• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

สุขภาพชาวเกาะ

“คุณอาจตายได้ง่ายๆ  ถ้าไปอยู่ผิดที่ ผิดเวลา”

                คำพูดที่ใครบางคนกล่าวไว้ข้างต้นนี้  ไม่ได้เป็นคำกล่าวที่เกินเลยความจริงเลย  นักท่องเที่ยวบางคนที่ชอบเดินป่า  ชอบเที่ยวแบบลุยๆ มีโอกาสที่จะเสียชีวิตกลางป่าเมืองกาญจน์ หรืออุ้มผางได้ถ้าถูกผึ้งต่อย หรือโดนงูพิษกัด  คนที่เส้นโลหิตในสมองแตกอาจมีโอกาสเป็นอัมพาตหรือเสียชีวิตได้มากกว่าปกติ  เพราะตอนนั้นอยู่ในอำเภอห่างไกลทุรกันดารของเชียงใหม่ หรือ แม่ฮ่องสอน  ฝรั่งนักท่องเที่ยวที่ไปช็อค เมาหล้า หัวฟาดพื้นอาจตายได้  ถ้าคุณไปอยู่บนเกาะเต่า หรือเกาะลันตาในระหว่างช่วงฤดูมรสุมที่คลื่นลมแรง

                สำหรับพื้นที่พิเศษที่ผมจะกล่าวถึงต่อไปนี้  เป็นเรื่องของโรงพยาบาลของรัฐบาลที่อยู่บนเกาะกลางทะเล  ซึ่งตัวเลขข้อมูลล่าสุดในประเทศไทยมีอยู่ด้วยกัน ๗ แห่ง  คือ

๑.      โรงพยาบาลเกาะสมุย (สุราษฎร์ธานี)

๒.     โรงพยาบาลเกาะพงัน (สุราษฎร์ธานี)

๓.     โรงพยาบาลเกาะยาว (พังงา)

๔.     โรงพยาบาลเกาะพีพี (กระบี่)

๕.     โรงพยาบาลเกาะสีชัง (ชลบุรี)

๖.      โรงพยาบาลเกาะช้าง (ตราด)

๗.     โรงพยาบาลเกาะกูด (ตราด)

ทั้งนี้ผมขออนุญาตไม่นับภูเก็ต  ซึ่งมีสะพานเชื่อมกับแผ่นดินใหญ่  มีการคมนาคมสะดวก  โรงพยาบาลทั้ง 7 แห่งนี้  มีคุณลักษณะที่แตกต่างจากโรงพยาบาลทั่วๆไปหลายประการ  อันเนื่องมาจากปัจจัยทางภูมิศาสตร์ ประชากรศาสตร์ และปัจจัยทางสังคมที่มีผลต่อสุขภาพอื่นๆ (เศรษฐกิจ  อาชีพ  วัฒนธรรม เป็นต้น)  ซึ่งบางครั้งกลายเป็นอุปสรรค์ต่อการเข้าถึงบริการของประชาชนบนพื้นที่

๑. จำนวนประชากรที่อยู่ในความดูแลรับผิดชอบ  อำเภอเกาะสมุย  อำเภอเกาะพงัน และอำเภอเกาะช้าง  เป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่  มีประชากรหนาแน่น  นอกนั้นที่เหลือเป็นเกาะขนาดกลาง (เกาะยาว  เกาะสีชัง)  และขนาดเล็ก (เกาะพีพี  เกาะกูด) ทำให้ขนาดและศักยภาพในการดูแลประชาชนลดหลั่นไปตามขนาดของโรงพยาบาล

ผมได้ข่าวมาว่า  เกาะลันตาที่กระบี่กำลังจะได้งบประมาณมาสร้างโรงพยาบาลในเร็วๆนี้  ส่วนเกาะเต่าที่ขึ้นกับอำเภอเกาะพงัน  ก็เคยมีความพยายามที่จะหางบประมาณมาสร้างโรงพยาบาล  แต่ด้วยข้อจำกัดหลายอย่างจึงทำให้ในขณะนี้มีแต่โรงพยาบาลสร้างเสริมสุขภาพ (ชื่อเดิมสถานีอนามัย) ดูแลประชากรและนักท่องเที่ยวบนเกาะ

เกาะหลายแห่ง มีจำนวนนักท่องเที่ยวในแต่ละวันมากกว่าคนพื้นที่  เช่น เกาะเต่า มีประชากรแค่พันกว่าคน  แต่มีนักท่องเที่ยวในแต่ละวันมากกว่านั้น ๒-๓ เท่า จนน้ำบริโภคอุปโภคไม่พอใช้  เมื่อเวลาเกิดการเจ็บป่วยฉุกเฉิน  มักต้องอาศัยเรือเร็ว (Speed boat) เดินทางขนส่งไปที่ฝั่งชุมพรซึ่งอยู่ใกล้กว่า

๒.  ต้นทุนต่อหน่วย (Unit cost) ในการให้บริการแก่ประชาชนของสถานบริการระดับต่างๆบนเกาะมักสูงกว่าธรรมดา  บางแห่งไฟฟ้าดับบ่อย  บางแห่งต้องซื้อน้ำอุปโภคบริโภคจากแผ่นดินใหญ่  บางแห่งเป็นพื้นที่ทุรกันดาร  ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข  ต้องมีการจ่ายค่าเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายและเบี้ยกันดารในอัตราที่สูงกว่าพื้นที่ปกติ  การก่อสร้างและขนย้ายอุปกรณ์ต่างๆมีค่าใช้จ่ายสูง

๓.  ปัญหาการขาดแคลนบุคลากร  บุคลากรที่ทำงานมักเป็นคนนอกพื้นที่ และมีอัตราการขอโยกย้ายสูง  บุคลากรที่ประจำการมักเป็นเจ้าหน้าที่ที่อาวุโสน้อย  ประสบการณ์การทำงานน้อย

๔.  ปัจจัยทางสังคมเฉพาะที่  เกือบทุกโรงพยาบาลดังกล่าวต้องให้บริการดูแลทั้งคนพื้นที่ และนักท่องเที่ยวซึ่งมีทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ  นอกจากนี้ยังต้องอาศัยผู้ที่มีประสบการณ์ความรู้ความเชี่ยวชาญในด้านความเจ็บป่วยเกี่ยวกับทะเล  เช่น  การช่วยเหลือคนจมน้ำ  การดูแลเบื้องต้นผู้ป่วยโรคน้ำหนีบ (อันเกิดจากการดำน้ำ)  โรคที่เกิดจากสัตว์มีพิษในทะเล เช่น แมงกะพรุน

๕.  ปัญหาความยุ่งยากในการส่งต่อผู้ป่วย  เพราะต้องอาศัยการขนส่งทางน้ำ และบางครั้งประสบปัญหาคลื่นลมแรงในฤดูมรสุม  ทำให้ยุ่งยากลำบากในการเคลื่นย้ายผู้ป่วยอาการหนัก  ในบางกรณีที่เป็นเหตุฉุกเฉินเร่งด่วนมาก  ต้องอาศัยการขนส่งผู้ป่วยด้วยเฮลิคอปเตอร์

นอกจากโรงพยาบาลเกาะทั้ง 7 แห่ง  ซึ่งเป็นโรงพยาบาลระดับชุมชน (ยกเว้น โรงพยาบาลเกาะสมุย ที่เป็นโรงพยาบาลทั่วไป)  เรายังมีโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพซึ่งมีเจ้าหน้าที่ ๒-๕ คน  ประจำอยู่บนเกาะเล็กๆอีกประมาณ 10 แห่งทั่วประเทศ เช่น เกาะล้าน เกาะพะลวย  เกาะลิบง  เกาะหลีเปะ เป็นต้น

โรงพยาบาลที่เอ่ยชื่อมาทั้งหมด  ไม่ว่าจะเป็นระดับไหน  ทางสถิติถือเป็นกลุ่มชายขอบ (Outlier) ซึ่งต้องอาศัยการบริหารจัดการที่แตกต่างไปจากโรงพยาบาลในระบบพื้นที่ปกติทั่วไปนับตั้งแต่

-         การจัดงบประมาณสนับสนุนต่อหน่วยที่ต้องสูงกว่าพื้นที่ปกติ  บางแห่งการให้งบสนับสนุนพิเศษเป็นเรื่องจำเป็น

-         การมีระบบสื่อสารที่ดี และไว้ใจได้  นอกเหนือจากระบบโทรศัพท์ หรืออินเตอร์เน็ตแล้ว  บางที่ยังต้องมีระบบวิทยุสื่อสารสำรอง

-         ระบบน้ำบริโภคสำรอง  ระบบพลังงานสำรอง เช่น การใช้พลังงานแสงอาทิตย์มาเป็นระบบไฟฟ้าในอาคาร  ก็เป็นเรื่องที่ต้องพัฒนาเป็นกรณีพิเศษ

-         ระบบสร้างขวัญและกำลังใจแก่บุคลากร เช่น ตำแหน่งบรรจุเป็นข้าราชการ อัตราค่าตอบแทนที่เหมาะสมและพอเพียง  สวัสดิการเกื้อกูลที่ชดเชยการเสียโอกาสบางอย่างเนื่องจากไปอยู่พื้นที่ห่างไกล เป็นต้น

.......คนไทยไม่แล้งน้ำใจ  ผมขอเชิญชวนท่านที่มีจิตศรัทธาอยากทำบุญกุศลที่เกื้อกูลสาธารณประโยชน์  ช่วยกันบริจาคทรัพย์สิน หรือสิ่งของที่จำเป็นกับโรงพยาบาลที่อยู่ในพื้นที่เกาะ  ลองมาทำบุญช่วยคนอยู่บนเกาะกันบ้าง.....ดีไหมครับ..

ข้อมูลสื่อ

440-1330
นิตยสารหมอชาวบ้าน 440
ธันวาคม 2558
นพ.วีระวัฒน์ พันธ์ครุฑ