เกลื้อน กับชาวบ้าน (ตอนสอง)
ถ้าใช้ยาน้ำโซเดียมไธโอซัลเฟต ทาแล้วเกลื้อนไม่หายก็จะต้องพิจารณาดูว่าคนไข้ใช้ยาถูกวิธีหรือเปล่า หากคนไข้ใช้ยาถูกวิธี แต่อาการไม่ดีขึ้นเท่าที่ควรก็จะต้องเปลี่ยนยาบ้าง ทั้งนี้ ไม่ใช่เพราะเชื้อราที่ทำให้เป็นเกลื้อนมีหลายอย่าง เชื้อราที่ทำให้เป็นเกลื้อนมีอยู่อย่างเดียว เหมือนลางเนื้อชอบลางยา โรคเดียวกันบางคนทายาชนิดหนึ่งหายแต่อีกคนอาจจะต้องใช้ยาอีกชนิดหนึ่งก็ได้
ยาขั้นต่อไปที่ควรใช้ คือ ยาของรัฐบาลทำขึ้นโดยองค์การเภสัชกรรมสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด มักจะส่งไปให้ตามสถานีอนามัย หรือสำนักงานผดุงครรภ์ แต่จะสั่งซื้อเอาโดยตรงจากองค์การเภสัชกรรมก็ได้ ยาพวกนี้คือ ขี้ผึ้งรักษากลากเกลื้อน (Whitfield ointment) ขี้ผึ้งซาลิซัยลิคแอซิค (Salicylic Acid ointment) และขี้ผึ้งกำมะถัน (Sulphur ointment) ยาเหล่านี้มีราคาถูก ใช้รักษาเกลื้อนได้ดีเหมือนกัน ไม่มีเงินจะขอฟรีจากหมอก็ยังได้ ที่มาแนะนำเป็นอันดับสองก็เพราะว่ายาเหล่านี้เป็นยาประเภทขี้ผึ้ง ทาตัวแล้วก็จะรู้สึกเหนียวเหนอะหนะนิดหน่อย ยิ่งคนที่เป็นมากเช่นเป็นทั้งแผ่นหลังหรือเป็นทั้งแผ่นหน้าอก ก็อาจจะไม่ชอบ จึงขออธิบายว่า เวลาทายาทาบางๆ ก็พอแต่ทาให้ทั่ว วันละ 2 ครั้ง หลังอาบน้ำ
เชื้อเกลื้อนนั้นอยู่ชั้นบนสุดของผิวหนัง ทายาบางนิดหน่อยก็ถูกเชื้อ การทายาให้มากให้หนาไม่ได้ผลดีอะไร ผิวหนังเรามีลักษณะเหมือนสำลีอยู่อย่างหนึ่ง คือ พอชุ่มน้ำแล้วให้ราดน้ำลงไปอีกเท่าไร ก็ไม่รับเอาไว้อีกจนกว่าจะแห้งเสียก่อน ยาที่ทาผิวหนัง เมื่อซึมเข้าเต็มที่แล้ว ก็จะไม่ซึมเข้าไปอีก ดังนั้น การทายาบ่อยๆ ดีกว่าทาให้มากให้หนา
มีข้อควรระวัง ในการใช้ยาพวกขี้ผึ้งนี้อย่างหนึ่ง คือ หลังทายาแล้ว ควรล้างมือให้สะอาด ยานี้ไม่ได้ทำอันตรายต่อมือหรอก แต่ถ้ามือมียาติดอยู่ ไปถูกเปลือกตาหรือนัยน์ตาเข้าก็อาจทำให้คันเป็นผื่นแดง ตาแดงได้
สำหรับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขการจ่ายยาน้ำ คือ ให้พอใช้ได้ 2 อาทิตย์ พร้อมทั้งคำแนะนำอย่างดี เพื่อคนไข้จะได้กลับมารับยาต่อ การจ่ายยาให้พอสำหรับ 1 เดือน หรือ 1 เดือนครึ่ง ดูจะมากเกินไป ทั้งค่ายาและความรู้สึกของคนไข้ รวมทั้งจะขาดการติดตามผลการรักษาด้วย แต่ถ้าคนไข้อยู่ในที่ที่ห่างไกลความเจริญหรือตอนที่ออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ต่างๆ ตามโครงการของจังหวัด อำเภอ หรือของ ร.พ.ช. นานๆ จะออกมาสักทีก็จ่ายไปเลยให้พอประมาณครึ่งเดือน ยาเหล่านี้ไม่เสียง่ายเก็บไว้ได้นาน ข้อสำคัญที่เคยประสบมา โดยมากคนที่มาตรวจรักษา รับยาไป มีอยู่คนเดียว แต่มีคนเป็นอยู่ที่บ้านอีกด้วย ได้ยาแล้วก็ไปแบ่งกันใช้ ยาไม่พอกับระยะเวลาที่ควรรักษา ในกรณีนี้ คำอธิบายและคำแนะนำต่างๆ มีความจำเป็นและมีคุณค่ามากที่สุด
ได้กล่าวไว้ในตอนต้นว่า ยาขี้ผึ้งของรัฐบาลอาจขอฟรีได้ ถ้าพากันไปขอกันใหญ่ คงสร้างปวดหัวให้กับหมอสาธารณสุข และหมออนามัย จึงขออธิบายเพิ่มเติมเล็กน้อยว่า ยาที่รัฐบาลจ่ายไปตามสถานีอนามัย หรือตามสำนักงานสาธารณสุข บางครั้งก็เป็นหลอด บางครั้งก็เป็นกระปุก คุณหมอทั้งหลายก็จะต้องหาซื้อเอามา สำหรับจ่ายยาเองด้วย ดังนั้น การขอยาฟรี จึงทำได้เมื่อจำเป็น ถ้าอย่างไรช่วยบำรุงสถานีอนามัยคนละเล็กคนละน้อย ก็ยังดี
ได้แนะนำยาที่เตรียมขึ้นเอง ยาที่รัฐบาลผลิตออกจำหน่ายและแจกจ่ายไปแล้ว คราวนี้เห็นจะถึงยาที่ผลิตจากบริษัทต่างประเทศ คุณภาพดี ราคาแพงมาก จึงควรใช้เมื่อเป็นเกลื้อนไม่มากนัก หรือเมื่อใช้ยาอื่นแล้วไม่หาย ยาเหล่านี้มีจำหน่ายในโรงพยาบาล ร้านขายยา ที่ตัวเมือง อำเภอ หรือตามตำบลใหญ่ๆ ทั่วไป มีทั้งยาครีมและยาน้ำ สำหรับยาครีมมีหลายชนิด วิธีการใช้และระยะเวลาของการรักษาก็เหมือนที่กล่าวมาแล้ว ยาเหล่านี้ทำขายเป็นหลอด ชื่อตัวยาซึ่งเป็นสารเคมี มักจะเรียกยาก ถ้าไปถามซื้อตามร้านขายยา จะต้องบอกเป็นชื่อการค้า เช่น แด๊กตาริน และ อีฃอนที เป็นต้น ต้องขอเพิ่มเติมด้วยว่า ยาเหล่านี้ กองอาหารและยาจัดอยู่ประเภทยาอันตราย และตามกฎกระทรวงสาธารณสุข การจะซื้อขายได้ จะต้องมีใบสั่งแพทย์ก่อนด้วย
สำหรับยาน้ำที่บริษัทต่างประเทศทำขายในเมืองไทย และใช้รักษาเกลื้อนได้ดี เป็นยาที่ทำออกมาในรูปแชมพูสระผม ตัวยาชื่อ ซินิเนียนซัลไฟด์ ชื่อ เซลซัล เนื่องจากทำออกมาจำหน่ายในรูปยาสระผม จึงมักจะมีขายตามร้านทั่วๆ ไป เป็นน้ำขุ่นข้น สีเหลืองเข้ม และ ระคายผิวได้ วิธีการใช้จึงแตกต่างจากยาทาเกลื้อนชนิดอื่นเล็กน้อย แต่ระยะเวลาที่จะต้องใช้ยาก็พอกัน คือ ก่อนไข้ ให้อาบน้ำถูสบู่ให้สะอาด เช็ดตัวให้แห้งแล้วเขย่าขวดเซลซันให้ยาเข้ากัน จึงเอาสำลีชุบยาทาที่เป็นเกลื้อนทิ้งไว้ 15 นาที แล้วอาบน้ำใหม่ล้างยาออกให้หมด ทำเช่นนี้วันละครั้ง ประมาณ 6 อาทิตย์เกลื้อนจะหายไป แต่หากน้ำแถวบ้านมีน้อย อาบ 2 ครั้งไม่ได้ให้ทายานี้ก่อนอาบน้ำ ทิ้งไว้ 30 นาทีแล้วจึงล้างออกให้สะอาดหมดจด
หลังจากอาบน้ำล้างยาเซลซันออกแล้ว หากมีน้ำยาโซเดียมไธไอซัลเฟตอยู่ จะเอาทาทับลงไปก็ได้ วิธีนี้มักใช้เมื่อทาเซลซันอย่างเดียว หรือทายาน้ำโซเดียมไธโอซัลเฟตอย่างเดียวแล้วเกลื้อนไม่หาย ดังได้กล่าวแล้วว่า เซลซันระคายเคืองผิวได้ จึงได้แนะนำให้ทายาไว้เพียง 15 นาที หรือ 30 นาทีถึงกระนั้นก็อาจมีคนแพ้ยาได้ คนที่แพ้ซิลิเนียมซัลไฟด์จะมีอาการแดง คัน บวม หรือมีลักษณะไฟไหม้ น้ำร้อนลวก อย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ หากมีลักษณะเช่นนี้ก็ให้เลิกใช้ได้เลยหันไปใช้ยาอย่างอื่นได้
ถึงแม้จะไม่มีอาการแพ้แต่พอทายานี้แล้วก็ต้องล้างมือให้สะอาดทันที อย่าให้ไปถูกผิวหนังอ่อน เช่น ที่ตา ปาก หรืออวัยวะสืบพันธุ์ เพราะจะเกิดบวมแดงขึ้นได้ อาจจะมีบางคนสงสัยว่า เกลื้อนนี้รักษาทีเดียววันเดียวไม่ได้หรือทำไมนานหนักหนา เดี๋ยวนี้โรคผู้หญิงเขายังฉีดเข็มเดียวได้ ต้องขอบอกเลยว่าวิธีรักษาเกลื้อนวันเดียวก็มีเหมือนกันแต่ยังเป็นขั้นทดลอง วิธีนี้คือ อาบน้ำให้สะอาด แล้วใช้เซลซันทาที่ที่เป็นเกลื้อนทั้งหมด ทิ้งไว้เลยทั้งคืน ถ้าจะให้ดี เข้าขึ้นไม่ต้องอาบน้ำล้างแต่หน้าหรือทิ้งไว้อีก 1 วันเย็นวันต่อมาค่อยอาบน้ำ วิธีนี้ก็จะหายได้และอีก 1 เดือนค่อยทำซ้ำใหม่ ที่เป็นปัญหาและไม่ได้แนะนำวิธีนี้ไว้ตั้งแต่ต้น เพราะหากเกิดแพ้ยาขึ้น ก็จะแดงไปทั้งตัวคนที่ไม่แพ้จะลองวิธีนี้ดูก็ได้
สำหรับยากินที่ใช้ฆ่าเชื้อรา ขณะนี้มีจำหน่ายอยู่อย่างหนึ่ง ชื่อ กริสซิโอฟูลวิน ยานี้ใช้รักษาเชื้อราชนิดอื่นๆ เช่น กลากวงเดือน ฮ่องกงฟุต เป็นต้น ใช้กินรักษาเกลื้อนไม่ได้ผล ไม่ต้องซื้อมากินให้เสียเงินและเวลา และยังไม่พบว่า มียากินชนิดใดใช้แก้เกลื้อนได้
ถ้ารักษาทายาอย่างไร แล้วเกลื้อนก็ไม่หายก็มีปัญหาที่ต้องคิดอยู่ 2 อย่าง คือ ข้อหนึ่งคนไข้เป็นโรคอื่นไม่ใช่เกลื้อน แต่มีลักษณะเหมือนเกลื้อน เช่น กลากน้ำนม และด่างขาว เป็นต้น ซึ่งจะต้องรักษาด้วยยาอื่น สำหรับข้อที่สอง คนใช้อาจมีภาวะในร่างกายที่ส่งเสริมการเป็นเกลื้อน และทำให้เกลื้อนหายยากภาวะเหล่านี้ได้แก่ การมีเหงื่อออกมากผิดปกติ สุขภาพไม่ดี เป็นโรคโลหิตจาง ภาวะขาดอาหาร เป็นโรคเรื้อรัง เช่น วัณโรคปอด ระยะตั้งท้องหรือคนที่กินยาประเภทสเตอรอยด์ (เช่น เพร็ดนิโซโลน เด๊กซ่าเมธาโซนที่ใช้รักษาโรคหิด โรคแพ้ โรคปอดข้อ) อยู่ ซึ่งหากเป็นเช่นนี้ก็ต้องรักษาอาการที่ผิดปกตินี้ด้วย จึงจะรักษาเกลื้อนได้ผลดี
- อ่าน 13,893 ครั้ง
- พิมพ์หน้านี้