อาการบาดเจ็บที่ผิวหนังในนักวิ่ง
ปัจจุบันประชาชนชาวไทยมีการตื่นตัวในการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพกันมากขึ้น จากการรณรงค์ขององค์กรหรือบุคคลต่างๆที่เกี่ยวข้องหรือสนใจกับการกีฬาช่วยให้ประชาชนได้รู้ถึงประโยชน์ที่เกิดขึ้นจากการออกกำลังกายสม่ำเสมอ รวมทั้งมีการแนะนำการออกกำลังกายด้วยวิธีต่างๆ ตามความเหมาะสม แก่อายุ เวลา สถานที่และรสนิยมของแต่ละคน
การวิ่งเพื่อสุขภาพเป็นการออกกำลังอีกชนิดหนึ่งซึ่งมีผู้นิยมกันมาก ผู้สันทัดกรณีได้แนะให้เห็นถึงประโยชน์ที่สำคัญ คือ เพื่อประสิทธิภาพในการทำงานของหัวใจ และหลอดเลือด สามารถป้องกันโรคได้หลายชนิด เช่น เส้นเลือดตีบ โรคหัวใจ ไขมันในเส้นเลือดสูง ความดันเลือดสูง โรคเบาหวาน เป็นต้น
นอกจากนี้ผู้รู้ยังได้แนะนำถึงการปฏิบัติตนสำหรับผู้ที่เริ่มต้นใหม่ว่าจะต้องเตรียมตัวอย่างไร ไม่ใช่ว่าเห็นคนอื่นวิ่งก็เริ่มวิ่งตามเขาบ้าง โดยไม่ได้ศึกษาวิธีที่ถูกต้อง ซึ่งแทนที่จะได้รับประโยชน์อาจจะทำให้เกิดโทษได้
ในที่นี่จะได้กล่าวถึงสภาพผิวหนังของนักวิ่ง ผิวหนังเป็นอวัยวะที่ปกคลุมร่างกายมีโอกาสที่จะเกิดการบาดเจ็บจากการวิ่งได้ก่อนเพื่อน ปัจจัยสำคัญที่จะต้องคำนึงในการวิ่งคือ เครื่องแต่งกาย เริ่มตั้งแต่รองเท้า รองเท้าที่เหมาะคือรองเท้าที่ใส่สบาย ไม่หนีบเท้า ไม่มีการเสียดสีขณะวิ่ง มีพื้นหนาพอสำหรับรองรับแรงกระแทก พื้นด้านล่างมีปุ่มกันลื่นหรือลายเป็นคลื่นเพื่อให้มีการยึดพื้น เมื่อวิ่งในที่ขรุขระ เลือกใช้ถุงเท้าที่อ่อนนุ่มและหนา เสื้อควรเป็นเสื้อยืดแขนสั้นหรือไม่มีแขน ควรเป็นผ้าฝ้ายที่ซับเหงื่อได้ดี ไม่ควรเป็นเสื้อประเภทไนลอนหรือผ้าร่ม ซึ่งไม่ซับเหงื่อทำให้การระบายความร้อนเป็นไปไม่ได้ ผู้สวมจะรู้สึกอึดอัด เหนื่อยเร็ว สำหรับอุณหภูมิอากาศในบ้านเราไม่ควรสวมชุดวอร์มแขนยาวขณะวิ่ง กางเกงควรเป็นขาสั้น ทำด้วยผ้าที่มีน้ำหนักเบา ผู้หญิงควรใส่ชุดชั้นในชนิดยืดได้รอบตัวและไม่ควรรัดมากเกินไป
อาการบาดเจ็บที่ผิวหนังจากการวิ่งที่พบบ่อย ได้แก่ ผิวถลอกหรือพองจากการเสียดสีกับเสื้อผ้า เช่น บริเวณใต้แขนจากการเสียดสีกับตะเข็บเสื้อใต้แขนหรือขอบเสื้อชั้นใน บริเวณขาพับด้านในจากขอบกางเกง เมื่อเกิดแผลถลอกควรป้ายด้วยครีมผสมยาปฏิชีวนะและใช้ผ้ากอซปิดไว้ เปลี่ยนวันละ 2 ครั้งจนกว่าจะหาย วิธีป้องกัน ควรสวมเสื้อที่เหมาะในคราวต่อไป
ผิวถลอกที่เกิดได้บ่อยอีกแห่งคือ เท้า หรือเรียกว่า รองเท้ากัด เกิดจากเท้าเสียดสีกับรองเท้าที่ไม่พอดี คืออาจหลวมเกินไป สามารถป้องกันได้โดยใส่รองเท้าผูกเชือกให้รัดกุม ใช้ถุงเท้าที่หนานุ่ม ปิดปลาสเตอร์บริเวณที่มีการเสียดสี หรือถ้าไม่หายอาจต้องเปลี่ยนขนาดรองเท้าเสียใหม่
โรคที่พบบ่อยในนักกีฬารวมทั้งนักวิ่งคือเชื้อราที่ง่ามเท้าหรือฮ่องกงฟุต มีผื่นคันบริเวณง่ามนิ้วเท้าป้องกันได้โดยหลังการวิ่งล้างเท้าให้สะอาด แล้วเช็ดให้แห้ง หากเริ่มมีผื่นคันให้ใช้ครีมฆ่าเชื้อรา ซึ่งมีขายทั่วไปหรือขี้ผึ้งวิทฟิลด์ขององค์การเภสัช
เชื้อรา นอกจากจะชอบเกิดบริเวณซอกเท้าแล้วยังพบว่าเป็นที่บริเวณขาหนีบด้วย ในนักวิ่งมีโอกาสเป็นได้มาก เนื่องจากความร้อนและอับชื้น อาการที่เป็นคือ คัน มีผื่นลักษณะเป็นวงแดง การรักษาใช้ยาทาชนิดเดียวกับฮ่องกงฟุต แต่ถ้าทายาแล้วไม่หายอาจต้องปรึกษาหมอ ขอยากิน หรือตรวจดูว่าเป็นโรคอื่นหรือเปล่า
อีกโรคที่จะนำเสนอในวันนี้คือ เล็บขบจากรองเท้ากัด หรือบีบดันเล็บให้ทิ่มเข้าไปในเนื้อ เกิดเป็นแผลเรื้อรังและเป็นหนองขึ้นมา การป้องกันต้องแก้สาเหตุ คือไม่ใช้รองเท้าหัวเล็กและบีบเท้า ตัดเล็บให้สั้นอยู่เสมอ ตัดปลายเล็บให้ตรง การตัดปลายเล็บโค้ง เมื่อเล็บงอกจะทิ่มเนื้อเกิดแผลดังกล่าว
เมื่อเกิดเป็นแผลที่เล็บขบควรล้างแผลด้วยน้ำเกลือ ทาครีมผสมยาปฏิชีวนะ งัดเล็บที่ฝังอยู่ในเนื้อออกแล้วใช้ผ้ากอซชิ้นเล็กๆ หนุนไว้จนกว่าเล็บจะงอกไปในทางปกติ หากมีหนองมากอาจต้องเจาะเอาหนองออกและกินยาฆ่าเชื้อหนองสัก 1 ชุด คือกินติดต่อกัน 7 วัน
ที่กล่าวมาเป็นอาการบาดเจ็บที่ผิวหนังที่พบบ่อยๆ ในนักวิ่ง ยังมีโรคอื่นอีกประปราย เช่น เกลื้อน หูด ผื่นแพ้แสงแดด เนื่องจากวิ่งตากแดด แพ้น้ำมันนวดกล้าม ซึ่งนักวิ่งบางคนชอบใช้
อย่างไรก็ตาม การศึกษาถึงวิธีปฏิบัติตนที่ถูกต้อง รวมทั้งเครื่องนุ่งห่มที่ถูกสุขลักษณะของนักวิ่ง จะป้องกันอาการดังกล่าวได้ การวิ่งก็จะไม่เกิดโทษ จะเกิดแต่ประโยชน์ตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้
- อ่าน 6,201 ครั้ง
- พิมพ์หน้านี้