• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

ไม่ไปโรงเรียน

ไม่ไปโรงเรียน

ลูกผมทั้ง 2 คนเข้าโรงเรียนอนุบาลตั้งแต่อายุไม่เต็ม 3 ขวบ ไม่ใช่ว่าลูกแก้วและลูกขวัญฉลาดกว่าเด็กอื่น หรือผมอยากให้ลูกเก่ง แต่เพราะขาดคนเลี้ยงดูลูก ก็เลยเอาลูกไปฝากครูที่โรงเรียนเลี้ยง

สิ่งหนึ่งที่เหมือนกันสำหรับลูกทั้ง 2 คน คือ ไม่ยอมไปโรงเรียน ซึ่งจะเกิดขึ้นหลังจากไปโรงเรียนกลับมาแล้วในวันแรก และจะงอแงอยู่ 1-2 สัปดาห์ แล้วจึงค่อยๆดีขึ้น และจะไม่ยอมไปอีกเป็นครั้งคราว เมื่อเกิดปัญหาไม่พออกพอใจ

ปฏิบัติการงอแงมีตั้งแต่ไม่ยอมลุกจากที่นอน ไม่ยอมแปรงฟัน ไม่ยอมอาบน้ำ ไม่ยอมใส่เสื้อผ้า ไม่ยอมกินอาหาร และไม่ยอมขึ้นรถ หรือบางครั้งก็ไม่ยอมลงจากรถเมื่อถึงโรงเรียนแล้ว

ลูกขวัญเคยอ้อนตั้งแต่ก่อนนอนในบางคืนว่า รู้สึกปวดหัวและตัวร้อน พรุ่งนี้เช้าคงไปโรงเรียนไม่ได้ พร้อมทั้งขอยาน้ำลดไข้สีเขียวกินซะหนึ่งช้อนเพื่อให้ดูสมจริง

เราใช้ปฏิบัติการหลายอย่างเพื่อรบกับลูก มีตั้งแต่ปลอบประโลม ให้สัญญาจะให้โน่นให้นี่ โอนอ่อนผ่อนตามให้หยุดโรงเรียนได้ตามความต้องการบ้าง จนถึงขั้นปฏิบัติการเด็ดขาด คือ อุ้มใส่รถไปส่งคุณครูก็เคย แต่ก็ยังไม่อาจสรุปได้ว่าวิธีไหนดีที่สุด ก็เลยผสมผเสกันไปหลายวิธี แต่สิ่งหนึ่งที่ผมเห็นว่าสำคัญ คือ อย่าทำให้เด็กเกลียดโรงเรียน อย่าให้เกิดความรู้สึกไม่ดีต่อโรงเรียนอย่างฝังใจ ซึ่งทั้งผู้ปกครองและครูมีส่วนสำคัญอย่างมาก

ผู้ปกครองอย่าได้คิดโยนภาระการเลี้ยงดูอบรมลูกให้โรงเรียนฝ่ายเดียว ควรให้รายละเอียดการเลี้ยงดูลูกและสังคมที่บ้านแก่คุณครู โดยเฉพาะเมื่อเด็กเกิดปัญหา ผู้ใหญ่ต้องปรึกษากัน

ครั้งหนึ่งอยู่ๆ ลูกแก้วก็เกิดไม่ยอมไปโรงเรียนเฉยๆ หลังจากไปอยู่ทุกวัน เราไม่ทราบสาเหตุก็เลยปรึกษาคุณครูประจำชั้น รุ่งขึ้นคุณครูให้ลูกแก้วเป็นคนเชิญธงชาติตอนเช้า ลูกแก้วก็ขยันไปโรงเรียนอีก เพราะต้องเชิญธงเพื่อเด็กทั้งโรงเรียน ต่อมาคุณครูก็เลยให้เด็กๆ ได้เวียนกันเชิญธงชาติคนละวัน

กิจกรรมเล็กๆ น้อยๆ ที่เด็กได้มีโอกาสได้แสดงออก มีความสำคัญต่อเด็กมาก แต่ผู้ใหญ่อาจจะมองผ่าน
คุณครูสำหรับเด็กเล็กสำคัญมาก เพราะเป็นผู้ปลูกฝังให้เด็กรักโรงเรียน รักการเรียนหนังสือ และชี้แนะเด็กในการเข้าร่วมสมาคมกับเพื่อนๆ

โชคดีที่ลูกแก้วและลูกขวัญได้ครูดี เดี๋ยวนี้เลยรักโรงเรียน เมื่อสัปดาห์ก่อนโรงเรียนหยุดหลายวัน เด็กทั้งสองดีใจกันใหญ่ว่าจะได้นอนดึกได้ จะได้เล่นกันได้สนุก ไม่ต้องไปเรียนหนังสือ

“งั้นป๊าให้ออกจากโรงเรียนมาอยู่บ้านซะเลยจะเอามั้ย” ผมทำท่าจริงจัง

“ไม่ยอมเด็ดขาด” ลูกก็ทำท่าจริงจัง เพราะที่โรงเรียนมีครู มีเพื่อนๆ และมีกิจกรรมหลายอย่างที่เด็กติด

หากลูกไม่ยอมไปโรงเรียนเรื้อรัง โปรดอย่าโทษเด็ก มองตัวเองก่อน แล้วจะแก้ปัญหาได้

ไม่เพียงแต่ลูกแก้วและลูกขวัญเท่านั้นที่ตื่นเต้นเมื่อเข้าโรงเรียนใหม่ คุณแม่ก็ตื่นเต้นและห่วงกังวลถึงลูกไม่น้อยเช่นกัน เมื่อลูกเข้าโรงเรียนในวันแรกๆ คุณแม่ชอบแวะเวียนมาแอบดูลูกอยู่ข้างรั้วโรงเรียนตอนพักเที่ยง เพื่อดูว่าลูกกินอาหารได้หรือไม่ เล่นกับเพื่อนได้ไหม ร้องไห้หรือเปล่า ดูแล้วจะได้สบายใจ กลับไปทำงานได้ อยู่มาวันหนึ่ง คุณแม่แอบอยู่ข้างประตูโรงเรียนน้องขวัญ บังเอิญน้องขวัญเห็น เลยร้องไห้ตามคุณแม่จะกลับบ้าน ห้ามเท่าไรก็ไม่สำเร็จ จนต้องยอมแพ้ลูก ตั้งแต่นั้นมาคุณแม่ก็ไม่กล้าไปแอบดูลูกที่โรงเรียนอีกเลย

ข้อมูลสื่อ

129-021
นิตยสารหมอชาวบ้าน 129
มกราคม 2533
ปัญญา