• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

เมื่อลูกคุณชักแต่แรกเกิดแล้วจะเป็นอย่างไรต่อไป

เด็กที่รอดจากการชัก 131 ราย เกือบครึ่งหนึ่ง (47%) มีปัญหาทางระบบประสาทพิการขนาดปานกลางถึงรุนแรง พูดง่ายๆคือ พิการทางสมองเกือบครึ่งหนึ่ง มีทั้งแขนขาเป็นอัมพาต ลมชัก หูหนวก หรือตาบอดก็มี

ความกังวลใจของพ่อแม่ที่มีลูกเกิดใหม่ภายใน 1 เดือนแรกคือ
มีอาการชักตาค้างขึ้นมา จะด้วยสาเหตุอะไรก็แล้วแต่ คงอยากจะถามคุณหมอว่า “อนาคตลูกดิฉันหรือลูกผม จะเป็นอย่างไรบ้างคะ (ครับ) คุณหมอ”

อาจจะได้คำตอบตรงบ้างไม่ตรงบ้าง หรืออ้อมๆบ้าง
อาการชักบางครั้งดูยากเหมือนกัน

ถ้าเป็นน้อยๆอาจแค่ตาค้างหรือตากลอกไปมาเป็นระยะ
แขนขากระตุก หายใจไม่สม่ำเสมอ อาจหยุดหายใจเป็นพักๆ บางรายหน้าแสยะ ฯลฯ

หากท่านเห็นอาการเหล่านี้ในเด็กเล็ก ให้สงสัยว่าเด็กอาจมีอาการ “ชัก”

สาเหตุมีมากมายในเด็กช่วงเดือนแรก
ที่พบบ่อยได้แก่การคลอดลำบาก เด็กมักตัวเขียวแต่แรกเกิดและสมองขาดออกซิเจน
เด็กคลอดท่าก้น ต้องใช้เครื่องมือช่วย บางรายต้องรีบผ่าท้องเอาเด็กออกอย่างฉุกเฉิน ล้วนแต่อาจทำให้สมองขาดออกซิเจน

สาเหตุรองๆลงมา เช่น ระดับน้ำตาลหรือระดับแคลเซียมในเลือดต่ำ
ที่น่ากลัวกว่าและเป็นอันตรายมากคือ การติดเชื้อในระบบประสาทส่วนกลาง เช่น สมองอักเสบ หรือไขสันหลังอักเสบ

คุณหมอเบิร์กแมน ซึ่งเป็นกุมารแพทย์ที่เชี่ยวชาญทางระบบประสาท จากโรงพยาบาลหญิงแมกจี แห่งเมืองฟีสเบิร์ก พบว่า

ในการศึกษาของเขา เด็กที่รอดจากการชัก 131 ราย เกือบครึ่ง (47%) มีปัญหาทางระบบประสาทพิการขนาดปานกลางถึงรุนแรง เช่น แขนขาเป็นอัมพาต เป็นลมชัก หูหนวก และตาบอดก็มีบ้าง
ดังนั้นถ้าท่านมีเด็กอ่อนที่สงสัยว่ามีอาการชัก

โดยเฉพาะเด็กที่มีปัญหาแรกคลอด ดังกล่าวข้างต้นควรรีบพาไปโรงพยาบาล

แพทย์อาจจะต้องรับเด็กไว้สังเกตอาการ หรือซักประวัติตรวจร่างกายเพิ่มเติม หรือเจาะเลือดตรวจ ตรวจคลื่นสมอง และอย่างอื่นอีกแล้วแต่จะเห็นสมควร
นพ.อำนาจ บาลี


 

ข้อมูลสื่อ

104-004-1
นิตยสารหมอชาวบ้าน 104
ธันวาคม 2530
นพ.อำนาจ บาลี