• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

ยาลดไขมัน

ยาลดไขมัน

จากการศึกษาผลต่อร่างกาย ปรากฏว่า การได้รับยาในปริมาณสูงจะทำให้ผู้ชายมีลักษณะคล้ายผู้หญิง และทำให้ผู้หญิงมีลักษณะคล้ายผู้ชาย

แม้ผู้เชี่ยวชาญส่วนมากจะเห็นพ้องต้องกันว่า การควบคุมอาหาร การออกกำลังกาย และการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการกินอาหาร เป็นหลักสำคัญของการควบคุมน้ำหนักในระยะยาว แต่มีนักวิจัยกลุ่มหนึ่งได้พยายามค้นคว้าหายาที่สามารถนำมาใช้ในการลดน้ำหนัก โดยยานี้จะมีคุณสมบัติทำให้พลังงานจากอาหารกลายเป็นความร้อนไปเลย แทนที่จะสะสมเป็นไขมัน

คณะนักวิจัยรายงานว่า สารตัวหนึ่งที่มีคุณสมบัติดังกล่าว คือ ฮอร์โมนดีเอชอีเอ (ดีไฮโดรเอพิแอนโดรสเตอโรน) ซึ่งร่างกายผลิตได้จากต่อมหมวกไต จากการทดลองในคน คณะวิจัยพบว่า ไม่เพียงแต่ฮอร์โมนดีเอชอีเอจะเผาผลาญไขมันเท่านั้น แต่ยังทำให้กล้ามเนื้อเข้าแทนที่ไขมันที่สูญสลายไปอีกด้วย

คณะแพทย์แห่งวิทยาลัยแพทย์เวอร์จีเนียได้ให้ยาที่สังเคราะห์จากฮอร์โมนดังกล่าวแก่ชายอายุ 20-25 ปี จำนวน 5 คน เป็นเวลา 1 เดือน และให้ยาหลอกกับชายอีก 5 คน โดยที่ทั้ง 10 คนนี้มีการกินอยู่ตามปกติ ผลการทดลองปรากฏว่า ในกลุ่มที่ได้รับฮอร์โมนสังเคราะห์ น้ำหนักไม่เปลี่ยนแปลง แต่ไขมันในส่วนต่างๆ ของร่างกายลดลงร้อยละ 31 โดยเฉลี่ย ส่วนในกลุ่มที่ได้รับยาหลอกไม่มีการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด

คณะแพทย์รายงานว่า นอกจากไขมันจะสูญสลายโดยมีกล้ามเนื้อเข้าไปแทนที่แล้ว ยังทำให้ระดับโคเลสเตอรอลชนิดแอลดีแอล (เป็นสาเหตุของการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตีบตัน) ในเลือดลดลงอีกร้อยละ 7 ทั้งนี้คาดว่า เนื่องจากฮอร์โมนดังกล่าวได้ไปกระตุ้นให้เกิดการสร้างกล้ามเนื้อ ขณะเดียวกันก็เปลี่ยนแปลงไขมันที่ร่างกายสะสมไว้ให้กลายเป็นฮอร์โมนเอสโตรเจน (ซึ่งเป็นสาเหตุให้โคเลสเตอรอลลดลง)

แต่จากการศึกษาผลต่อร่างกายปรากฏว่า การได้รับยาดังกล่าวในปริมาณสูงจะทำให้ผู้ชายมีลักษณะคล้ายผู้หญิง (เนื่องจากการทำงานของฮอร์โมนเอสโตรเจน) และทำให้หญิงมีลักษณะคล้ายผู้ชาย (เนื่องจากกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้น) ขณะนี้คณะวิจัยกำลังพยายามสังเคราะห์ฮอร์โมนดีเอชอีเอให้ได้แต่คุณสมบัติตามที่ต้องการ และลดผลข้างเคียงดังกล่าว

(จาก Dane A. Flba-to-muscle pill? American Health 1989;6:18)

ข้อมูลสื่อ

126-006
นิตยสารหมอชาวบ้าน 126
ตุลาคม 2532
ศักดิ์สิทธิ์ ชมไพศาล