โรคข้อหนังหย่อนยืด
ท่านผู้อ่านคงจะได้เห็นภาพเด็กที่นั่งดึงหูยืดยานทั้งสองข้าง โดยพาดหัวข่าวว่า เด็กยอดกายกรรม ไทยรัฐ ฉบับวันพุธที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2532 ตามเนื้อข่าวเป็นเด็กชายอายุ 14 ปี ชาวจังหวัดอุตรดิตถ์ สามารถทำท่ากายกรรมพิสดาร เอาขาขึ้นไปพาดที่กลางหลังข้างเดียวก่อน แล้วต่อมาก็ยกพาดได้ทั้งสองขา เอามือทั้งสองข้างไปพนมไหว้ที่ข้างหลังอย่างสวยงาม ดึงหูทั้งสองข้างยาวลงมาจนถึงบ่า และดึงให้กางออกไปได้ด้วย เรียนได้ถึงชั้นประถมปีที่ 2 เพราะสมองไม่ค่อยดี
ดูและอ่านแล้ว ช่างเหมือนเด็กในตำราเปี๊ยบเลย ท่านคงจะเคยเห็นรูปตามหนังสือพิมพ์มากมายว่า เด็กหลายคนเล่นท่ากายกรรมอย่างแปลกประหลาดได้ พวกนี้มักจะติดตามไปกับคณะแสดงกายกรรม หรือคณะแสดงกลรับจ้าง แสดงและเก็บเงินทั่วไป เด็กหรือผู้ใหญ่เหล่านี้มีคุณสมบัติพิเศษ คือ หูยืดได้ ดึงให้ยานได้ ผิวหนังเหมือนกำมะหยี่ยืดดึงให้ยานได้ มักจะมีรอยแตกได้ง่าย แผลหายช้า มักจะมีรอยแผลเป็นเล็กๆ อยู่
ข้อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นข้อเท้า ข้อศอก ข้อสะโพก หรือหัวไหล่ยืดได้ดีมาก เพราะข้อหย่อนได้ดี ดังเช่นเด็กข้างต้น ที่สามารถเอาเท้าไปพาดข้างหลังได้ และพนมมือด้านหลังได้ เรื่องข้อหย่อนนี้แหละที่ทำให้เด็กมีข้อได้เปรียบเรื่องกายกรรมสามารถแอ่นหลังโค้ง (เอาท้องขึ้นข้างบน) ได้อย่างสวยงาม ที่สำคัญคือ อาจจะมีสติปัญญาด้อยหรือปัญญาอ่อนร่วมด้วย ที่จริงแล้ว มันเป็นโรคทางกรรมพันธุ์ชนิดหนึ่ง เรียกตามภาษาอังกฤษว่า กลุ่มอาการเอเล่อร์ส-แดนลอส (Ehrlers-Danlos syndrome) (เอาชื่อมาจากคุณหมอ 2 คน ที่รายงานเมื่อ 80 กว่าปีมาแล้ว) ปัจจุบันทั่วโลกมีอยู่ประมาณ 100 กว่าราย
อีกอย่างที่ต้องระวัง คือ เป็นโรคทางกรรมพันธุ์ที่มีลักษณะเด่น สามารถถ่ายทอดไปสู่ลูกหลานได้ นั่นหมายความว่า ถ้าพ่อแม่เป็น ลูกก็มีโอกาสเป็นโรคนี้ได้ ระวังอย่าคิดไปแต่งงานกับคนสวยๆ หรือคนหล่อๆ ที่สามารถทำกายกรรมได้เก่งๆ และมีหูหรือหนังยืดได้ก็แล้วกัน เพราะรังแต่จะถ่ายทอดโรคนี้ไปไม่มีที่สิ้นสุด กลุ่มอาการดังกล่าวข้างต้น ยังมีอาการทางตา ทางระบบหัวใจ หลอดเลือด ระบบทางเดินอาหาร ไตพิการและอีกมากมาย คงจะพอได้ความรู้เกี่ยวกับโรค “ข้อหนังหย่อนยืด” แล้วนะครับ หากใครรู้จักครอบครัวที่มีเด็กเหล่านี้ ก็ควรจะแนะนำเกี่ยวกับเรื่องกรรมพันธุ์ด้วย จะได้กุศลโดยแท้
- อ่าน 3,052 ครั้ง
- พิมพ์หน้านี้