• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

ปากเปื่อย ร้อนใน แผลแอ๊ฟตัส

คอลัมน์นี้จะสอนให้รู้จักอาการและโรคต่างๆ รวมทั้งวิธีตรวจร่างกายด้วยตนเอง ซึ่งผู้อ่านนำไปปฏิบัติได้เลย หรือภายหลังจากที่ได้ฝึกจากผู้รู้สักครั้งสองครั้ง เราจะนำมาเสนอเป็นประจำทุกครั้ง

“ปากเปื่อย ร้อนใน แผลแอ๊ฟตัส”

เราเชื่อว่า ท่านหรือลูกหลานของท่านคงได้ลิ้มรสชาติของอาการปากเปื่อยแบบนี้มาบ้างแล้ว ขนาดกินน้ำพริกหรือของเผ็ดๆ ไมได้หลายวันเชียวแหละครับ

อาการปากเปื่อย จะพบว่าเป็นๆ หายๆ อยู่เป็นประจำ บางคนอาจเป็นเดือนละครั้งสองครั้ง บางคนพบร่วมกับอาการท้องผูก เหมือนดังที่ชาวบ้านเราเรียกว่า “ร้อนใน” นั่นแหละ

แผล ที่พบจะมีลักษณะเป็น แผลตื้น ขอบแดง ขนาด 5-15 มิลลิเมตร อาจขึ้นแผลเดียวหรือหลายแผล อาจเป็นซ้ำที่ หรือขึ้นที่ใหม่ ตามริมฝีปาก ลิ้น เพดานปาก เหงือก กระพุ้งแก้ม ต่อมทอนซิล หรือผนังลำคอ ใน 2-3 วันแรก จะรู้สึกปวดมาก (ถ้าขึ้นที่ต่อมทอนซิลหรือผนังลำคอ จะมีอาการเจ็บคอคล้ายเป็นต่อมทอนซิลอักเสบ) ทำให้กินอาหารลำบาก แล้วอาการจะค่อยๆ ดีขึ้น และหายเองได้ภายใน 7-14 วัน แต่จะกลับเป็นได้บ่อยๆ

อาการปากเปื่อยแบบนี้ หมอเราเรียกว่า “แผลแอ๊ฟตัส”

สาเหตุ

ยังไม่ทราบแน่ชัด แต่เชื่อว่า อาจเกิดขึ้นจากเชื้อไวรัสชนิดหนึ่งที่คล้ายกับเชื้อเริมหรืองูสวัด อาการนี้มักเกิดในขณะที่มีความเครียดทางอารมณ์ อาหารไม่ย่อยหรือท้องผูก

การรักษา

โรคนี้หายเองได้ และไม่มีอันตรายอะไร นอกจากทำให้รู้สึกรำคาญที่เป็นบ่อย หรือทรมานจากอาการปวดในระยะที่ขึ้นใหม่ๆ ถ้าเป็นโรคนี้ ขอแนะนำว่าไม่ต้องไปหาหมอฉีดยาให้เจ็บตัวและเสียเงิน ถ้าทนได้ก็ไม่ต้องใช้ยาอะไรทั้งสิ้น แต่ถ้าปวดแผลทรมานมาก ก็แนะนำให้ซื้อยาครีมเคนาลอก (Kenalog in Orabase หลอดขนาด 5 กรัม ราคาหลอดละ 32 บาท) ทาก่อนนอนวันละครั้ง จะช่วยบรรเทาอาการปวดและหายเร็วขึ้น (แต่ไม่หายขาดและอาจเป็นซ้ำได้อีกครับ)

นอกจากนี้ จะกินยาแก้ปวด เช่น แอสไพริน (ราคาเม็ดละ 5 สตางค์) หรือ พาราเซตามอล (ราคาเม็ดละ 20 สตางค์) ครั้งละ 1-2 เม็ด บรรเทาอาการปวด และกินยา วิตามินบี.รวม (ราคาเม็ดละ 5 สตางค์) วันละ 3 ครั้งๆ ละ 1 เม็ดก็ได้

ข้อมูลสื่อ

4-010
นิตยสารหมอชาวบ้าน 4
สิงหาคม 2522
รศ.นพ.สุรเกียรติ อาชานานุภาพ