• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

ข้าวเหนียวมะม่วง อาหารและขนมที่อร่อย

ข้าวเหนียวมะม่วง อาหารและขนมที่อร่อย

 

หน้าร้อนทุกปีอาหารและขนมที่เป็นที่โปรดปรานของทุกคนก็คือข้าวเหนียวมะม่วงไงละ แต่บางคนบอกว่า แม้จะอร่อยแต่ก็กินไม่ค่อยได้มาก กินแล้วจะรู้สึกไม่สบายท้องคือมีอาการร้อนใน เจ็บคอ ท้องผูก ปวดหัว “หมอชาวบ้าน” ฉบับนี้เลยถือโอกาสเสนอข้อมูล ข้าวเหนียวมะม่วงกับท่านผู้อ่าน

 

ข้าวเหนียว

⇒ ข้าวเหนียวมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Oryza Stiva. var. glutinosa วงศ์ Gramineae
 

⇒ สรรพคุณ
ข้าวเหนียวมีคุณสมบัติร้อน รสหวาน สรรพคุณบำรุงพลัง รักษาอาการเหงื่อออกมาก ท้องเสีย
 

⇒  ตำรับยา
1. เหงื่อออกมากผิดปกติ ให้กินข้าวเหนียวเป็นประจำจนกว่าอาการจะค่อยๆลดลง และหายไป (กินต่างข้าววันละมือ)

2. ปวดท้อง (เนื่องจากม้ามพร่อง ถ้ากดหรือวางถุงน้ำร้อนตรงบริเวณท้องจะรู้สึกสบาย) ต้มข้าวเหนียวให้เปื่อย แล้วใส่พุทราแห้งลงไป 10 เม็ด ต้มกิน
*ม้ามพร่องจะมีอาการท้องอืด ท้องแน่น อาหารไม่ย่อย สมัยใหม่ก็ว่ามีแก๊สในกระเพาะอาหารมาก เช่น บางคนที่กินกล้วยหอมแล้วท้องอืด เป็นต้น
 

⇒ สารเคมีที่พบ
ในข้าวเหนียว 100 กรัม มีโปรตีน 6.7 กรัม ไขมัน 1.4 กรัม คาร์โบไฮเดรต 76.3 กรัม แคลเซียม 19 มก. ฟอสฟอรัส 155 มก. เหล็ก 6.7 มก. นอกจากนี้ยังมีวิตามินบีหนึ่ง บีสอง และนิโคตินิค แอซิค เป็นต้น

 

*********************************************************************************************

มะม่วง

⇒ มะม่วงมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Mangifera indica Linn. วงศ์ Anacardiaceae
หน้าร้อนอากาศร้อน คอแห้ง กระหายน้ำ เหงื่อออกมาก มักจะทำให้มีอาการอ่อนเพลียเมื่อยล้า สำหรับผู้ที่ร่างกายแข็งแรง ไม่มีปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะอาหาร ลำไส้ หรือระบบการย่อยผิดปกติ การกินมะม่วงจะทำให้ชุ่มคอ แก้ร้อนใน กระหายน้ำได้นอกจากนี้มะม่วงยังมีน้ำตาลฟรักโทส (fructose) และน้ำจำนวนมาก จะช่วยให้ร่างกายแข็งแรง และขจัดความเหน็ดเหนื่อยได้อีกด้วย

โดยเฉพาะผู้ที่สูบบุหรี่หรือดื่มเหล้ามาก ไอ และมีเสมหะ ถ้าได้กินมะม่วง อาการดังกล่าวก็จะลดน้อยลง
สำหรับผู้ที่มีกรดในกระเพาะอาหารมาก ถ้ากินมะม่วงก็จะทำให้อาการโรคกระเพาะอาหารดีขึ้น แต่ถ้ามีสภาพด่างในกระเพาะอาหารมากก็ไม่ควรกิน
ผู้ที่เป็นแผลในกระเพาะอาหารไม่ว่าจะมีสภาพกรดหรือด่างมากเกินไป ก็ไม่ควรกินมะม่วง เพราะจะทำให้ปวดท้อง อาการของโรคจะกำเริบหนักขึ้น เด็กไม่ควรกินมะม่วงมาก เพราะจะทำให้ท้องอืดแน่นและปวดท้องหรือท้องเสีย แต่ถ้ามีอาการดังกล่าวให้ใช้เมล็ดมะม่วง 1-2 ลูก ใส่น้ำ 2 แก้ว ต้มให้เหลือ 1 แก้ว กินน้ำ อาการดังกล่าวก็จะหายไป

 

⇒ สรรพคุณ
มะม่วงมีคุณสมบัติเป็นกลาง (ไม่ร้อนหรือเย็น) รสหวานปนเปรี้ยว สรรพคุณ บำรุงร่างกาย แก้ไอ ขับลม

 

⇒ ตำรับยา
1. แก้ไอ ขับเสมหะ ให้กินมะม่วงสุกสด วันละ 3 ครั้ง ๆ ละ 1 ลูก

2. เลือดออกตามไรฟัน (ลักปิดลักเปิด) ให้กินมะม่วงสุกหรือมะม่วงที่มีรสเปรี้ยว (ไม่ใช่มะม่วงดอง) ครั้งละ 2 ลูก วันละ 2 ครั้ง

 

⇒ ผลทางเภสัชวิทยา
ผลมะม่วงดิบ เปลือกต้น ราก มีฤทธิ์ยับยั้งแบคทีเรียในลำไส้ใหญ่ แต่มีบางรายงานรายงานว่าไม่มีฤทธิ์ในการยับยั้งเชื้อมาลาเรีย หรือแบคทีเรีย

 

⇒ สารเคมีที่พบ
เนื้อและเปลือกมีน้ำ 78.1-82.1% น้ำตาลรวม 11.4-12.4% โปรตีน 0.4-0.9% เส้นใย (Fiber) 0.90-12.4% วิตามินซี 56.4-98.6 มก.% น้ำคั้นจากมะม่วงมีน้ำตาลซูโคส กลูโคส และฟรักโทส นอกจากนี้มะม่วงยังมีวิตามินบีหนึ่ง วิตามินบีสอง และกรดโฟลิค

 

⇒ ข้อควรระวัง
คนที่มีอาการกระเพาะอาหารและม้ามพร่อง ระบบการย่อยไม่ค่อยดี ไม่ควรกินข้าวเหนียวมะม่วง เพราะจะทำให้เกิดอาการท้องอืด แน่น อาหารไม่ย่อยมากยิ่งขึ้น และเนื่องจากข้าวเหนียวมีคุณสมบัติร้อน หน้าร้อนจึงไม่ควรกินข้าวเหนียวมาก เพราะจะทำให้มีอาการร้อนใน เจ็บคอ ท้องผูก ปวดหัว เป็นต้น
 

ข้อมูลสื่อ

86-015
นิตยสารหมอชาวบ้าน 86
มิถุนายน 2529
อาหารสมุนไพร
วิทิต วัณนาวิบูล