• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

เรื่องของฝาแฝด

เรื่องของฝาแฝด

มันน่าฉงนใจไม่หยอกอยู่นะครับ

ที่อยู่ดีๆ คนเราก็คลอดลูกแฝดได้คราวละ 2 คน, 3 คน, 4, 5, 6 ไปจนถึง 7-8 คนโน่น ยิ่งกว่านั้นบางคนยังคลอดแฝดชนิดมีส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายติดกันออกมาก็มี หรือบางทีก็เป็นเด็กที่มีอวัยวะอื่นงอกเกินมาก็ยังมี

จะกรรมเวรอะไรก็ไม่รู้ซี แต่ที่แน่ๆ ก็ทำให้หลายคนร่ำรวยไปจากการณ์นี้กันนักต่อนักแล้ว

ดูแต่ อิน-จัน นั่นปะไร กว่าจะเป็นไทแก่ตัวเองได้ พวกผู้จัดการทั้งหลายก็รวยกันเสียไม่รู้เรื่อง

เฮ้อ! ข้าละซิเบี่ย!

คนคงสงสัยกันมานับแต่เริ่มมีฝาแฝดเกิดขึ้นในโลกแล้วว่า นี่มันอะไรกันวะ! ยิ่งมีประเภทติดกันหรือมีบางส่วนงอกรุงรังเกินออกมา คนก็ยิ่งสงสัยกันหนักขึ้นไปอีก

ด้วยความอยากรู้อยากเห็น คนก็พยายามค้นคว้าหาสาเหตุกันเป็นการใหญ่ ว่ามันเป็นยังไงมายังไงกัน ถึงได้เกิดเหตุพิสดารเช่นนี้

ในที่สุดก็อุตส่าห์สืบสาวราวเรื่องหาต้นตอมาแก้ความสงสัยกันได้

เก่งพิลึกล่ะ!

ปกติแล้ว การเกิดเป็นคนได้นั้นธรรมชาติได้กำหนดขั้นตอนต่างๆ ไว้อย่างเรียบร้อยแล้ว

เริ่มตั้งแต่ผู้ชายต้องหลั่งเชื้อชีวิตตัวผู้หรือที่เรียกกันทั่วๆ ไปว่า ตัวอสุจิ (หรือมีชื่อภาษาอังกฤษว่า sperm อ่านว่า สเปอร์ม) เข้าไปในช่องคลอดของผู้หญิงเสียก่อน แล้วไอ้เจ้าเชื้อชีวิตตัวผู้นี้แหละก็จะเดินทางต่อเข้าไปในปากมดลูก เข้าโพรงมดลูก แล้วก็เข้าท่อนำไข่ เพื่อไปผสมกับไข่หรือเชื้อตัวเมีย

เชื่อไหมครับ ว่าในแต่ละครั้งที่ผู้ชายหลั่งน้ำอสุจินี้ จะมีเชื้อชีวิตตัวผู้ออกมาคราวละเป็นร้อยล้านตัว แต่มีเชื้อเพียงตัวเดียวที่มีโอกาสได้ไปผสมกับไข่หรือเชื้อชีวิตตัวเมีย เกิดเป็นฟองชีวิตขึ้น

เพราะธรรมชาติกำหนดให้ผู้หญิงมีเชื้อหรือไข่ชีวิตตัวเมียนี้หลุดมาได้เพียงคราวละ 1 ฟองเท่านั้น จึงรับเชื้อชีวิตตัวผู้คราวละ 1 ตัวเช่นกัน

พวกเราที่เกิดมาได้นี่ ล้วนแต่เป็นผู้ชนะทั้งนั้นแหละครับ

เก่งหยอกน้อยอยู่เมื่อไรล่ะ พักผ่าซิ

แล้วตามปกตินั้น เชื้อชีวิตตัวเมียนี้ก็ถูกปล่อยจากรังไข่เพียงเดือนละ 1 ครั้งเท่านั้นเอง

ถ้าปะเหมาะเคราะห์ดี หรือเคราะห์ร้ายก็ไม่รู้ มีเชื้อชีวิตตัวผู้เข้าไปเจอกับไข่ในช่วงนี้พอดี เชื้อชีวิตทั้งคู่ก็จะเข้าผสมกันเรียกว่า “ปฏิสนธิ” ชีวิตก็อุบัติเดี๋ยวนั้น เป็นปฐมชีวิต

ปฐมํ กลลํ โหติ กลลา โหติ อพฺพุทํ

อพฺพุทา ชายเต เปสิ เปสิ นิพฺพตฺตตี ฆโน

ฆนา ปสาขา ชายนติ เกสา โลม นขา ปิจ

เป็นสิ่งที่พระพุทธองค์ได้ทรงแสดงไว้ เมื่อ 2500 ปีก่อน ถึงเรื่องของการเกิดเป็นชีวิต ดังปรากฏอยู่ในพระสุตตันตปิฎกสคาถาวรรค สังยุตตนิกาย เล่มที่ 15 หน้า 303

หมายความว่า ปฐมชีวิต คือ กลละถึงอัพพุทะ (น้ำล้างเนื้อ) จากอัพพุทะถึงเปสิ (ชิ้นเนื้อ) จากเปสิ ถึง ฆนะ (ของแข็ง) จาก ฆนะ ถึง สาขา บังเกิดเป็นศีรษะ คน ขน เล็บ เป็นต้น

นี่แหละครับ! คนเพิ่งจะมาพบความจริงนี้ เมื่อไม่กี่ชั่วคนนี่เอง กลละ นั้นก็คือ ฟองชีวิ และเจ้าฟองชีวิตนี้ ก็จะถูกปรุงแต่งให้แปรรูปแบ่งแยกตัวเองออกไปเป็นส่วนๆ เกิดอวัยวะต่างๆ ขึ้น เจริญเติบโตกลายเป็นทารก และในที่สุดก็คลอดมาเป็นผู้คนทนใช้ชีวิตในโลกไปตามบัญชาของธรรมชาติต่อไป

ก็เหมือนๆ กันอย่างนี้ทั้งนั้นแหละครับ ไม่ได้ต่างอะไรกันเลย ! จะโลภ โกรธ หลง กันไปถึงไหน เฮ้ย! ปลงเสียบ้างเถอะครับ

แล้วมาเกี่ยวกับฝาแฝดยังไงกันล่ะนี่!

คืออย่างนี้ครับ! ถ้าเกิดจับพลัดจับผลู รังไข่เกิดฟิตจัดปล่อยให้ไข่ตกมาพร้อมๆ กัน 2 ฟอง 3 ฟอง 4 ฟอง 5 ฟอง

ซึ่งก็ย่อมเกิดขึ้นได้ โดยไม่ผิดกติกาอันใดไม่ใช่หรือครับ และเป็นเวลาเดียวกับที่เชื้อชีวิตตัวผู้พากันเฮโลเข้าไปพอดี ก็ไม่ต้องสงสัยอะไรเลยนะครับ ว่าจะไม่เกิดแฝด 2 แฝด 3 ฯลฯ เท่ากับจำนวนไข่ที่ออกมา เพราะไข่ทุกทุกใบก็พร้อมที่จะเกิด “ปฏิสนธิ” เป็น “กลละ” ด้วยกันทั้งนั้น

ง่ายดายเหลือเกินใช่ไหมครับ ไอ้การเกิดแฝดนี่

แฝดที่เกิดจากไข่คนละฟองแบบนี้ หน้าตามักจะไม่เหมือนกันเปี๊ยบทีเดียว เพศก็อาจเป็นเพศเดียวกันหรือต่างเพศกันก็ได้ ก็เหมือนกับพี่น้องที่เกิดคลานตามกันมานั่นแหละ

นี่ก็เป็นกระบวนการเกิดแฝด วิธีหนึ่งของธรรมชาติ แต่ยังมีอีกวิธีหนึ่ง ซึ่งเป็นต้นเหตุของการเกิดแฝดชนิดพิลึกพิลั่น ให้เป็นที่ฮือฮากันไปทั่ว

คืออย่างนี้ครับ!

เมื่อปฐมชีวิต หรือกลละนั้นเกิดขึ้นแล้ว ธรรมชาติก็จะบงการให้มีการปรุงแต่ง แปรรูปไปเรื่อยๆ จนเป็นเด็กในที่สุด ดังที่กล่าวไว้แล้ว การแปรรูปนี้จะตั้งต้นด้วยกลละจะแยกตัวเองเป็น 2 ตัวเท่าๆ กัน มีทุกอย่างเหมือนกันไม่ได้ผิดเพี้ยน แล้วจาก 2 ก็แบ่งเป็น 4 เป็น 8 เป็น 16 เป็น 32 เป็น 64 ฯลฯ มากมายเหลือคณานับ จากนั้นธรรมชาติก็จะจัดส่วนที่เกิดขึ้นเป็นกลุ่มต่างๆ ให้มีหน้าที่ต่างๆ กันไป ส่วนหนึ่งจะเจริญไปเป็นรก ทำหน้าที่ดูแลควบคุมการส่งถ่ายเทอาหาร และแร่ธาตุต่างๆ ระหว่างแม่กับทารกอีก ส่วนหนึ่งจะเจริญไปเป็นทารก

ส่วนที่จะเจริญไปเป็นทารกนั้น ธรรมชาติก็จะกำหนดไว้ว่า ตรงนั้นไปเป็นหนัง ตรงนี้เป็นกระดูก ตรงนั้นเป็นเนื้อ เป็นสมอง เป็นเอ็น อะไรก็ว่ากันไปตามเรื่อง

การเจริญมาเป็นอวัยวะเหล่านี้มีลีลาพิเศษที่น่าสนใจอย่างยิ่ง คือ เมื่อกลละแบ่งตัวไปแล้ว ถึงระยะหนึ่งกลุ่มที่จะเจริญไปเป็นทารกจะมารวมกันเรียงตัวเป็นกลุ่มยาวๆ เหมือนกับลูกอ๊อด ยังไงก็ยังงั้น และในกลุ่มนี้ธรรมชาติจะกำหนดให้แต่ละซีกมีอวัยวะต่างๆ อยู่ครึ่งหนึ่ง นั่นก็คือแต่ละข้างจะมีแขน 1 แขน ขา 1 ขา ตา 1 ตา หู 1 หู ฯลฯ แล้วธรรมชาติจะทำให้ทั้งสองซีกนี้มาบรรจบกันในแนวกลางของลำตัว คนแต่ละคนก็จะมีอวัยวะภายใน เช่น หัวใจ ตับ เป็นต้น ที่จริงก็เป็นการรวมตัวจากทั้งสองซีกเช่นกัน แต่เมื่อมาบรรจบแล้ว

ก็จะรวมตัวกันอย่างแน่นแฟ้น กลายเป็นอวัยวะเดียว และจะโดยเหตุใดไม่ปรากฏ หากขบวนการแบ่งตัวเหล่านี้เกิดฟิตจัด ไม่เป็นไปตามครรลองปกติ เช่น แรกที่กลละแบ่งเป็น 2 ตัวเท่าๆ กัน เกิดเจ้า 2 ตัวนี้ งัดข้อกันขึ้นมา ไม่ยอมรวมกันเพื่อแปรรูปไปทำหน้าที่ตามธรรมชาติกำหนด ต่างฝ่ายต่างก็ฟิตจัดจะทำหน้าที่เดียวกันขึ้นมา

ธรรมชาติก็ยอม แปลก แฮะ ต่างฝ่ายก็จะเจริญและแปรรูปไปเป็นทารกได้พร้อมๆ กัน กลายเป็นเด็กฝาแฝด 2 ได้อย่างน่าชื่นตาบาน หรือบางทีขณะที่กลละ แบ่งไปเป็น 4 หรือ 8 หรือ 16 แล้ว ส่วนที่แบ่งมานี้เกิดจับพลัดจับผลูไม่ยอมลงให้แก่กันขึ้นมาอีก ทุกส่วนพากันยึดอัตราขึ้นมาเฉยๆ ว่า เป็นตัวกูของกูซะแล้ว ก็จะเกิด “ตัวกู ของกู” ขึ้นมา 4 หรือ 8 หรือ 16 ทันที แต่ละ “ตัวกู ของกู” ก็จะเจริญไปเป็นเด็กได้ เป็นเด็กแฝด 4 8 หรือ 16 ขึ้นมาเสียเฉยๆ งั้นแหละ

เล่นกะมันซี

แต่แฝดที่เกิดขึ้นจากไข่ฟองเดียวแบบนี้จะมีรูปร่างหน้าตา และเพศแบบเดียวกันเปี๊ยบ หรือบางที ขณะที่ส่วนต่างๆ กำลังแปรรูปอยู่ ทำกันไปทำกันมาชั่วระยะหนึ่ง เกิดมีบางส่วนฟิตขึ้นมาบ้าง ไม่ยอมลงให้แก่ใครเสียแล้ว เช่น ส่วนที่จะเจริญไปเป็นศีรษะแยกเจริญเป็น 2 ขึ้นมาดื้อๆ งั้นแหละ

ใครจะทำไม!

ก็จะได้เด็กตัวเดียวแต่มี 2 ตัวออกมาให้ดู หรือในบางคน เฉพาะส่วนที่จะเจริญไปเป็นลำตัวและแขนขาเกิดฟิตขึ้นมาพวกเดียว ก็จะได้เด็กหัวเดียวแต่มี 2 ตัว กลายเป็นชีวิตประหลาด ให้คนเอามาทำมาหากินมานักต่อนักแล้ว

ยังมีอีกครับ บางทีกำลังแปรรูปอยู่ดีๆ ไอ้ส่วนจะเป็นเท้าเท่านั้น เกิดฟิตกะทันหัน ก็จะได้เด็กซึ่งมีเท้างอกเกินมาอีก 1 เท้าติดตัวออกมา

คนก็กราบไหว้ บูชา ขอหวยกันครื้นเครงไปเท่านั้น

เห็นไหมครับ แค่อุบัติเหตุทางธรรมชาติเท่านั้นเอง ทำให้คนได้ฉงนสนเท่ห์เล่นมานานนับหมื่นๆแสนๆ ปี จนแม้บางคนบางเผ่าก็เชื่อกันฝังจิตฝังใจ ว่าเป็นอิทธิฤทธิ์ของภูติผีปีศาจ เป็นกาลกิณี ถ้าเก็บไว้ก็จะนำความหายนะมาสู่บ้านเมืองเชียวละ ลูกใครเป็นแฝด ก็ต้องฆ่าเสีย แล้วเผาบ้านเผาเรือนให้สิ้นซาก ไม่ให้เป็นเสนียดจัญไรแก่แผ่นดิน ไม่เชื่อก็ดูจาก “คนภูเขา” นั่นปะไรล่ะครับ เฮ้อ ไม่กลุ้มวันนี้ และจะไปกลุ้มวันไหน กรรมของเด็กแฝดแท้ๆ พับผ่าซี

 

คำอธิบายภาพ จากไข่กลายเป็นชีวิต

รูปที่ 1 การผสมกันระหว่างเชื้อตัวผู้กับเชื้อตัวเมีย (การปฏิสนธิ) เชื้ออสุจิหรือสเปอร์ม ของผู้ชายเคลื่อนตัวเข้าหาไข่ในท่อรังไข่ของผู้หญิงเป็นจำนวนหลายล้านตัว ตามปกติจะมีอยู่เพียงตัวเดียวเท่านั้น ที่สามารถเข้าไปผสมกับไข่ จนเติบโตกลายเป็นตัวคนได้

รูปที่ 2 ตัวผสม (ทารก) เมื่ออายุได้ 4 สัปดาห์ จะมีลักษณะเหมือนตัวลูกอ๊อด คือ มีหัว ลำตัว หาง และครีบ

รูปที่ 3 ตัวผสม (ทารก) เมื่ออายุได้ 5 สัปดาห์ แขน และขาเริ่มปรากฏเป็นตัวตนชัดเจน

รูปที่ 4 ทารกเมื่ออายุได้ 7 สัปดาห์ อวัยวะต่างๆ ได้เติบโตเป็นตัวตนขึ้นอย่างรวดเร็ว กำลังลอยตัวอยู่ในถุงน้ำคร่ำในโพรงมดลูกของมารดา

รูปที่ 5 ทารกเมื่ออายุได้ 4 เดือน อวัยวะต่างๆ เกิดขึ้นจนเกือบจะสมบูรณ์แล้ว

ข้อมูลสื่อ

6-015
นิตยสารหมอชาวบ้าน 6
ตุลาคม 2522
นพ.สมพล พงศ์ไทย