• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

เทียน :ไม้ดอกงามที่ได้นามจากลำต้น

เทียนไม้ดอกงามที่ได้นามจากลำต้น



"ชาวมาเลเซียในอดีต ใช้กลีบของต้นเทียนทาสีเล็บ และชาวบาหลีในอดีตนำใบเทียนมากินเป็นอาหาร "

ปีใหม่เริ่มต้นขึ้นไม่เหมือนทุกปีที่ผ่านมาเพราะเกิดเหตุการณ์ไม่สงบขึ้นทำให้งานฉลอง ขึ้นปีใหม่ของหลายหน่วยงานต้องยกเลิกไป

สำหรับผู้เขียนเองไม่เคยออกไปนับถอยหลังต้อนรับปีใหม่ที่ไหนอยู่แล้ว เพราะรู้สึกว่าวันที่ 1 มกราคมก็มีความสำคัญเท่ากับวันอื่นๆ ดังนั้น สิ่งที่ผู้เขียนปฏิบัติ ในคืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่นั้น ก็คือการจุดธูปเทียน บูชาพระรัตนตรัยและสวดมนต์ไหว้พระก่อนนอน ดังเช่นที่ทำอยู่ทุกคืนก่อนนอน

เนื่องในวันขึ้นปีใหม่และเนื่องในวันวาเลนไทน์ ซึ่งทำให้เดือนกุมภาพันธ์ถูกเรียกว่า
"เดือนแห่งความรัก" ผู้เขียนจึงเลือกนำเสนอ"ต้นเทียน" อันมีนามเป็นมงคล เพราะหมายถึงสิ่งที่ให้แสงสว่าง อันเปรียบเสมือนแสงแห่งปัญญาในพุทธศาสนา

 

เทียน...ความงดงามบนกลีบอันบอบบาง

เทียน มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Impatiens balsa-mina Linn. อยู่ในวงศ์ Balsaminaceae เป็นไม้ล้มลุกขนาดเล็ก ลำต้นอวบน้ำสูงประมาณ 30-50เซนติเมตร

ลำต้น เปราะหักง่าย ผิวเรียบเป็นมัน สีเขียวอ่อน ค่อนข้างใส บางครั้งอาจจะมีจุดสีแดงตามโคนต้น โดยเฉพาะสายพันธุ์ที่มีดอกสีเข้ม ลำต้นก็จะมีสีเข้มตามไปด้วย

ใบ แตกออกตามข้อ รูปร่างคล้ายใบหอก หัวท้ายแหลม กลางใบป่องออก ขอบใบมีหยัก ก้านใบสั้น ใบค่อนข้างอวบน้ำ เส้นใบสีขาวเห็นได้ชัด

ดอก ออกตามง่ามใบ ช่อละ 2-3 ดอก ลักษณะคล้ายดอกกล้วยไม้ผสมดอกกุหลาบ มักมีกลีบซ้อนหลายชั้น กลีบอ่อนนุ่มบอบบาง กลีบดอกมีหลายสีตาม สายพันธุ์ เช่น สีขาว สีชมพู สีส้ม สีแดง สีม่วง เป็นต้น บางต้นก็มี 2 สี อยู่ด้วยกัน เกิดจากการผสมข้าม สายพันธุ์
ดอกเทียนบานได้ 1-2 วัน ก็จะร่วงโรย แต่จะมี ดอกใหม่บานขึ้นมาแทนที่ จึงทำให้ต้นเทียนมีดอกบานเต็มต้นอยู่ได้นานนับเดือน

ผล เป็นกระเปาะสีเขียว รูปร่างกลมรี หัวท้ายแหลม ยาวประมาณ 1.5-2 เซนติเมตร เปลือกค่อนข้างหนา มีลักษณะอวบน้ำและมีสีเขียว เมื่อผลแก่เปลือกจะแตกออกตามยาว เปลือกผลจะม้วนดีดเมล็ดกระเด็นไปไกลๆ แต่ละผลจะมีเมล็ดขนาดเล็กสีน้ำตาลหลายสิบเมล็ดอยู่ภายใน

ต้นเทียนขยายพันธุ์ได้ง่ายด้วยการเพาะเมล็ด หลังจากงอกราว 45 วัน ก็เริ่มมีดอกบานให้ได้เห็นบ้างแล้ว
ถิ่นกำเนิดดั้งเดิมของเทียน สันนิษฐานว่าอยู่ในประเทศอินเดีย เทียนคงถูกนำมาปลูกในเมืองไทย ช่วงปลายกรุงศรีอยุธยา หรือต้นกรุงรัตนโกสินทร์ เพราะพบชื่อในหนังสืออักขราภิธานศรับท์ (พ.ศ.2416) ว่า "เทียน : เปนชื่อของทำด้วยสีผึ้งสำหรับจุดไฟ อีกอย่างหนึ่งคือต้นดอกไม้ศรีต่างๆ "
ชื่อเรียกเทียนในภาษาไทยคือ เทียน เทียนบ้าน เทียนสวน เทียนดอก เทียนสี เป็นต้น ภาษาอังกฤษคือ Balsam

ประโยชน์ของต้นเทียน

ประโยชน์หลักของเทียนคือ เป็นไม้ดอกไม้ประดับ เพราะมีลำต้นคล้ายลำเทียน มีดอกงดงามเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีหลากหลายสี ปลูกง่าย มีดอกเร็ว ปลูกได้ทั้งในกระถาง ปลูกลงแปลง ปลูกตามริมรั้ว ฯลฯ อีกทั้งชื่อของเทียนก็เป็นมงคล เพราะเป็นสิ่งที่ให้แสงสว่างที่ชาวไทยโดยเฉพาะชาวพุทธ ใช้ในการบูชาพระรัตนตรัย และใช้ในงานพิธีต่างๆ ซึ่งขาดเทียนไม่ได้เลย

เด็กๆ ใช้กลีบและผลของต้นเทียนเป็นของเล่น เพราะดอกมีกลีบให้สีต่าง ใช้ย้อมหรือทาได้ดี ไม่มีอันตราย ผลของต้นเทียนแตกได้เช่นเดียวกับผลของต้นต้อยติ่ง เมื่อผลแตกแล้ว เปลือกที่ขดเป็นวงๆ ยังดูคล้ายตัวหนอนสีเขียวอีกด้วย
ชาวมาเลเซียในอดีต ใช้กลีบของต้นเทียนทาสีเล็บ และชาวบาหลีในอดีต นำใบเทียนมากินเป็นอาหาร

ปัจจุบันเทียนมีสายพันธุ์ที่หลากหลายและสวยงามมากขึ้น นับเป็นไม้ดอกที่น่าปลูก เพราะทุกคนสามารถหามาปลูกเอาไว้ชื่นชมได้ไม่ยากเลย

ข้อมูลสื่อ

334-019
นิตยสารหมอชาวบ้าน 334
กุมภาพันธ์ 2550
ต้นไม้ใบหญ้า
เดชา ศิริภัทร