• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

การแต่งกายเมื่อไปหาหมอ

การแต่งกายเมื่อไปหาหมอ

คุณเป็นคนหนึ่งใช่ไหมครับ ที่เคยถูกหมอสั่งว่า

“ปลดกระดุมเสื้อนิดนะครับ”

“ขยับเข็มขัดออกหน่อยค่ะ”

“เลิกชายเสื้อขึ้นด้วยซิคะ”

“ปลดขอเสื้อในออกด้วยครับ”

ฯลฯ

จนทำให้คุณมีความรู้สึกว่า หมอคนนี้นี่ยุ่งจริงๆ ไปตรวจกับหมอคนอื่นไม่เห็นเขาตรวจมากมายอย่างนี้เลย หรือไม่เช่นนั้น คุณก็ลุกลี้ลุกลน รีบถอดรีบแก้ ตามที่หมอสั่งอย่างเงอะงะ งุ่มง่าม จนคุณรู้สึกรำคาญตัวเอง รำคาญเสื้อผ้าที่คุณสวมใส่ และแถมยังรู้สึกว่า ตัวเองเด๋อด๋าอย่าบอกใครเลย

กว่าหมอจะตรวจเสร็จครบถ้วน ขบวนความคุณก็เหงื่อตก ชุดเก่งที่คุณบรรจงสวมใส่มาจากบ้านก็ยับไม่เป็นรูป ต้องเสียเวลาจัดแต่งอีกนานโข ซ้ำร้ายพอแต่งเสร็จ เดินออกจากห้องตรวจก็ยังมีความรู้สึกอุปาทานว่า แต่งกายยังไม่เรียบร้อย คนไข้คนอื่นๆ ที่นั่งคอยอยู่หน้าห้องตรวจโรค พากันจ้องมองมาที่คุณเป็นจุดเดียว จนชักจะเขิน ก็เลยพาลโมโหหมอซะเลย ตรวจมากนักหมอคนนี้

ในขณะเดียวกัน หมอคนที่ตรวจคุณก็กำลังหงุดหงิด ชักช้าจริง คนไข้ยังรออยู่อีกตั้งเยอะ ไม่รู้จะแต่งาทำไม รุงรังยังกับจะไปแสดงแฟชั่นอย่างนั้นแหละ กว่าจะตรวจได้เสียเวลา

นี่ก็เขียนช่องระหว่างคนไข้กับหมอ อีกแบบหนึ่งทั้งๆ ที่เป็นเรื่องเล็กนิดเดียว

ทำไมเกิดช่องว่างแบบนี้ขึ้นได้อะไรคือสาเหตุ

เป็นธรรมดาสำหรับมนุษย์ ที่จะต้องรักสวยรักงาม ไม่ว่าหญิงหรือชาย การเจ็บป่วยแม้จะเป็นสิ่งที่ทำ ความลำบากก็จริงอยู่ แต่ถ้าเป็นการเจ็บป่วยที่ไม่รุนแรงจนเกินไปนัก ความรู้สึกสวยงามนี้ก็ยังมีอิทธิพลอยู่ จะไปพบหมอทั้งที ต้องแต่งตัวดีๆ หน่อย เอาให้ดีกว่าทุกวันที่เคยแต่ง

ผล ชุดเก่งของคุณยับยู่ยี่ดูไม่ได้

การแต่งกายชุดที่จะให้หมอทำการตรวจได้สะดวกที่สุดนั้น เกือบทุกคนคงเห็นมาแล้ว คือชุดของคนไข้ในโรงพยาบาล นั่นแหละครับ ชุดนั้นไม่ได้ออกแบบให้ราคาถูกเพียงอย่างเดียว หากแต่คิดถึงความสะดวกและความเหมาะสมในการใช้งานด้วย ส่วนความสวยงาม ไม่ได้คิดถึงครับ

ดังนั้น จึงไม่มีใครออมแต่งตัวด้วยชุดนั้น ออกจากบ้านไปตามถนน เพื่อไปหาหมอ ที่โรงพยาบาลหรือที่คลีนิคเป็นแน่ ก็คงจะต้องทราบถึง รายละเอียดแต่งอย่างไรจึงจะเหมาะจะควรแก่การไปให้หมอตรวจ

เริ่มที่เสื้อก่อน เสื้อที่เหมาะสม คือ เสื้อที่เปิดผ่ากลางหน้าอก สามารถเปิดทรวงอกและหน้าท้องให้ตรวจได้ง่าย เสื้อยืดก็ใช้ได้ เพราะสามารถเลิกชายเสื้อขึ้นได้สะดวก ทั้งนี้เป็นเพราะ หมอจำเป็นต้องตรวจดูสภาพการทำงานและปอดขอคนไข้ทุกราย รวมไปถึงการคลำตับและม้ามที่อยู่ในช่องท้องด้วย นับเป็นการตรวจขั้นพื้นฐานที่จำเป็นต่อคนไข้ทุกคน แม้ว่าคนไข้นั้นจะเป็นเพียงแค่โรคหวัดธรรมดาก็ตามที

การตรวจนั้น จะต้องใช้เครื่องฟัง วางลงไปบนหน้าอกเพื่อฟังเสียงการทำงานของหัวใจ และปอดซึ่งจะมีเสียงดังพอให้ตรวจได้ ถ้าไม่เปิดเสื้อ ออกแล้ว จิ้มหูฟังไว้ นอกเสื้อเสียงจะเบาลงมาก จนตรวจไม่รู้เรื่องและยังจะมีเสียงหูฟังเสียดสีกับผ้ามา รบกวนอีกด้วยหมอจึงต้องเอาหูฟังวางบนผิวหนังหน้าอกของคุณ

ถ้าคุณพบหมอคนไหน ตรวจคุณโดยการเอาเครื่องฟังจิ้มไว้นอกเสื้อแล้วละก็ จงรู้ไว้เถอะว่าหมอคนนั้นเบี้ยวคุณเข้าแล้ว เขาไม่ได้ตรวจคุณจริงๆ หรอก แต่เขาแกล้งทำเป็นตรวจหลอกคุณเท่านั้นเอง

(แต่ทั้งนี้ก็ต้องดูว่า หมอคนนั้นเป็นหมอที่มีความชำนาญ และได้ให้ความดูแลเอาใจใส่ในอาการของคุณมากน้อยเพียงไรประกอบด้วย

เพราะบางครั้ง หมอที่มีความชำนาญจริงๆ ก็อาจใช้เครื่องฟังฟังที่นอกเสื้อก็ได้ โดยเฉพาะถ้าต้องการฟังแต่เสียงปกติหรือเสียงที่ผิดปกติชัดเจน ในบางกรณีเช่นในผู้หญิงที่มีความลำบากในการถอดเสื้อออก หรือในขณะที่ หมอมีเวลาจำกัด)

ดังนั้น ถ้าคุณสวมเสื้อชนิดติดกระดุมหรือซิปอยู่ด้านหลังไปให้หมอตรวจ ลองวาดภาพเอาเองก็แล้วกันว่าจะทุลักทุเลแค่ไหน แม้ว่าคอเสื้อของคุณจะค่อนข้างหลวมพอที่จะเอาเครื่องฟังสอดเข้าไปได้ก็ตามที แต่คุณคงเห็นด้วยว่า การกระทำเช่นนั้น มันจั๊กจี้ชอบกลอยู่ เสื้อคอปิดจึงทำความลำบากให้มาก คุณผู้ชาย ที่นิยมผูกเน็คไท คงจะรำคาญพิลึกทีเดียว ในการที่จะถอดเข้าถอดออก ประเภทเสื้อกระโปรงติดเป็นท่อนเดียวกัน จะสร้างความลำบากเมื่อจะตรวจบริเวณ หน้าท้อง ยิ่งประเภท ชุดหมีที่มีซิปด้านหลังด้วยละก็ ขออย่าได้นุ่งไปเชียวละครับ

แขนเสื้อก็มีความสำคัญเหมือนกัน สำหรับผู้ชายคงไม่มีปัญหาอะไรแต่สำหรับผู้หญิง เสื้อแฟชั่นบางชนิดเล่นลวดลายอยู่ที่แขนเสื้อประเภทแขนยาว 3 ส่วน 4 ส่วนอะไรทำนองนั้นและปลายแขนเสื้อก็ทรงกระบอกมีขนาดเล็กจนไม่สามารถเลิกหรือพับให้ข้อศอกขึ้นไปได้ พวกนี้ไม่สามารถวัดความดันได้ นอกจากถอดเสื้อออก เพราะเวลาวัดความดัน หมอจะต้องเอาเครื่องฟังวางบนแขนบริเวณข้อศอก ซึ่งเป็นตำแหน่งของเส้นเลือดใหญ่ ดังนั้นแขนเสื้อของคุณจะยาวก็ได้ แต่ขอให้สามารถ พับเลยข้อศอกขึ้นไปได้ก็แล้วกัน

ปัญหาอีกอย่างหนึ่งสำหรับคุณสุภาพสตรี คือ ชุดชั้นใน คุณคงจะไม่ยอมไปหาหมอโดยไม่สวมชุดชั้นในไปแน่ๆ คนไข้คนอื่นๆ คงจะมีความสุขในการจ้องมองคุณ จนคุณไม่เป็นสุขด้วย ชุดชั้นในธรรมดาประเภทยกทรง ไม่สร้างปัญหาอะไรในการตรวจแต่ชุดชั้นในชนิดที่เรียกว่า สลิป ที่มีเสื้อท่อนบนต่อยาวลงไปเป็นซับใน กระโปรงนั้นเวลาหมอตรวจ จะสร้างความลำบากให้ แก่คุณผู้เป็นเจ้าของสลิป มากที่เดียว

ถัดจากเสื้อลงมาถึงกระโปรงหรือกางเกง สำหรับสตรีที่ต้องการตรวจทางนรีเวช หรือเรียกให้เข้าใจง่ายๆว่าตรวจเกี่ยวกับอวัยวะเพศ ขอแนะนำว่านุ่งกระโปรงจะสะดวกกว่านุ่งกางเกง เพราะจะได้ไม่ต้องมีภาระที่จะต้องถอดกางเกงออกก่อนที่จะขึ้นตรวจได้ ส่วนปัญหาอื่นๆ ไม่ใคร่มียกเว้นแต่ว่า คุณจะนุ่งกางเกงประเภทขาลีบ ฟิตเปรี๊ยะไปเท่านั้น เพราะถ้าจำเป็นต้องตรวจบริเวณขาคุณจะต้องถอดกางเกงของคุณออกและนั้นคืองานใหญ่สำหรับคุณ

ต่ำลงมาจากกางเกงก็เป็น รองเท้าและถุงเท้า ถ้าคุณไม่สวมพวกที่ถอดยาก ใส่ยาก เช่นรองเท้าบู๊ทหรืถุงเท้าประเภทสต๊อคกิ้ง ในกรณีที่คุณมีโรคที่เกี่ยวกับส่วนเท้า และขาแล้ว ก็จะไม่มีปัญหา เครื่องแต่งกายอื่นๆ เช่น หมวก แว่นตา ไม่เป็นอุปสรรคต่อการตรวจ เพราะสามารถถอดออกได้ง่ายแต่ต้องคอยระมัดระวังเมื่อถอด ออกเพราะอาจตกหล่นเสียหายได้ง่ายๆ

เครื่องประดับเป็นเรื่องใหญ่อีกเรื่องหนึ่ง เพราะเกิดปัญหาการสูญหายได้บ่อยๆ ทั้งๆ ที่ไม่เกี่ยวกับการตรวจโรคโดยตรง แต่บางคนก็จำเป็นต้องถอดออก เช่น ต้องถอดสร้อยคอออกเมื่อจะเอ๊กซเรย์ทรวงอก เป็นต้น แล้วเกิดการสูญหายขึ้น ซึ่งทางโรงพยาบาลไม่สามารถรับผิดชอบ หรือชดใช้ให้คุณได้ โรงพยาบาลทุกแห่งจะมีป้ายประกาศไว้เลยว่า ไม่รับผิดชอบของมีค่าของคุณ อีกทั้งโรงพยาบาลก็ไม่ใช่ สถานที่ สำหรับโชว์เครื่องเพชรพลอย และเครื่องประดับอื่นๆ สำหรับพวกตู้ทองหรือตู้เพชรเคลื่อนที่เสียด้วยสิครับ เพราะฉะนั้นไม่ใส่ไปแหละดี แต่ถ้าใส่ไปแล้วก็ระวังเอาเองก็แล้วกันนะครับ

การตรวจร่างกายของหมอนั้นถือหลักง่ายๆ ว่า “เปลือยแต่ไม่โป๊” นั้นหมายความว่าเมื่อจะตรวจอวัยวะใด ก็ต้องเปลือยอวัยวะเฉพาะส่วนนั้น ในขณะที่อวัยวะส่วนอื่นจะต้องปกปิด เช่น จะตรวจเข่าก็ต้องเปลือยเข่า แต่ปิดหน้าท้อง ปิดต้นขา ถ้าจะตรวจทรวงอก ก็ปิดหน้าท้อง ถ้าจะตรวจหน้าท้อง ก็ปิดส่วนอก เปิดเฉพาะหน้าท้อง ซึ่งกินบริเวณตั้งแต่กระดูกอก หรือบริเวณลิ้นปี่ เรื่อยลงมาจนถึงกระดูกหัวเหน่า ดังนั้น ในการตรวจหน้าท้อง จึงต้องเลิกเสื้อขึ้นจนถึงลิ้นปี่ ปลดกางเกงลงจนถึงกระดูกหัวเหน่า เหล่านี้เป็นต้น

การตรวจอวัยวะเพศ หรืออวัยวะที่ปกปิดห่วงห้ามอื่นๆ ก็ถือหลักเดียวกันว่า เปลือยแต่ไม่โป๊ โดยปกติห้องตรวจโรคทั่วไป จะเป็นสถานที่ที่ค่อนข้างมิดชิด ถือเป็นที่ลับตาพอที่จะให้คนไข้เปลือย บางส่วนให้หมอ ตรวจได้ โดยไม่กระดากอาย แต่ถ้าเป็นการตรวจอวัยวะเพศ หมอจะให้ห้องตรวจที่มิดชิดรโหฐานยิ่งขึ้น และภายในห้องตรวจนี้ นอกจากคนไข้และหมอแล้ว ก็จะต้องบุคคลที่สาม ซึ่งมักจะเป็นพยาบาลร่วมอยู่ด้วยโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีคนไข้สาว หมอหนุ่ม

ทั้งนี้นอกจากจะได้คอยช่วยเหลือหยิบส่งเครื่องมือในการตรวจ และเป็นพยานในกรณีคนไข้เอะอะโวยวาย หาว่าหมอพยายามจะล่วงเกิน อย่างที่บางคนทราบอยู่แล้ว ยังเป็นการป้องกันมิให้หมอทำอะไร ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการตรวจเป็นการล่วงเกินจริงๆ ด้วย เรียกได้ว่า เพื่อความปลอดภัยและเพื่อความสบายใจพร้อมทั้งสองฝ่าย

เพราะฉะนั้น เมื่อคุณไปหาหมอ ให้หมอตรวจโรค จึงสบายใจได้นะครับ

ข้อมูลสื่อ

3-017
นิตยสารหมอชาวบ้าน 3
กรกฎาคม 2522
พูดคนละภาษา
รจน์ วิพากษ์