• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

ยาแก้ฝ้า ระวังเพิ่มฝ้า

ยาแก้ฝ้า ระวังเพิ่มฝ้า


ในยุคนี้มีการตื่นตัวกันมาก ในเรื่องการรักษาฝ้า และมีตัวยาที่ปลอดภัยให้เลือกใช้มากมายหลายยี่ห้อ ผิดกับสมัยก่อนที่การรักษาฝ้าผูกขาดอยู่กับครีมไข่มุก ซึ่งเป็นครีมทาแก้ฝ้าในสมัยก่อนสั่งเข้ามาจากไต้หวัน มีส่วนผสมของสารปรอท และส่วนผสมบางอย่างของครีมที่ทำให้เกิดความแวววาว จึงเรียกว่าครีมไข่มุก

ครีมไข่มุกที่มีส่วนผสมของสารปรอท ซึ่งวงการแพทย์พบว่าทำให้เกิดอันตราย ทั้งคนเป็นฝ้าที่ซึ่งมารักษาและหญิงสาวที่ปรารถนาจะมารักษาและหญิงสาวที่ปรารถนาจะให้หน้าขาวผุดผ่อง ก็เลยซื้อครีมไข่มุกลอกฝ้ามาทาทุกวันเป็นครีมรองพื้น ก็ทำให้หน้าขาวสมใจ แต่หลังจากนั้นก็เกิดข้อแทรกซ้อนตามมา คือดวงด่างขาวที่ขึ้นมา เนื่องจากสารปรอทในครีมไข่มุกทำลายเซลล์สร้างสี ทำให้ผิวหนังส่วนนั้นขาดเม็ดสี เป็นเหตุให้เกิดจุดด่างขาวขึ้นมา สารปรอทจึงถูกห้ามใช้ และห้ามสั่งนำเข้ามาใช้ทำเครื่องสำอางในประเทศไทยอีกต่อไป

ดูเหมือนว่า ผลิตภัณฑ์รักษาฝ้าที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันที่ค่อนข้างจะปลอดภัย คือไฮโดรควินโนน แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้ แพทย์ก็พบข้อแทรกซ้อนของไฮโดรควินโนนจนได้ นั่นคือ จุดด่างขาวจุดเล็ก ๆ และรอยดำไหม้เกรียมที่เพิ่มมากขึ้นหลังใช้ไฮโดรควินโนนที่มีความเข้มข้นสูง ๆ ติดต่อกันเป็นเวลานาน ๆ จุดด่างขาวเล็ก ๆ เกิดจากไฮโดรควินโนนในความเข้มข้นสูงทำลายเซลล์สร้างสี และถ้าใช้ไฮโดรควินโนนความเข้มข้นสูงเป็นเวลานาน ๆ จะกลายเป็นรอยดำไหม้เกรียมที่ติดถาวร เกิดจากไฮโดรควินโนนที่เปลี่ยนแปลงไปจับตัวกับเส้นใยคอลลาเจน ทำให้กลายเป็นเส้นหรือแท่งสีน้ำตาลขึ้นมา สะสมกันเป็นจำนวนมาก เช้าก็กลายเป็นสีดำคล้ายฝ้า และต่อไปไม่ว่ายาแก้ฝ้าชนิดใดก็รักษาไม่ได้

เรื่องไฮโดรควินโนนใช้รักษาฝ้าแล้วทำให้เกิดรอยดำไหม้เกรียมอย่างถาวรนี้ เป็นที่รู้จักกันมานานแล้วเพราะมีตัวอย่างที่ประเทศแอฟริกา ซึ่งที่นั่นใช้ไฮโดรควินโนนกันเยอะมาก เนื่องจากคนที่นั่นผิวดำ จึงชอบใช้ไฮโดรควินโนนที่มีความเข้มข้นสูง ผลก็คือ พอใช้ไปนาน ๆ เช้าก็ค่อย ๆ เกิดรอยดำไหม้ขึ้นมาแทนที่ฝ้า ทายารักษาก็ไม่หาย วงการแพทย์เรียกรอยดำจากยาฝ้านี้ว่า โอโครโนซิส (ochronosis)
วิธีป้องกันรอยดำแบบโอโครโนซิสก็คือ ใช้ไฮโดรควินโนนความเข้มข้นต่ำ ๆ ไม่เกิน 2 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งปลอดภัย ยังไม่เคยมีรายงานพบปัญหารอยดำไหม้แบบนี้เลย ทางกระทรวงสาธารณสุขก็ได้ควบคุมโดยออกกฎหมายให้เครื่องสำอางใช้ไฮโดรควินโนนเป็นส่วนประกอบไม่เกิน 2 เปอร์เซ็นต์ และจัดเป็นเครื่องสำอางควบคุม ถ้าเกินกว่านั้นจะต้องจดทะเบียนเป็นยา ขายได้เฉพาะร้านขายยา คลินิก และโรงพยาบาลเท่านั้น

แต่ในความเป็นจริงแล้ว มีครีมทาฝ้าหลายยี่ห้อที่ใช้ไฮโดรควินโนน เป็นส่วนผสมที่จดทะเบียนเป็นเครื่องสำอาง แต่มีส่วนผสมเกินกว่าที่ควบคุม เนื่องจากการแข่งขันกันทางด้านการค้า ครีมยี่ห้อไหนใส่ไฮโดรควินโนนความเข้มข้นสูง ก็จะทำให้ฝ้าจางหายเร็ว ดังนั้นครีมยี่ห้อใหม่ ๆ ออกมาก็ยิ่งเพิ่มความเข้มข้นมากขึ้น จาก 3.96 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งต่อไปจะทำให้เกิดรอยดำไหม้ที่เรียกว่าโอโครโนซิสอย่างแน่นอน และเมื่อเร็ว ๆ นี้ ก็เริ่มพบคนไข้ที่เป็นโอโครโนซิส จากครีมทาฝ้าจำนวนหนึ่งแล้ว

ผู้ผลิตครีมทาฝ้าเหล่านี้ อาจจะไม่ทราบอันตรายของการใช้ไฮโดรควินโนนความเข้มข้นสูง หรือไม่สนใจ เนื่องจากการผลิตครีมออกมาขายเป็นเรื่องไม่ยาก เมื่อถูกจับได้ว่าใช้ ไฮโดรควินโนนเกิน ก็เปลี่ยนยี่ห้อออกมาใหม่ได้เรื่อย ๆ อยู่ตลอดเวลา นอกจากนี้การตรวจสอบผลิตภัณฑ์ในท้องตลาดก็ไม่สามารถทำได้ทั่วถึง เพราะขาดเจ้าหน้าที่ ในท้องตลาดจึงยังคงมียาแก้ฝ้า อันตรายออกมาอยู่ตลอดเวลา และผลเสียก็จะตกอยู่กับผู้ใช้ระยะยาว

รอยดำไหม้ที่เกิดจากไฮโดรควินโนน ขณะนี้ยังไม่มีวิธีการรักษา ถ้าปล่อยให้เกิดขึ้นมาแล้วก็ต้องปล่อยให้เกิดขึ้นมาแล้วก็ต้องปล่อยให้หายเอง ซึ่งมีโอกาสน้อยมาก ฉะนั้น ควรป้องกันอย่าให้เกิดขึ้นจะเป็นการดีกว่า เรื่องนี้ผู้บริโภคควรจะต้องทราบและรู้จักป้องกันด้วยการเลือกใช้ครีมทาฝ้าที่แน่ใจว่าปลอดภัย เพราะในปัจจุบัน ในท้องตลาดยังมีครีมทาฝ้าอันตรายจำหน่ายตามร้านค้าทั่วไป โดยเฉพาะต่างจังหวัดที่อยู่ห่างไกลจากเจ้าหน้าที่ที่ตรวจสอบ

ข้อหลีกเลี่ยงในการเกิดฝ้า
1.อย่าถูกแสงแดดมาก เวลาออกกลางแจ้งควรใส่หมวกหรือกางร่ม
2.ควรหลบแสงไฟแรง ๆ เพราะอาจมีส่วนกระตุ้นให้เกิดฝ้าได้ง่าย
3.หลีกเลี่ยงการใช้น้ำหอมและเครื่องสำอาง เพราะอาจมีส่วนกระตุ้นให้เกิดฝ้าหรือรอยด่างดำบนใบหน้า
4.ควรพักผ่อนให้เพียงพอ และอย่าให้อารมณ์เครียด
 

การเลือกใช้ครีมทาฝ้าที่ปลอดภัย
1.ก่อนการซื้อครีมทาฝ้า ตรวจดูเลขที่ทะเบียนเครื่องสำอางควบคุมดูก่อนว่ามีหรือไม่ เครื่องสำอาง
ทาฝ้าที่ปลอดภัยควรมีเลขที่ทะเบียน ซึ่งแสดงว่าผ่านการตรวจสอบจากกระทรวงสาธารณสุขแล้ว และระบุชัดเจนไว้ข้างกล่องว่ามีส่วนผสมของไฮโดรควินโนน 2 เปอร์เซ็นต์ และดูว่าหมดอายุเมื่อไร เพราะไฮโดรควินโนน เป็นสารที่มีอายุจำกัด

2.หลีกเลี่ยงการใช้ครีมทาฝ้าไม่มียี่ห้อ ไม่มีการระบุส่วนผสมแหล่งผลิตและผู้แทนจำหน่าย เพราะ
แสดงว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่หลีกเลี่ยงกฎหมาย และอาจจะมีส่วนผสมเกินกว่าที่ถูกกำจัดไว้
เราอาจทำการทำสอบดูว่า ครีมทาฝ้าที่ไม่ระบุส่วนผสมนั้นมีไฮโดรควินโนนหรือเปล่า โดยใช้ผงซักฟอกผสมครีมในอัตราส่วน 1 ต่อ 1 ผสมบนกระดาษทิชชู แล้วหยดน้ำ รอประมาณ 5 นาที ถ้าเห็นสีกระดาษทิชชูเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลมีของเหลือง ๆ นั่นแสดงว่ามีส่วนผสมของไฮโดรควินโนน

3.ผู้ที่ใช้ครีมทาฝ้าไฮโดรควินโนนมาเป็นเวลานาน ควรลดการใช้ทีละน้อยอย่างช้า ๆ และเปลี่ยน
เป็นครีมทาฝ้ากลุ่มอื่นที่ไม่ใช่ไฮโดรควินโนนแทน

4.ครีมทาฝ้าที่มีทั้งไฮโดรควินโนนและกรดวิตามินเอ จะยิ่งทำให้ฝ้าจางเร็วกว่าไฮโดรควินโนน
อย่างเดียว แต่ข้อแทรกซ้อนก็มากตามตัว คือทำให้เกิดรอยแดงและหลอดเลือดขยายถาวรเพิ่มขึ้นอีกเรื่องหนึ่งนอกเหนือจากรอยดำ

เนื่องจากผลิตภัณฑ์สำหรับแก้ปัญหาเรื่องฝ้ามีมากมายหลายยี่ห้อในท้องตลาด ดังนั้นควรมีหลักการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ถูกต้องและเหมาะสม เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาใหม่ที่ร้ายกว่าอีก คือรอยดำไหม้แบบโอโครโนซิสที่ยังไม่มีตัวยารักษาได้ในปัจจุบันนี้

 

ข้อมูลสื่อ

198-006
นิตยสารหมอชาวบ้าน 198
ตุลาคม 2538
นพ.ชลิต พงษ์สมบูรณ์