• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

มายองเนส สลัดครีม และ แซนวิชสเปรด

มายองเนส สลัดครีม และ แซนวิชสเปรด

ครั้งนี้เราจะตามหมิวกับเจไปท่องยุโรปในหนังเรื่อง “ยามเทื่อลมพัดหวน“ กันดีกว่า แต่ก่อนอื่นก็ต้องเตรีมตัวให้คุ้นกับอาหารฝรั่งกันก่อน มายองเนส สลัดครีม และแซนวิชสเปรด คงเป็นอาหารฝรั่งที่หลายคนคุ้นเคยดี

หน้าหนาวอย่างนี่เหมาะที่จะกินสลัด เนื่องจากผัดสดดีแถมราคาถูกอีกด้วย โดยทั่วไปสลัดครีมมักนิยมกินกับผักที่มีรสจืด เช่น ผักกาดหอม ผักกาดแก้ว แตงกวา มะเขื่อเทศ หอมหัวใหญ่ พริกหวาน เป็นต้น บางครั้งก็กินร่วมกับเนื้อสัตว์ เช่น เนื้อไก่ ไข่ หรือ กินร่วมกับอาหารยอดฮิต ของบางคน อันได้แก่ สลัดเนื้อสัน

สำหรับมายองเนส นิยมใช้เป็นเครื่องจิ้ม เนื้อสัตว์ และอาหารทะเล เพื่อเพิ่มรสชาติ

ส่วนแซนวิชสเปรดนั้นใช้ทาขนมปัง อาจแซมด้วยผักกาดหอม มะเขื่อเทศ เป็นอาหารเช้าได้อย่างสบายๆ แต่อย่างไรก็ตามรูปแบบการกินนี้ไม่ตายตัว บางครั้งอาจใช้มายองเนสแทนสลัดครีม และแซนวิชสเปรดก็ได้

ก่อนที่จะไปดูส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ เราไปพิจารณาเลขทะเบียนกันก่อนดีกว่า มายองเนส สลัดครีม และแซนวิชสเปรดมีเลขทะเบียนเป็น “ ผก “ จัดเป็นอาหารควบคุมประเภทอาหารในภาชนะบรรจุที่ปิดสนิท ตามพระราชบัญญัติอาหารปี พ.ศ. 2522 มีส่วนผสมหลักคล้ายกัน ดังนี้

1. น้ำมัน ที่นิยมใช้ ได้แก่ น้ำมันถั่วเหลือง ซึ่งประกอบด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัวที่มีจุดหลอมเหลวต่ำในปริมาณมาก จึงไม่แข็งตัวที่อุณหภูมิห้อง ( อุณหภูมิปกติ ) ลักษณะทางเคมีเช่นนี้ ทำให้น้ำมันชนิดนี้ไม่แข็งตัวและไม่แยกตัวออกจากส่วนผสมอื่น เมื่อเก็บไว้ในตู้เย็นโดยทั่วไปมาตรฐานกำหนดให้มายองเนสมีปริมาณน้ำมันไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 และสลัดครีมมีไม่น้อยกว่าร้อยละ 30 อย่างไรก็ตาม ผู้ผลิตมักเพิ่มปริมาณน้ำมันให้สูงกว่ามาตรฐาน กล่าวคือ มายองเนสมีถึงร้อยละ 70-80 ส่วน สลัดครีมมีถึงร้อยละ 50-60 เพราะทำให้ผลิตภัณฑ์มีลักษณะเนียนน่ากิน

2.ไข่แดง ถือว่าเป็นส่วนผสมที่สำคัญซึ่งขาดไม่ได้สำหรับผลิตภัณฑ์นี้ เพราะประกอบด้วยสารธรรมชาติเรียกว่า เลซิติน ( lecithin) เป็นตัวกลางที่ช่วยดึงน้ำมันถั่งเหลืองกับส่วนของน้ำส้มสายชูให้เข้ากันได้ดีไม่แยกออกเป็นชั้นของน้ำและน้ำมัน นอกจากนี้ไข่แดงยังให้สีเหลืองอ่อนๆ แก่ผลิตภัณฑ์ โดยทั่วไปมีการเติมไข่แดงร้อยละ 10 ขึ้นไป ยกเว้นในแซนวิชสเปรดที่มีส่วนผสมไข่แดงเพียงร้อยละ 5-6 เท่านั้น

3.น้ำส้มสายชู นิยมใช้ทั้งในรูปของน้ำส้มสายชูหมัก และกลั่น ขึ้นอยู่กับว่าต้องการกลิ่นหอมแบบใด ปกติแล้วน้ำส้มสายชูหมักมักมีกลิ่นที่หอมเฉพาะไปอีกแนวหนึ่ง น้ำส้มสายชูที่เติมลงไปช่วยให้รสเปรี้ยวซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของผลิตภัณฑ์เหล่านี้ นอกจากนี้ความเปรี้ยวยังช่วยในการถนอมอาหารให้เก็บได้นานด้วย บางครั้งก็มีการใช้น้ำมะนาวหรือน้ำแอปเปิ้ลแทนน้ำส้มสายชู ปริมาณน้ำส้มสายชูในสลัดครีมมีค่อนข้างสูง คือ ร้อยละ 15-20 ในขณะที่มายองเนสและแซนวิชสเปรดมีเพียงประมาณร้อยละ 5-8เท่านั้น

4. น้ำตาล เติมลงไปเพื่อให้รสหวานในผลิตภัณฑ์ โดยมีปริมาณการใช้แตกต่างกันสำหรับมายองเนส มีตั้งแต่ร้อยละ 1-12 สลัดครีมร้อยละ 15-20 และแซนวิชเปรดร้อยละ 5-18

5. เกลือ จะช่วยให้ผลิตภัณฑ์มีรสเข้มขึ้น ซึ่งมีตั้งแต่ไม่เติมเลยจนกระทั่งเติมประมาณร้อยละ 2

6. อื่นๆ บางยี่ห้อก็มีการเติมเครื่องเทศลงไปเพื่อให้มีรสชาติเฉพาะตัวมากขึ้น ที่นิยมเติมก็มีมัสตาร์ด พริกไทย กระเทียม ฯลฯ บางยี่ห้อก็ระบุว่า มีการแต่งสีหรือแต่งกลิ่นบ้าง นอกจากนี้ บางยี่ห้อก็ระบุว่าเสริมรสชาติด้วยผงชูรสอีกด้วย

สำหรับสารกันบูดหรือวัตถุกันเสียนั้น ตามหลักทางวิทยาศาสตร์ก็ไม่จำเป็นต้องเติม เพราะความเปรี้ยวของน้ำส้มสายชูจะช่วยถนอมผลิตภัณฑ์เหล่านี้ได้ แต่ก็ยังมีบางยี่ห้อระบุว่าเติมลงไปด้วย

สลัดครีมและแซนวิชสเปรดต่างจากมายองเนสตรงไหน

นอกจากปริมาณส่วนประกอบหลักที่ต่างกันแล้ว ในสลัดครีมยังมีส่วนผสมของแป้งเพื่อช่วยเพิ่มปริมาณและความเข้มข้นของผลิตภัณฑ์ แป้งที่นิยมใช้ ได้แก่ แป้งข้าวโพด แป้งมันสำปะหลัง และแป้งสาลี ซึ่งก็อาจด้วยสาเหตุที่มีการผสมน้ำมันในปริมาณที่น้อยกว่าและยังผสมแป้งด้วยทำให้สลัดครีมมีราคาถูกกว่า สำหรับในแซนวิชสเปรดจะมีส่วนผสมของแตงกวาดองและแครอตดอง บางยี่ห้อจะใส่เนื้อไก่หั่นฝอยหรือแฮมเพื่อให้น่ากินยิ่งขึ้น แซนวิชสเปรดจะมีความข้นน้อยกว่ามายองเนสและสลัดครีม เพื่อให้สามารถเกลี่ยบนขนมปังได้ง่ายขึ้น

กินสลัดลดความอ้วนได้จริงหรือ

พลังงานที่ได้จากผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่จะมาจากน้ำมันซึ่งมีอยู่ในปริมาณสูง แต่เรามักคาดไม่ถึงเนื่องจากลักษณะเนื้อที่เนียนจะกลบความรู้สึกที่เป็นน้ำมันเอาไว้ ถ้ากินบ่อยๆ ก็ทำให้อ้วนได้ และถึงแม้ว่าน้ำมันถัวเหลืองจะมีปริมาณกรดไขมันไม่อิ่มตัวสูงและไม่มีโคเลสเตอรอลแต่ก็ต้องระวังโคเลสเตอรอลในไข่แดงด้วย ดังนั้นจึงควรกินสลัดครีมที่มีน้ำมันและไข่แดงต่ำ หรือสลัดน้ำใสซึงไม่มีไข่แดงจะดีกว่า

เปิดกินแล้วเก็บอย่างไร

มายองเนส สลัดครีม และแซนวิชสเปรดจะหืนได้ง่ายเมื่อสัมผัสกับอากาศ จึงมักพบว่า ผลิตภัณฑ์เหล่านี้บรรจุอยู่ในขวดแก้วเพื่อป้องกันอากาศเข้า ซึ่งหลังจากเปิดกินแล้วควรปิดฝาให้สนิทและเก็บในที่เย็น และควรใช้ช้อนสะอาดตักแบ่งเพื่อป้องกันการปนเปื้อนของเชื้อจุลินทรีย์นะคะ

เห็นหอนาฬิกาบิ๊กเบนอยู่ลิบๆ รัดเข็มขัดแล้วเตรีมร่อนลงสัมผัสนครลอนดอนกันดีกว่า กู๊ดบาย
 

ข้อมูลสื่อ

177-018
นิตยสารหมอชาวบ้าน 177
มกราคม 2537
สิติมา จิตตินันทน์