• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

หลวงปู่ชาเยี่ยมไข้

…พระอาจารย์พรหม  เป็นพระฝรั่งชาวอังกฤษมาบวชอยู่เมืองไทยหลายปีแล้ว  ท่านมาปฏิบัติธรรมบำเพ็ญกิจของสงฆ์อยู่กับวัดเครือหนองป่าพง  แห่งเมืองอุบลราชธานี วันหนึ่งเกิดอาพาธป่วยเป็นไข้รากสาด (Typhoid) อาการของท่านค่อนข้างรุนแรง  จึงต้องนอนอยู่โรงพยาบาลเป็นอาทิตย์  ท่านเล่าว่าวันหนึ่งขณะกำลังรู้สึกอ่อนเพลีย ทุกข์ทรมาน และรู้สึกท้อแท้ รำพึงรำพันว่าจะหายกลับวัดได้เมื่อไรหนอ  หลวงปู่ชาก็ได้มาที่ตึกสงฆ์เพื่อเยี่ยมไข้  ท่านรู้สึกปลื้มและดีใจมาก  ลุกขึ้นนั่งและพนมมือไหว้หลวงปู่ชา  หลวงปู่ชาพูดคุยกับหมออยู่พักหนึ่งก็เดินมาที่หัวเตียง  เอามือจับไหล่ท่าน ยิ้มปลอบใจ แล้วก็พูดว่า  “ป่วยไข้...ถ้าไม่หายก็ตาย” ว่าแล้วท่านก็กลับไป

          ...พระอาจารย์พรหมฟังทีแรกก็งง  ต่อมาความอิ่มอกอิ่มใจของท่านก็แตกกระเจิง    ความปิติยินดีที่ท่านมาเยี่ยมอันตรธานไปสิ้น ทำไมหลวงปู่มาแช่งให้เราตาย  ไม่ให้กำลังใจกันเลย  ต่อมาภายหลังจึงได้รู้ว่าท่านพูดอย่างนี้กับพระอาพาธมาหลายองค์แล้ว...นี่เป็นวิธีสอนธรรมอย่างหนึ่งของหลวงปู่  ให้เรียนรู้จากการเจ็บป่วย  การเจ็บป่วยเป็นสัจจะที่สอนธรรมได้หลายหมวดหลายข้ออย่างลึกซึ้ง...

          ...พอได้คิดอย่างนี้  พระอาจารย์พรหมก็ยิ้มออก...หลวงปู่ชาช่างเป็นครูที่ล้ำเลิศนัก...

          การไปเยี่ยมไข้นั้นเราทำกันจนเคยชิน  ไม่ว่าจะเป็นญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง หรือใครก็ตามที่เรารู้จัก  บางทีเรามักคิดว่าก็ไปให้กำลังใจเขา  ซื้อของฝากเช่น ผลไม้ นม เครื่องดื่มบำรุงกำลังไปให้  และชวนเขาพูดจาคลายเครียดคลายเหงา  แต่จริงๆแล้วการไปเยี่ยมไข้  หากไปด้วยใจที่ “เข้าใจในธรรม” แล้วก็จะเป็นประโยชน์ด้วยกันทั้ง 2 ฝ่าย

          สามเณรีชาวออสเตรเลียนผู้หนึ่งป่วยเป็นโรคมะเร็งในบ้านพักผู้ป่วย (Hospice)  ติดป้ายหน้าห้องพักว่า “ห้ามเยี่ยม” เมื่อพระอาจารย์พรหมไปเยี่ยมท่านพิจารณาป้ายนั้นโดยใกล้ชิด  เห็นมีคำเขียนตัวเล็กๆอยู่ข้างใต้ “ยกเว้นอาจารย์พรหม”  เมื่อเข้าไปเยี่ยมเธอแล้ว  พระอาจารย์ถามเธอว่าทำไมติดป้ายแบบนั้น  เธออธิบายว่า  เพื่อนๆและญาติๆของเธอทุกคน  เวลามาเยี่ยม เขาจะเศร้าและเป็นทุกข์มากที่เห็นเธอกำลังจะตาย  ซึ่งทำให้เธอรู้สึกแย่ยิ่งขึ้น  เธอบอกว่า “มันก็แย่อยู่แล้วที่จะต้องตายด้วยโรคมะเร็ง  แล้วยังจะต้องมารับอารมณ์ของคนมาเยี่ยมอีก  เป็นอะไรที่รับไม่ไหว”

          การไปเยี่ยมผู้ป่วยโรคอะไรก็แล้วแต่  ควรปฏิบัติต่อเขาเหมือนเช่นคนธรรมดา ยิ้มแย้ม  พระอาจารย์พรหมยังไปเล่าเรื่องตลกให้สามเณรีฟัง  ทำให้เธอได้หัวเราะ ผ่อนคลายสบายใจ  พระอาจารย์พรหมได้บทเรียนในการไปเยี่ยมไข้ครั้งนั้นว่า  เมื่อเราไปเยี่ยมคนป่วยในโรงพยาบาล  ให้พูดกับตัวคน และปล่อยให้หมอ พยาบาลพูดกับตัวโรคไป....

          ปัญหาอีกอย่าง  เวลาไปเยี่ยมไข้ในโรงพยาบาล คือ การฝึกเป็นผู้ฟังที่ดี  พยายามให้ผู้ป่วยได้พูด ได้สื่อสาร และตั้งอกตั้งใจฟัง   หลายคนที่ไปเยี่ยมไข้มักจะพูดโน่นนี่ แนะนำอย่างนั้นอย่างนี้ แต่ลืมที่จะคิดว่า “ผู้ป่วยรู้สึกอย่างไร”  ดังนั้นจงเป็นนักฟังที่ดีเมื่อไปเยี่ยมไข้

          ท่านอาจารย์พรหมวง.โส  เกิดที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ  บวชเป็นพระในพระพุทธศาสนา  ตั้งแต่อายุ 23 ปี ณ วัดสระเกศวรมหาวิหาร  หลังจากนั้น  ท่านได้ไปสู่สำนักหลวงปู่ชา สุภัทโท  มอบตัวเป็นศิษย์ ศึกษาธรรมะ  ปัจจุบันท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดป่าโพธิญาณ เมืองเพิร์ธ  ออสเตรเลีย  และเป็นประธานทางจิตวิญญานของพุทธสมาคมแห่งออสเตรเลียตะวันตก

          ท่านเขียนหนังสือเล่มหนึ่งที่น่าอ่านมากชื่อ ชวนม่วนชื่น เป็นหนังสือแนวธรรมะบันเทิงหลายเรื่องเล่า  โดยคุณชัย  ราชวัตร  กรุณาช่วยออกแบบปกหนังสือให้  เป็นหนังสือธรรมะที่น่าอ่านมาก เพราะอ่านเบาๆ สนุกๆ เปี่ยมอารมณ์ขัน  มีเรื่องเล่าอุปมาอุปมัย ตลอดเล่ม  ถือเป็นหนังสือที่ดีมีคุณค่าอย่างยิ่งอีกเล่มหนึ่งที่ผมขอแนะนำ

ข้อมูลสื่อ

439-1330
นิตยสารหมอชาวบ้าน 439
พฤศจิกายน 2558
นพ.วีระวัฒน์ พันธ์ครุฑ