• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

อุบัติเหตุทางตา

อุบัติเหตุทางตา


ขึ้นชื่อว่า “อุบัติเหตุ” ใคร ๆ ก็ไม่อยากให้เกิดกับตัวเอง หรือลูกหลานญาติพี่น้อง เพราะคำว่า “อุบัติเหตุ” นี่ฟังดูแล้วชวนให้หดหู่ใจ ใจคอไม่ดี ไม่ว่าอุบัติเหตุนั้นจะยังผลให้ร่างกายมีอันเป็นไปถึงขั้นไหนก็ตาม
ระยะนี้กำลังเป็นระยะที่โรงเรียนปิดเทอม นักเรียนไม่ต้องไปโรงเรียน เรียกว่าปิดเทอมใหญ่ได้หยุดเรียนนาน หยุดเพื่อพักร้อนและเตรียมตัวเตรียมใจขึ้นชั้นเรียนใหม่หรือย้ายโรงเรียนใหม่ก็แล้วแต่ตัวใครตัวมัน ช่วงนี้แหละที่มีการพักผ่อนหรือพักร้อนกันไปในตัว บางคนเดินทางไปตากอากาศหรือเยี่ยมเยียนภูมิลำเนาเดิม

การเดินทางไปมากันมากมายในระยะหน้าร้อนนี้ มักมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นเสมอ ตั้งแต่น้อยไปถึงมาก คือถึงขั้นรถคว่ำ รถชนกันโน่นเลย อุบัติเหตุลงได้ถึงขั้นอย่างว่าแล้ว ก็มักจะไม่รอด ถ้ารอดมาได้ก็แทบคางเหลืองละครับ โดยเฉพาะเรื่องตา อาจไม่ต้องพูดกันเลยก็ว่าได้ คือ บางรายถึงกับต้องผ่าตัด ตกแต่งใหม่ หรือควักออกใส่ตาปลอมกันเลยทีเดียว ซึ่งก็มีมาหลายรายแล้ว

ในช่วงปิดภาคฤดูร้อนนี้ เด็ก ๆ มักจะมาโรงพยาบาลกันมากกว่าช่วงอื่น ทั้งนี้เพราะความซนทำให้เกิดอุบัติเหตุต่าง ๆ จากสถิติที่พอจะคำนวณได้คร่าว ๆ ทำให้รู้ว่าระยะปิดเทอมใหญ่ปลายปี มักมีอุบัติเหตุทางตาเกิดขึ้นกับเด็ก ๆ มาก จึงได้เขียนเรื่องนี้ขึ้นเพื่อให้อ่านเป็นความรู้และเป็นข้อเตือนใจพ่อแม่ ผู้ปกครอง (รวมทั้งตัวผู้เขียนเองด้วย) และญาติสนิทมิตรสหายจะได้ช่วยดูแลลูกหลาน หรือคอยเตือนห้ามปราม ให้ระมัดระวังอุบัติเหตุทางตาที่อาจจะเกิดขึ้นด้วย เพราะอุบัติเหตุไม่ว่าจากอะไรก็ตามถ้าเกิดกับตาแล้ว โอกาสจะเยียวยารักษาให้หายเป็นปกตินั้น เป็นเรื่องหนักใจและยากมาก แทบจะเรียกว่า “ขึ้นอยู่กับดวง” เลยทีเดียว บางคนถึงกับต้องเสียตาไปเลยข้างหนึ่งหรืออาจทั้งสองข้างก็มี บางคนโชคดีอุบัติเหตุไม่รุนแรงหรือไม่โดนตาโดยตรง ที่พอรักษาได้ก็เรียกว่า “โชคดี” ไปทางที่ดีควรป้องกันไว้ก่อนให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ดีกว่าการมารักษาทีหลังนะครับ คำขวัญที่ว่า “ป้องกันล่วงหน้า ตาจะไม่บอด” นั้น ถูกต้องตามความเป็นจริงแท้เชียว

ผมจึงขอยกสาเหตุที่พบว่าทำให้เกิดอุบัติเหตุทางตา (ที่เกิดกับใคร ๆ ก็ได้ อย่าว่าแต่เด็ก ๆ เลย) ได้บ่อย ๆ ให้ทราบและจะมีวิธีแก้ไขขั้นต้นอย่างไร ก่อนที่จะส่งผู้ป่วยนั้นไปให้จักษุแพทย์ดูแลในขั้นตอนต่อไป ดังนี้ :-
ก. อุบัติเหตุที่ไม่ถึงกับตาแตก หมายถึง ต้นเหตุที่กระแทกบริเวณตาหรือขอบตา โดยไม่ถึงกับทำให้ลูกตาแตก หากแต่ทำให้เกิดช้ำบริเวณเปลือกตา เยื่อตา เลือดออกใต้เยื่อตา และเลือดออกภายในช่องลูกตาด้านหน้าหรือเลือดออกแทรกซึมเข้าไปด้านหลังลูกตาเข้าไปปะปนกับวุ้นลูกตา (Vitreous hemorrhage) หรือจอรับภาพมีเลือดออก เรื่อยไปจนกระทั่งขั้นจอรับภาพตาหลุดออกจากที่ (Retinal detachment) ตาบอดได้ในที่สุดอย่างฉับพลันทันที ซึ่งถือว่ารุนแรงที่สุด
  
                         
    
สาเหตุต่าง ๆ เท่าที่พบบ่อย ๆ ของหัวข้อนี้ได้แก่
1. โดนต่อย ตบตี หกล้ม หน้ากระแทกพื้น ตกรถ รถชน รถคว่ำ โดนลูกเทนนิส ลูกฟุตบอล ลูกขนไก่ เป็นต้น พวกนี้จะพบว่าบริเวณขอบตาจะบวมช้ำอาจจะช่วยประทังความปวดด้วยการกินยาแก้ปวดทั่ว ๆ ไป ถ้าพอจะลืมตาได้บ้าง ก็ให้ลองทดสอบสายตาดูว่ายังพอจะมองเห็นอะไรได้ชัดดีใกล้เคียงกับตาอีกข้างอยู่หรือเปล่า? ถ้าใกล้เคียงก็นับว่าใช้ได้ ถ้ามืดมัวลงไปมาก กรุณารีบไปหาหมอเถอะครับ อาจเป็นอันใดอันหนึ่งที่กล่าวแล้วข้างต้นก็ได้ซึ่งอันตรายมากครับ

2. ยางหนังสะติ๊กหรือลูกหนังสะติ๊กเด็ก ๆ ชอบเล่นกันมาก ยิงกันไปยิงกันมาหรือตั้งใจจะยิงนก แต่ไพล่ไปโดนพรรคพวกกัน ร้องลั่นบ้านไปเลย พวกนี้อย่าได้รีรอ ต้องรีบพาไปให้แพทย์ตรวจทันที เพราะอันตรายถึงเลือดตกเข้าไปในช่องลูกตาด้านหน้า (Hyphema) บ่อยกว่าอย่างอื่น
นอกจากนั้น อาจพบว่า ลูกโป่งก็ทำให้เกิดได้ เช่น เป่าจนโป่งแล้วแย่งกันไปแย่งกันมาแตกโป้งเข้าตา เกิดเลือดออกในตาได้

3. แสงไฟที่ใช้อีอกเชื่อมเหล็ก ก็เป็นอันตรายได้ คนงานตามโรงงานหรือร้านซ่อมเครื่องยนต์ เครื่องเหล็กนั้น นอกจากจะเสี่ยงต่อเศษเหล็กที่เจียรหรือกลึงเข้าไปในตาแล้ว ยังพบว่าแสงที่เป็นประกายเมื่ออ๊อกเชื่อมบัดกรีเหล็ก ก็ทำให้สายตาเสียได้ ทางที่ถูก ควรจะหาแว่นตากรองแสงหรือโล่ที่มีกระจกกรองแสงบังหน้าและตาไว้ จะช่วยได้มากเพราะอุบัติเหตุจากเศษเหล็กไม่ว่าชิ้นเล็กหรือโต ถ้ากระเด็นเข้าตาแล้วอันตรายมาก
ทางแก้มีทางเดียวคือ ให้รีบไปให้แพทย์จัดการโดยเร็วที่สุด ถ้าการเดินทางไปพบแพทย์ยังไม่สะดวก ให้เอายาป้ายตาอ๊อคคูเลนท์ทีขององค์การเภสัชกรรมป้ายไว้ก่อน แล้วปิดด้วยผ้าก๊อซทั้งสองตา และกินยาแก้ปวดประทังไปก่อน

                            

4.น้ำกรดหรือด่างหรือแก๊สพบได้ในพวกที่ทำงานตามโรงงานอุตสาหกรรมหรือโรงงานเคมี ห้อง
ทดลองต่าง ๆ ที่มีน้ำยาดังกล่าวอยู่ ถ้าน้ำยาที่ว่ากระเด็นเข้าตาให้รีบวิ่งไปที่ก๊อกน้ำทันที ก็ก๊อกน้ำประปาเรานี่แหละครับ แล้วเปิดน้ำก๊อกล้างเข้าไปในลูกตา โดยลืมตาไว้ประมาณ 15 นาที จากนั้นค่อยป้ายตาด้วยยาป้ายตาอ๊อคคูเลนท์ที่ป้องกันการติดเชื้อ ปิดตาด้วยผ้าก๊อซแล้วรีบพาไปหาหมอทันที อย่ารีรอ
ข้อสำคัญต้องรีบวิ่งไปที่ก๊อกน้ำ เปิดน้ำล้างตาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ !!
กรดหรือด่าง ถ้าโดนเข้าจัง ๆ แล้ว รอดจากตาบอดได้ค่อนข้างยาก

ข. อุบัติเหตุถึงกับลูกตาแตก (Penetrating injuries) อันนี้รุนแรงกว่า ข้อ ก. มาก คืออุบัติเหตุที่ทำให้ลูกตาแตกทะลุ หรือแตกละไปเลย พวกนี้ส่วนมากการรักษาแทบจะหมดหวัง เพราะลูกตาแตกน่วมไปหมด ถ้าเป็นเพียงแผลแตกเล็ก ๆ พอเย็บให้ได้ ถ้าแผลยาว อวัยวะภายในลูกตาจะไหลซึมทะลักปลิ้นออกมาด้วยเป็นเรื่องยากมาก มักจบลงด้วยการผ่าตัด ควักลูกตาออก เพื่อกันมิให้เกิดโรคแทรกซ้อนอย่างอื่นตามมา ถือเป็นเรื่องใหญ่โตน่ากลัวและหวาดเสียวแก่พ่อแม่ ญาติพี่น้อง ที่ลูกตัวเองหรือญาติหรือแม่แต่ตัวเอง ต้องถึงกับควักลูกตาตัวเองทิ้งไป บางคนโทษชะตาราศีว่ากันถึงเรื่องบุญทำรมแต่งในชาติปางก่อนไปโน่น ทำให้ชาตินี้เกิดมาต้องถูกควักลูกตา ตาโบ๋ไปข้างหนึ่ง โธ่ !!

อุบัติเหตุในหัวข้อพอยกตัวอย่างให้เป็นข้อพึงระมัดระวังไว้ได้แก่ :-
1. เมื่อโดนมีดปลายแหลมทิ่มตา ไม่ว่าจะเป็นการโดนโดยบังเอิญหรือเจตนาจะทิ่มแทงกันก็ตาม นอกจากมีดแล้วอาจมีอย่างอื่นอีก เช่น ปลายดินสอ ปากกา ตะปู พบบ่อยในเด็กนักเรียน ยื้อแย่งดินสอหรือปากกากัน หรือหยอกล้อกันด้วยปากกา เล่นฟันดาบ ถ้าเป็นผู้ใหญ่มักจะมีเหตุมาจากตอกตะปู แล้วตะปูกระเด็นย้อนเข้าในตา พบกับพวกที่ตอกกำแพงตึก แทนที่ตะปูจะฝังเข้าไปในเนื้อซีเมนต์ กลับกระดอนย้อนกระเด็นเข้าหาตัวเอง

2. เมื่อโดนตบ ต่อยตี รถชน รถคว่ำ ตกรถ ตกเรือน โดนลูกเทนนิส ลูกขนไก่ ลูกธนู ฯลฯ อย่างรุนแรง ทำให้ลูกตาแตกได้ ขอได้โปรดระมัดระวังให้ดี จะตบจะต่อยตีกัน ก็ขอให้หลบหมัดหลบมือไว ๆ หน่อย อย่าให้โดนส่วนนี้เลย ให้โดนส่วนอื่นดีกว่า เรียกว่า หลบลูกตาไว้ให้ปลอดภัยก่อน (พูดง่าย คงทำยาก)

3. เมื่อโดนสะเก็ดระเบิดหรือแรงอัดของปืน ตาอาจแตกได้ จุดดอกไม้ไฟ จุดประทัด จุดแก๊สหุงต้ม มีคนไข้บางคนชอบหาปลาด้วยวิธีลัด เพื่อให้ได้ปลามาก ๆ ด้วยวิธีระเบิดปลา คราวเคราะห์กรรม ยังไม่ทันโยนระเบิดลงน้ำ เพื่อระเบิดให้ปลาตายเลย ดันระเบิดเสียตั้งแต่อยู่ในอุ้งมือ ผลที่สุดทั้งมือทั้งหน้า ตาเละครับ แทนที่จะได้ปลากลับโดนควักลูกตาทิ้ง นี่แหละหนาให้ทุกข์แก่ท่านทุกข์นั้นถึงตัว (เสียก่อน)

4. ของเล่นต่าง ๆ เป็นต้นว่า มีดดาบ ปืนจุกไม้ก๊อก หอก หนังสะติ๊ก ธนู และที่กำลังฮิตอยู่เดี๋ยวนี้คือ ดาบวงพระจันทร์นั่นแหละครับ เด็ก ๆ ชอบนักชอบหนา เล่นกันไปเล่นกันมา เฉียดเข้าไปในตาก็เรื่องร้าย

ทั้งหมดนั่นเป็นตัวอย่างที่พอจะนึกออก ยังมีอย่างอื่นอีกมากมายที่มีอันตรายมาถึงตาได้
จึงมีวิธีเดียวที่ทำได้และง่ายกว่าการรักษาใด ๆ ทั้งหมด คือ พยายามเลี่ยงต่อการกระทำใด ๆ ที่คิดว่าน่าจะมีอุบัติเหตุทางตาได้มากที่สุด กล่าวง่าย ๆ ก็คือ “ป้องกัน” ไว้ดีกว่า “แก้ไข” เพราะถ้าเกิดแล้วรักษายากมาก ถึงรักษาได้ก็น้อยรายเต็มทนที่จะมีสภาพตาเหมือนก่อนเกิดอุบัติเหตุ ถือเป้ฯเรื่องเศร้าไม่น้อยทีเดียว ไม่ว่าจะเกิดกับผู้ใด
แต่อีกนั่นแหละ ขึ้นชื่อว่าอุบัติเหตุแล้ว ย่อมจะเกิดขึ้นเมื่อใด เวลาใด สถานที่ไหน ๆ ได้ทั้งนั้นไม่เลือกอายุ ชั้น วรรณะ ฐานะ ไม่เคยยกเว้นใคร งั้นจะได้ชื่อว่าอุบัติเหตุหรือ ?

ดังนั้นถ้าเกิดกับใครก็คิดเสียเถอะว่าเป็นคราว “เคราะห์” ก็แล้วกันนะครับ

 

 

ข้อมูลสื่อ

24-012
นิตยสารหมอชาวบ้าน 24
เมษายน 2524
โรคตา
นพ.สุรพงษ์ ดวงรัตน์