จ้าวโรค 3 อสูรย์ยอดรัก
เพื่อนๆ ผมผู้ดำรงตำแหน่งจ้าวโรคได้พากันมาคุยกับคุณๆ ไปแล้วถึง 2 ครั้ง ผมในฐานะจ้าวโรคเหมือนกันก็อยากคุยบ้างแต่.. กลัวคุณๆ จะร้องว่า กูละเบื่อ ผมก็เลยต้องพาจ้าวโรคอื่นๆ มาเสนอตัวพร้อมกันเป็นแถวเลย แต่ถึงอย่างไรผมก็ขอเป็นคนเล่าล่ะ ใครจะทำไม
คุณเห็นแล้วใช่ไหมว่าหัวข้อวันนี้ออกจะสวิงสวายพอควร เดาะชื่อว่า อสูรย์ยอดรัก ก็ผมน่ะยอดรักจริงๆ นี่ครับ ไม่อย่างนั้นคุณผู้ชายคงไม่พยายามมาพบผมกันมากมายอย่างนี้หรอก
ผมมีนายที่แสนสวย รวยเสน่ห์ แค่สบตาก็ตกตะลึง เธอมีนามกรอันเพราะพริ้งว่า หยาดฟ้ามาดิน ชื่อดั้งเดิมของเธอคือ บัวผัน ซึ่งเธอไม่เคยบอกใครเลย แฟนของเธอมากครับจนแทบรับไม่ไหว อายุก็เพิ่ง 18 ปี คุณคงสงสัยแล้วซิว่าผมเกี่ยวอะไรกับคุณหยาดฟ้ามาดิน เกี่ยวซิครับ ก็ผมอยู่ในช่องคลอดของเธอนี่ครับ
ผมนั้นดังใหญ่ โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับจ้าวโรคตัวก่อนๆ (หมอชาวบ้าน เล่ม 1 และ 2) เพราะผมโตเป็น 5 เท่าของจ้าวไข้รากสาด เรียกได้ว่า เท่าเม็ดเลือดขาว (15 ไมครอน หรือ 0.015 มิลลิเมตร) ผมมีหนวด 4 เส้น มีหาง 1 เส้น และมีครีบเหมือนปลา 1 อัน (ดูรูปผมซิครับ) ทำให้ผมว่ายน้ำได้เร็วมากที่ที่ผมอาศัยอยู่ก็มีน้ำหล่อลื่นมากพอที่จะให้ผมว่ายเล่นเย็นๆ ใจ ผมไม่ได้อยู่เฉยๆ นะครับ ผมทำให้คุณหยาดฟ้ามาดินนายของผมเกิดโรคช่องคลอดอักเสบ เธอมีอาการแสบคัน และเจ็บบริเวณช่องคลอด และมีน้ำหล่อลื่นหรือที่เรียกว่าตกขาวมากขึ้นจนไหลนองออกมาเปื้อนกางเกงในของเธอแถมยังมีกลิ่นเหม็นด้วย เธอคิดเอาเองว่าเธอคงจะเป็นโรคหนองใน จึงไปซื้อยามากิน แต่ก็ไม่หายสักที พวกผมก็เพิ่มจำนวนขั้นเรื่อยๆ
คุณหยาดฟ้ามาดิน เธอคงไม่ชอบผมแน่ๆ เลย เธอจึงพยายามหาทางกำจัดผมเสมอ แต่หนุ่มๆ แฟนเธอซิครับชอบผมจัง ชอบมาพาผมไปกับเขา แล้วเอาไปฝากคุณผู้หญิงที่บ้าน ที่เขาชอบเรียกกันว่า ยายแก่บ้าง พะโล้บ้าง คุณผู้หญิงที่บ้านเธอไม่รู้อิโหน่อิเหน่พลอยฟ้าพลอยฝนรับกรรม เอ๊ย.... รับเอาพวกผมไป คุณเธอก็เลยเกิดอาการอักเสบของช่องคลอดไปตามๆ กัน ที่จริงผมสงสารเธอเหลือเกิน ไม่ใช่ความผิดของเธอสักหน่อย ฟ้าดินไม่ค่อยยุติธรรมเลย ผมเองซิกลับทำอะไรคุณผู้ชายเหล่านั้นไม่ได้ทั้งๆ ผมอยากทำร้ายมากกว่าคุณผู้หญิงหลายเท่า แต่ไม่เป็นไรครับ ผมไม่ใช่อสูรย์ยอดรักตัวสำคัญนักหรอก ยังมีเพื่อนอสูรย์ที่น่ารักกว่าผมอีกมาก ผมขอเริ่มแนะนำนะครับ
ผมเองเป็น พยาธิโปรโตซัว (หรือสัตว์เซลล์เดียว) มีนามเป็นภาษาฝรั่งว่า ทริโคโมแนส วาไจนาลีส (Trichomonas Vaginalis) ผมมีความสามารถทำให้เกิดการอักเสบของช่องคลอด ถ้ามีผมแล้วคุณจะรู้สึก ผมไม่ทำให้เกิดโรคในผู้ชาย แต่ผมจะใช้คุณผู้ชายเป็นทางผ่านไปหาคุณผู้หญิงคนใหม่
เพื่อนของผมอีกตัวหนึ่งมีชื่อก้องโลก ผมอยากเรียกเธอว่า “หล่อน” เป็นการให้เกียรติ เพราะหล่อนมีประสิทธิภาพมากกว่าผม ใครได้หล่อนไปเป็นต้องเดือดร้อนแน่ๆ หล่อนชื่อ เชื้อหนองในครับ ภาษาอังกฤษเรียกว่า Neisserla gonorrhea หรือเรียกสั้นๆ ว่า โกโนเรีย ตัวหล่อนกลมจับอยู่เป็นแบคทีเรียคู่ๆ เป็นติดสีแดง หรือที่เรียกว่าติดสี กรัมลบ (หมอชาวบ้าน เล่ม 1 และ 2) มีอิทธิพลทำให้เกิดโรคหนองในต่ออวัยวะเพศ ทั้งผู้ชายและผู้หญิง นอกนั้นยังทำให้เกิดการอักเสบของลูกตา และไขข้ออีกด้วย คุณผู้ชายคนไหนไปมีความสัมพันธ์กับคุณหยาดฟ้ามาดิน หรือเพื่อนๆ ของเธอละก็อีกไม่นานเกินรอไม่เกิน 5 วันมักจะได้เรื่องมีอาการขัดเจ็บและแสบ มีหนองไหลออกมาจากอวัยวะเพศ
คุณที่ไม่เคยเป็นมาก่อนมักตกใจรีบซื้อยา หรือไปหาหมอ ถ้าได้ยาถูกต้องทั้งจำนวนยาและระยะเวลาที่รักษาหล่อน(หนองใน)มักจะหมดฤทธิ์ แต่ถ้ากินยาหรือฉีดยาไม่ได้ขนาด หล่อนก็จะหลบเข้าไปอยู่ในต่อมลูกหมาก และท่อทางเดินปัสสาวะ และหล่อนก็ถูกแพร่เชื้อต่อไปให้คุณผู้หญิงที่บ้าน คุณผู้หญิงก็จะมีอาการคล้ายคลึงกัน บางคนก็มีอาการน้อย ทำให้ได้รับการรักษาที่ไม่ถูกต้อง อันตรายจึงมากกว่า เพราะหล่อนสามารถหลบเข้าไปอยู่ในช่องคลอดปากมดลูก มดลูกและปีกมดลูกได้ ผลตามมาทำให้เกิดการอักเสบเรื้อรัง ทำให้ปีกมดลูกตีบตัน อาจเกิดการเป็นหมันหรือท้องนอกมดลูกได้
ข้อสำคัญหล่อนจะคงอยู่และติดกันไปติดกันมา ผัวก็จะโทษเมีย เมียก็จะโทษผัว จนถึงกับบ้านแตกก็ได้นะครับ เห็นฤทธิ์ของเจ้าหล่อนหรือยัง
นอกจากเชื้อหนองในแล้วผมก็ยังมีเพื่อนกลุ่มแบคทีเรียอีกตัวหนึ่งเรียกกันว่า เชื้อแผลริมอ่อน กรรมวิธีการติดเชื้อก็เหมือนกับหนองในแหละครับ เพียงแต่อาการต่างกันออกไป ระยะที่ทำให้เกิดโรคก็สั้นๆ คล้ายหนองใน คือ 3-7 วัน คุณที่ได้รับเชื้อแผลริมอ่อนเข้าไปจะเริ่มมีแผลบริเวณอวัยวะเพศ แผลจะเจ็บมากและมักจะมีหลายๆ แผล ตรงกลางแผลจะมีเนื้อเยื่อที่ตายและหนองปนกันอยู่ เวลาคุณเผลอไป เกาจะมีเลือดออกง่าย ต่อมาไข่ดันจะบวมแดงใหญ่ขึ้นและเจ็บจนคุณเดินไม่สะดวก มีลักษณะเป็นฝี ที่เรียกกันว่า ฝีมะม่วง ต่อไปก็แตกเป็นแผลและมีหนองไหล เชื้อแผลริมอ่อนนี้เป็นแบคทีเรียชนิดแท่งสีแดง (กรัมลบ) ชอบอยู่เป็นกลุ่มๆ มองดูในกล้องจุลทรรศน์เหมือนฝูงปลา โรคนี้บางครั้งจะเป็นร่วมกับโรคสำคัญอีก 2 โรค คือ โรคซิฟิลิส (Syphilis) และกามโรคจาก แคลมมีเดียว (Chlamydia)
ไหนๆ กล่าวถึงคุณซิฟิลิสแล้วขอเล่าต่อเลยนะครับ เดิมทีคุณซิฟิลิสเป็นกามโรคที่ร้ายแรงมาก ต่อมาเมื่อมีการค้นพบยาฆ่าเชื้อ เชื้อเหล่านี้ก็ลดน้อยลงไปมาก แต่จ้าวโรคก็ต้องอยู่คู่โลก คุณเชื้อซิฟิลิสยังมีอยู่ครับ การติดต่อก็เหมือนกามโรคทั่วไปนั่นเอง แต่มีระยะฟักตัวนานประมาณ 1 เดือน การเกิดโรคครั้งแรกหรือเรียกว่า “ระยะที่หนึ่งจะเกิดแผลริมแข็ง” ขึ้นบริเวณอวัยวะเพศมักจะเป็นเพียงแผลเดียว และจะไม่เจ็บปวด ขอบของแผลจะยกขึ้นและแข็ง ผู้ป่วยจะไม่สนใจ เพราะไม่เจ็บ แผลนี้จะหายเองภายใน 3-6 สัปดาห์ แต่โรคนี้ไม่หาย วันดีคืนดีก็จะปรากฏอาการใหม่เรียกว่า ระยะที่สองที่เรียกว่า ออกดอกเข้าข้อ ตามผิวหนังจะมีผื่นแดงๆ และผู้ป่วยจะปวดข้อ ระยะนี้ถ้าไม่รักษาก็อาจจะหายไปได้เช่นกัน แต่คุณซิฟิลิสยังอยู่ นานวันต่อมาเป็นแรมปีคุณก็จะเกิดอาการ ระยะที่สาม หรือ ระยะสุดท้ายของซิฟิลิส คุณซิฟิลิสจะกินเข้าไปใน ระบบประสาททำให้คุณเกิดโรคบ้า หรือ พิการทางร่างกายขึ้นได้ นอกจากนั้นก็ยังกินเข้าไปในระบบการไหลเวียนของเลือด คุณก็เป็นโรคหัวใจ หรือ เส้นเลือดโป่งพอง ทรมานไปตลอดชีวิต คุณซิฟิลิสเป็นแบคทีเรียรูปเกลียวย้อมสีกรัมไม่ติด ต้องใช้วิธีจัดกล้องจุลทรรศน์พิเศษ (Dark field) จึงมองเห็นตัวได้
ถึงตอนนี้คุณคงร้องว่าเบื่อๆๆ แล้วละครับ เพราะผมเองก็ชักจะเบื่อเหมือนกัน ถึงคราวหน้าผมให้เพื่อนผมเล่าต่อดีกว่า กามโรคมันยังมีอีกมากครับ ถ้าคุณไม่อยากเป็นละก็
อย่าส่ำส่อนซิครับ
ภาคพิเศษ
สิ่งมีชีวิตเล็กๆ ที่ทำให้เกิดโรคในคนมีหลายชนิดเรียงตั้งแต่เล็กที่สุดไปหาใหญ่ ดังนี้
1. ไวรัส (Virus) เป็นสิ่งมีชีวิตที่เล็กที่สุด มองด้วยกล้องจุลทรรศน์ธรรมดาไม่เห็นต้องใช้กล้องจุลทรรศน์พิเศษที่เรียกว่า กล้องจุลทรรศน์อิเล็คตรอน (Electron microscope) เชื้อพวกนี้ทำให้เกิดโรคได้หลายชนิด เช่น ไข้หวัดใหญ่ ไข้เลือดออก โปลิโอ ตับอักเสบ ยาที่ใช้ฆ่าเชื้อเพื่อรักษาโดยตรงยังไม่มี ผู้ที่เป็นโรคเหล่านี้ หมอจะรักษาตามอาการ เพื่อให้คนป่วยสบายขึ้นแต่โรคมันจะค่อยๆ หายไปเองตามธรรมชาติ หรือในผู้ที่ร่างกายอ่อนแอ อาจถึงชีวิตได้
2. แคลมมีเดีย (Chlamydia) ทำให้เกิดโรคริดสีดวงตา (Trachoma) และ กามโรค เชื้อพวกนี้พอมียารักษาได้ โดยใช้ยาฆ่าเชื้อบางชนิด
3. มัยโคปลาสมา (Mycoplasma) มีขนาดเล็กใกล้เคียงกับแคลมมีเดีย เป็นพวกไม่มีผนังเซลล์ ทำให้เกิดโรคได้ในคน เช่น โรคปอดบวม ยาฆ่าเชื้อใช้ได้อยู่บ้างไม่มากนัก
4. ริคเกตเซีย (Richettsia) มีขนาดระหว่างไวรัสกับแบคทีเรียชอบอาศัยในแมลง เช่น ไร เห็บ คนจึงติดโรคจากการที่มีไรหรือเห็บกัดได้ ทำให้เกิดโรค เช่น ไข้ทัยฟัส (Typhus) หรือไข้รากสาดใหญ่ มียาฆ่าเชื้อบางชนิดรักษาได้ผลดี
5. แบคทีเรีย (Bacteria) หรือเรียกเป็นชื่อไทยๆ ในสมัยก่อนว่า “บัคเตรี” เป็นเชื้อที่ทำให้เกิดโรคได้อย่างกว้างขวางมีหลายรูปแบบ เช่น ตัวกลม ตัวแท่ง บิดเป็นเกลียว คนเราติดโรคจากเชื้อแบคทีเรียมากที่สุด แต่โชคดีที่มียาฆ่าเชื้อผลิตออกมาหลายชนิด สามารถฆ่าแบคทีเรียได้ แบคทีเรียมีขนาดโตพอที่จะมองเห็นด้วยกล้องจุลทรรศน์ธรรมดาทั่วๆ ไป ขนาดประมาณ 1-3 ไมครอน (หรือ 0.001-0.003 มิลลิเมตร)
6. เชื้อรา (Fungi) เชื้อราเป็นสิ่งมีชีวิตเล็กๆ ที่มีการพัฒนามากกว่าแบคทีเรีย อาจเป็นเซลล์ เซลล์เดียวหรือหลายเซลล์ก็ได้ แบ่งเป็นสองพวกใหญ่ๆ คือ ส่า (Yeast) และ โมลด์ (Mold) ขนาดใหญ่กว่าแบคทีเรีย แต่ยังมองด้วยตาเปล่าไม่เห็น คงต้องใช้กล้องจุลทรรศน์ (ยกเว้นรำพวกเห็ด) ราทำให้เกิดโรคในคนไม่มากนัก ที่พบบ่อยคือ พวกขี้กลาก เกลื้อน ยาที่ใช้รักษามีพอประมาณ แต่ไม่สามารถรักษาได้ทุกชนิด
7. โปรโตซัว (Protozoa) หรือ สัตว์เซลล์เดียว เป็นจุลชีวันที่โตที่สุดทำให้เกิดโรคได้ เช่น ไข้จับสั่น บิด อะมีบ้า มียารักษาได้ดีพอสมควร
8. พยาธิ (Parasite) ตัวโตจนมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า เช่น พยาธิไส้เดือน พยาธิเส้นด้าย มียารักษาได้ดี แต่การรักษาได้ผลไม่ดีเท่าที่ควร เพราะชีวิตประจำวันของคนทั่วๆ ไปมีโอกาสติดเชื้อใหม่ได้ง่ายมาก
สวัสดีครับ
จากผม นายทริโคโมแนส อสูรย์ยอดรัก
- อ่าน 4,462 ครั้ง
- พิมพ์หน้านี้