• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

แพทย์จีนสมัยจิ๋นซีฮ่องเต้

แพทย์จีนสมัยจิ๋นซีฮ่องเต้

ปลายสมัยจ้านกัวะ (พ.ศ.68-332) ผลจากสงครามอันยาวนานระหว่าง 7แคว้น ในที่สุดไม่มีแคว้นใดที่สามารถต้านทานแสนยานุภาพของแคว้นฉินได้ จึงถูกฉินปราบจนราบคาบ และ พ.ศ.332 (ก่อนคริสต์ศักราช 221 ปี) ไหลเจินได้สถาปนาตนเองขึ้นเป็นกษัตริย์ และทำการรวบรวมจีนให้เป็นปึกแผ่น กษัตริย์พระองค์นี้ คือ ฉินสื่อหวง (จิ๋นซีฮ่องเต้) จักรพรรดิผู้สร้างกำแพงเมืองจีนที่ยิ่งใหญ่นั่นเอง

หลังกษัตริย์ฉินสื่อหวงขึ้นครองราชย์ พระองค์ได้ปฏิรูปสังคมครั้งใหญ่ คือ เปลี่ยนระบบมาตราชั่ง ตวง วัด เงินตรา กฎหมาย ตัวอักษรจีน การแต่งกาย และปฏิทินให้เป็นระบบเดียวกันทั่วประเทศ และเพื่อที่จะทำลายความคิดและความเชื่อของปราชญ์รุ่นเก่า เช่น ขงจื่อ (ขงจื้อ) ให้สิ้นซากไปจากแผ่นดิน พระองค์จึงมีพระราชโองการให้เผาตำราและฆ่าสานุศิษย์ที่สืบทอดความคิดของขงจื้อ แต่ก็นับว่าโชคดีที่หนังสือทางด้านการแพทย์ ดาราศาสตร์ และการเกษตร ไม่ได้ถูกเผาไปด้วย จึงทำให้หนังสือที่สำคัญทางการแพทย์สามารถตกทอดมาจนถึงทุกวันนี้

ในสมัยฉิน มีแพทย์รักษาโรคและปรุงยาอายุวัฒนะพวกหนึ่ง เรียกว่า ฟางซื่อ (เชื่อว่า แพทย์พวกนี้เป็นผู้ที่รู้จักตำรับยาที่สะสมมาตั้งแต่โบราณ รวมทั้งตำรับยาลับซึ่งถ่ายทอดกันเฉพาะลูกหลานในครอบครัวเท่านั้น หรืออาจเพราะแพทย์เหล่านั้นรู้ตำรับยามากมายสะสมไว้ จึงเป็นเหตุให้ประชาชนเรียกพวกเขาว่า ฟางซื่อ)

ครั้งหนึ่งขณะที่กษัตริย์ฉินออกตรวจราชการแผ่นดิน ฟางซื่อจำนวนหนึ่งซึ่งตามเสด็จฯ ได้กราบทูลกษัตริย์ฉินถึงเรื่องราวของยาอายุวัฒนะ กษัตริย์ฉินเกิดความเชื่อและอยากได้มาเสวย จึงมีพระราชโองการให้หานจงนำผู้คนจำนวนหนึ่งออกไปสืบเสาะแสวงหายาอายุวัฒนะ แต่หานจงและผู้ติดตามทั้งหมดได้หายสาปสูญไปไม่ได้ข่าวคราว

กษัตริย์ฉินจึงมีพระราชโองการให้สวี่ซื่อสร้างเรือและเกณฑ์เยาวชนชายหญิงรวม 1,000 คน (ชาย 500 หญิง 500) เพื่อไปสืบเสาะแสวงหายาอายุวัฒนะ ในการนี้ทรงใช้เงินไปเป็นจำนวนมหาศาล แต่ทั้งหมดก็หายไปเช่นกัน เนื่องจากกษัตริย์ฉินได้ทรงใช้อำนาจและกำลังโค่นแคว้นอื่นๆ ทำให้พระองค์เกิดความวิตกว่าหัวเมืองทั้ง 6 จะแข็งข้อคิดกบฏ จึงมีพระราชโองการให้เก็บศาสตราวุธต่างๆ มาเก็บไว้ที่เมืองหานหยาง แล้วทำลายอาวุธเหล่านั้นเสีย เพื่อให้เกิดความสะดวกและรวดเร็วในการควบคุมหัวเมืองต่างๆ กษัตริย์ฉินจึงมีพระราชโองการให้ตัดถนนใหญ่จากฉินไปสู่หัวเมืองต่างๆ และยังมีการขุดคลองหลินชวี (ปัจจุบัน คือ คลองหุดสิ้นอาน) เป็นคลองขุดเชื่อมแม่น้ำจูเจียง และแม่น้ำฉางเจียง

ประวัติศาสตร์จีนนั้นตั้งแต่กลางสมัยจ้านกัวะเป็นต้นมา ชนชาติเซวียงหนู ซึ่งเร่ร่อนอยู่แถบมองโกเลีย มักยกทัพลงมารุกรานจีนอยู่เสมอ เพื่อเป็นการป้องกันการรุกรานของชนชาติเซวียงหนู กษัตริย์ฉินจึงมีพระราชโองการให้สร้างกำแพงเมืองจีนขึ้น โดยเชื่อมกำแพงเมืองเดิมซึ่งมีอยู่แล้วทางทิศเหนือของเอี้ยนจ้าว และฉินเข้าด้วยกัน งานก่อสร้างต้องใช้แรงงานคนจำนวนมากและเวลาอันยาวนาน จนกระทั่งสำเร็จเป็นกำแพงเมืองจีนที่ยาวกว่า 5,000 กิโลเมตร โดยตั้งต้นจากด้านตะวันตกของเมืองเจียนถาว ไปถึงด้านตะวันออกของมณฑลเหลียวตง

ผลกระทบจากการเกณฑ์ประชาชนจำนวนมหาศาลเพื่อสร้างกำแพงเมืองจีน สร้างถนนขนาดใหญ่ และการขุดคลอง ทำให้เศรษฐกิจของฉินพังทลาย ขณะเดียวกันแคว้นก็เรียกเก็บภาษีอย่างหนัก ตลอดจนการทารุณกรรมต่อประชาชน ทำให้ประชาชนสุดที่จะทนได้ ในที่สุดขบวนการกบฏชาวนาโดยการนำของเฉินเซิ่งและอู๋กวงก็เกิดขึ้น ปี พ.ศ.336 กษัตริย์ฉินพระองค์ที่ 2 หูไห้ ขึ้นครองราชย์ เดือนกรกฎาคมปีเดียวกัน เฉินเซิ่ง อู๋กวง และกองทัพชาวนาประมาณ 900 คนได้ก่อกบฏ สถาปนาอำนาจแคว้นจางฉู่ขึ้น โดย เฉินเซิ่งเป็นเจ้าเมืองจางฉู่ ต่อมาเกิดสงครามระหว่างจางฉู่กับฉิน กองทัพของจางฉู่พ่ายแพ้แก่ฉิน เฉินเซิ่งและอู๋กวงเสียชีวิตในสมรภูมิ

เดือนตุลาคม พ.ศ.339 เสี้ยนยวี่และหลิวปัง ได้นำทหารก่อกบฏฉิน และตีด่านกวนจงแตกยึดเมืองหานหยางไว้ได้ กษัตริย์ฉินพ่ายแพ้ เป็นอันสิ้นสุดราชวงศ์ฉิน หลังจากสิ้นสุดราชวงศ์ฉิน เสี้ยนยวี่ และหลิวปังได้ทำสงครามรบพุ่งกันนาน 5 ปี การรบครั้งสุดท้ายเสี้ยนยวี่พ่ายแพ้และฆ่าตัวตายริมแม่น้ำอูเจียง พ.ศ.343 หลิวปังได้สถาปนาตนเองขึ้นเป็นกษัตริย์ เรียกว่า ราชวงศ์ฮั่น ประวัติศาสตร์ช่วงนี้เรียก ซีฮั่น หรือฮั่นตะวันตก (พ.ศ.339-521) ปี พ.ศ.584 พระญาติฝ่ายราชินีของฮั่นชื่อหวังยิ่ว ได้กบฏต่อกษัตริย์ฮั่น แล้วสถาปนาตนเองขึ้นเป็นกษัตริย์เรียกซิน ต่อมาในปี พ.ศ.570 หลิวซิ่ว ได้สถาปนาราชวงศ์ฮั่นขึ้นมาใหม่ ประวัติศาสตร์ช่วงนี้เรียกว่า ตงฮั่น หรือฮั่นตะวันออก (พ.ศ.570-765)

หมายเหตุ
เนื้อหาการแพทย์ตะวันออกขณะนี้ ท่านผู้อ่านคงได้ทราบประวัติต่างๆ ของประเทศจีนไปด้วย เพราะในแต่ละยุคสมัยของกษัตริย์จีนมีผลกระทบต่อการแพทย์จีนที่ดำเนินอยู่ ผู้เขียนก็ขอรวบรวมเพื่อถ่ายทอดให้ผู้อ่านได้ติดตามและร่วมกันค้นคว้าต่อไป

ข้อมูลสื่อ

128-015
นิตยสารหมอชาวบ้าน 128
ธันวาคม 2532
วิทิต วัณนาวิบูล