี้ยงเกลา และดูคล้ายผู้หญิงด้วยซ้ำ แล้วนายช้างก็ขอตัวไปอาบน้ำ พอลูกเดินผ่าน ผมรู้สึกเหมือนได้กลิ่นน้ำหอมจากตัวลูกด้วย

นายช้างอาบน้ำไม่นาน ใส่เสื้อแขนสั้นเดินออกจากห้องน้ำ ผมเห็นข้อมือแวบๆ นั้นเป็นสร้อยข้อมือเลตทองเส้นใหญ่ เหมือนนายช้างจะรู้ตัว แกจึงค่อยๆ เอามือไขว้หลัง ผมเลยถามว่า ‘นั่นลูกใส่อะไรอยู่ เอามาให้พ่อดูซิ’

นายช้างเดินมาหาผมอย่างช้าๆ พร้อมกับบอกว่า ‘ยืมเพื่อน’

‘อะไรกัน ของมีค่าอย่างนี้ให้ยืมกันด้วยหรือ’

นายช้างไม่ตอบ หลบตา ท่าทีมีพิรุธ ผมจึงแกล้งถามไปว่า ‘คุณครูเขาให้มาใช่มั้ย’

คราวนี้นายช้างยิ้มกลบเกลื่อนแล้วบอกว่า ‘พ่อรู้หรือฮะว่าครูให้ผม’

ผมสะดุดใจเหลือเกินครับคุณหมอ รู้สึกว่าน่าจะมีอะไรที่ผมไม่รู้มากกว่านี้อีกเยอะ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อสีสวยๆ สร้อยข้อมือทองคำ และหนังสือพวกนั้น จึงเดินไปหาลูกแล้วพูดว่า ‘นอกจากครูให้สร้อยเส้นนี้แล้วยังให้อะไรลูกอีก’

นายช้างหันมามองผม แล้วก้มหน้าด้วยท่าทีรู้สึกผิด ผมจีงบอกว่า ‘ไม่เป็นไร มีอะไรก็บอกับพ่อได้’ เขาจึงเล่าให้ฟังว่า ครูให้หลายอย่าง ให้เงินใช้ พาไปเที่ยว ซื้อหนังสือให้ แนะนำเรื่องการเรียน

'หนังสือ!’ ใช่แล้ว คิดว่าน่าจะเกี่ยวโยงกับเรื่องที่เล่าได้อย่างแน่นอน ผมจึงพูดต่อว่า ‘เมื่อกี้พ่อเข้าไปในห้องช้าง เห็นมีหนังสือสองสามเล่ม เป็นหนังสือโป๊’

ผมเว้นระยะนิดหนึ่งเพื่อดูท่าทีนายช้าง แล้วถามช้าๆ แต่หนักแน่นว่า ‘ หนังสือพวกนี้ครูให้ด้วยหรือเปล่า’

นายช้างสะดุ้งตกใจกับคำถาม และก้มหน้าลงอย่างสำนึกผิด

นายช้างเล่าว่า ‘ครูเคยบอกว่ารักผม เหมือนผู้ชายรักผู้หญิง ครูเคยชมว่าผมหน้าตาดี ครูเคยบอกว่าจะกวดวิชาให้ผมเข้า ม.1 ได้ แต่ครูบอกว่า ไม่ต้องเรียนหนังสือมากหรอก หน้าตาดีๆ อย่างผมอีกหน่อยก็มาถ่ายแบบถ่ายโฆษณา ครูบอกว่ารู้จักโปรดิวเซอร์เยอะ ครูฝากผมได้อย่างสบาย อยากให้ผมใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ไม่ต้องเหนื่อยกับการเรียนมาก และครูยังบอกผมว่าถ้าคุณพ่อคุณแม่อนุญาต ครูอยากรับผมไว้ที่บ้าน เลี้ยงดูเหมือนน้องคนหนึ่ง ครูเอาอกเอาใจผมมาก ซื้อขนมที่ผมชอบ จัดหาอาหารดีๆ มาให้ระหว่างเรียน’

นายช้างเงยหน้าสบตาผม พร้อมกับบอกอีกว่า ‘ผมฟังดูก็ แปลกๆ นะฮะพ่อ แล้วผมสังเกตว่า มีผู้ชายเปลี่ยนหน้ามาหาครูที่บ้านบ่อยๆ มาซุบซิบกัน พอเรียนจบครูก็ออกไปกับคนนั้น ผมก็เคยคิดเหมือนกันว่าครูคงเป็นเกย์’

‘เป็นเกย์’ ผมหยุดชะงัก

คิดว่าทุกอย่างที่ลูกเล่าดูจะเป็นความจริง เพราะเขาเล่าด้วยหน้าตาที่เบิกบาน หากแฝงด้วยความจริงจัง แต่ผมกลับรู้สึกร้อนรุ่มในอก นึกลงโทษตัวเองว่าทำไมจึงดูคนผิดไป ทำไมไม่คิดบ้างว่าครูคนนี้อยู่คนเดียวในบ้านหลังใหญ่อายุไม่ใช่น้อย แต่ไม่มีครอบครัว มิหนำซ้ำยังจัดบ้านจุ๋มจิ๋ม แต่งเนื้อแต่งตัวเก๋ไก๋ สะอาดสะอ้านผิดผู้ชายทั่วไป และเมื่อผมมานั่งคิดต่อก็ยิ่งเห็นข้อมูลสนับสนุนว่าความจริงครูคนนี้เป็นเกย์

ผมอยากให้ลูกเลิกกวดวิชากับครูคนนี้ แล้วหาครูกวดวิชาใหม่ แต่เวลาผมเหลือไม่กี่วันก่อนที่จะไปต่างประเทศ อยากให้ลูกเข้าโรงเรียนได้ แต่ไม่อยากให้ลูกต้องเสียความเป็นชายไป

ผมคิดว่าผมจะเลิกให้ลูกเรียนที่นั่น แล้วหาครูใหม่ให้ลูก โดยผมจะลอกลูกว่าเพราะผมต้องไปต่างประเทศ ผมได้เบี้ยเลี้ยงสำหรับการเดินทางจำนวนมาก ผมจะเชิญครูมาสอนที่บ้านลูกจะได้ไม่ต้องเดินทางไปเรียนที่บ้านครูได้อยู่บ้านเป็นเพื่อนน้อง ช่วยแม่ดูแลบ้าน และผมจะบอกเลิกกับคุณครู โดยอธิบายอย่างนี้เช่นเดียวกัน ถึงแม้ว่าเขาจะสงสัยผมก็คงไม่แคร์”

ป้าหมอยิ้มแล้วพยักหน้าพลางบอกว่า “ดูจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดขณะนี้”

คุณชัชลากลับไปแล้ว ป้าหมอรู้ว่าเหลือเพียงอีกสามวันเท่านั้นที่คุณชัชต้องไปต่างประเทศ อดรู้สึกเป็นห่วงไปกับเขาไม่ได้ว่าจะหาครูมาสอนพิเศษที่บ้านได้ทันหรือเปล่า

แต่เช้าวันที่คุณชัชต้องออกเดินทางนั่นเอง ก็มีโทรศัพท์มาถึงป้าหมอที่โรงพยาบาล ไม่ได้ตามตัวป้าหมอมารับสาย เพียงแต่ให้เจ้าหน้าที่บันทึกข้อความสั้นๆ ไว้ว่า

“ผมเดินทางวันนี้ด้วยความปลอดโปร่ง ผมเพิ่งหาครูกวดวิชาให้ลูกได้ ครูคนนี้เพิ่งจบและสอบได้แล้ว แต่กำลังรอบรรจุอยู่ ครูคนนี้เป็นคนเรียนเก่ง ท่าทางเป็นแมนเต็มตัว เป็นนักกีฬาหลายอย่าง ผมรู้สึกสบายใจมากครับป้าหมอ”

ดูเป็นข้อความที่ค่อนข้างยาวสำหรับผู้จด แต่สำหรับป้าหมอแล้วคิดว่าคุณชัชได้กำจัดภัยเงียบให้นายช้างได้เรียบร้อยแล้ว

ข้อมูลสื่อ

176-009
นิตยสารหมอชาวบ้าน 176
ธันวาคม 2536
ป้าหมอ