โคเลสเตอรอล
ปัจจุบันเรามักจะได้ยินคำว่าโคเลสเตอรอลกันบ่อยๆ จนบางคนถึงกับไม่กล้ากินอาหารที่มีไขมัน ทั้งๆที่ตัวเองก็มีระดับโคเลสเตอรอลปกติ ส่วนคนที่อ้วนก็มีความวิตกกังวล จะกินอะไรก็ต้องระวังไปทุกอย่างเพราะกลัวว่าจะไปเพิ่มระดับโคเลสเตอรอลในเลือดให้สูงขึ้น
ดังนั้นคนไทยโดยเฉพาะผู้สูงอายุจึงเป็นโรคกลัวโคเลสเตอรอลกัน แต่ก็ยังไม่เข้าใจถึงวิธีการควบคุมระดับโคเลสเตอรอลอย่างแท้จริง และคิดไปว่าสารนี้มีโทษต่อร่างกายเพียงอย่างเดียว จึงขอเชิญฟังคำอธิบายของผู้ช่วยศาสตราจารย์รัตนา พากเพียรกิจวัฒนา จากสถาบันวิจัยโภชนาการ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
⇒โคเลสเตอรอลหมายถึงอะไร
หมายถึงสารอาหารชนิดหนึ่งที่จัดอยู่ในประเภทไขมัน เกือบทุกคนจะไม่ชอบสารชนิดนี้ เพราะคิดว่าเป็นผลเสียแก่ร่างกาย แต่จริงๆแล้ว สารนี้ก็มีประโยชน์ต่อร่างกายเหมือนกัน
โคเลสเตอรอลมีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างไร
โคเลสเตอรอลเป็นส่วนประกอบของเซลล์ ซึ่งเป็นหน่วยเล็กที่สุดของร่างกาย อยู่ตามผิวหนังตามอวัยวะต่างๆ นอกจากนี้โคเลสเตอรอลในร่างกายยังเป็นประโยชน์ในการนำไปเผาผลาญที่ตับ เพื่อสร้างเป็นน้ำดีช่วยในการดูดซึมอาหารที่มีไขมัน ถ้าเราไม่มีโคเลสเตอรอล การใช้อาหารจำพวกไขมันก็เป็นไปไม่ดี คือไม่สามารถดูดซึมเข้ามาได้ และร่างกายจำเป็นที่จะต้องได้โคเลสเตอรอลเพื่อนำไปสร้างฮอร์โมนบางชนิด
⇒ เมื่อโคเลสเตอรอลเป็นสารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เราควรจะมีโคเลสเตอรอลประมาณเท่าใด
ร่างกายเรามีโคเลสเตอรอลอยู่ตามผิวหนัง ตามอวัยวะต่างๆ และในกระแสเลือด ส่วนเรื่องว่าควรมีอยู่ปริมาณเท่าใด เราไม่สามารถจะไปตรวจปริมาณในผิวหนังหรือในอวัยวะต่างๆได้ ดังนั้นจึงใช้โคเลสเตอรอลที่อยู่ในกระแสเลือดเป็นเกณฑ์ โดยดูจากปริมาณโคเลสเตอรอลที่อยู่ในกระแสเลือดภายหลังที่อดอาหารแล้ว 12 ชั่วโมง คือจะเจาะเลือดในตอนเช้าก่อนที่จะกินอาหารเช้า คนปกติก็ควรมีปริมาณไม่เกิน 200 มิลลิกรัมต่อเลือด 100 ซีซี
⇒ ร่างกายเราจะได้รับโคเลสเตอรอลจากทางใดบ้าง
ร่างกายจะได้รับโคเลสเตอรอลจาก 2 ทาง คือร่างกายสามารถสร้างขึ้นเองจากอาหารที่เรากิน โดยสร้างที่ตับและลำไส้ อีกทางหนึ่งจากอาหารที่เรากินเข้าไป เป็นโคเลสเตอรอลโดยตรง
⇒ อาหารพวกใดบ้างที่มีระดับโคเลสเตอรอลสูง
ก็มีอาหารที่มาจากสัตว์ พวกเครื่องในสัตว์ สัตว์ที่มีเปลือกและมีกระดอง เช่น พวกปู กุ้ง หอย เป็นต้น โดยเฉพาะหอยนางรมมีโคเลสเตอรอลสูงมาก ในหนังเป็ด หนังไก่ ก็มีโคเลสเตอรอลสูง นอกจากนี้ในไข่ โดยเฉพาะไข่แดงก็มีโคเลสเตอรอลสูง ส่วนในไข่ขาวจะไม่มีเลย รวมทั้งอาหารพวกพืชต่างๆก็จะไม่มีโคเลสเตอรอลด้วย
⇒ เราจะพบโคเลสเตอรอลได้มากตามส่วนใดของร่างกาย และเมื่อมีโคเลสเตอรอลมากเช่นนี้จะเกิดผลเสียอย่างไร
จะพบได้ตามผนังเซลล์ทั่วๆไปและในกระแสเลือด ในบางรายที่มีโคเลสเตอรอลสูงมากจะพบว่า มันไปพอกอยู่ตามผิวหนังและผนังหลอดเลือด เห็นเป็นปื้นหนาสีเหลืองขึ้นมา หรือก้อนไขมันตามบริเวณข้อและเอ็นต่างๆ โดยเฉพาะที่ข้อศอก ข้อเข่า หรือที่ก้น นอกจากนี้จะเห็นไปพอกที่บริเวณตา ที่ขอบตาบนและล่าง อาจจะเห็นเป็นตุ่มๆ หรือตรงระหว่างขอบตาดำกับขอบตาขาวก็จะเห็นมีไขมันพอกอยู่ได้ ส่วนเรื่องผลเสียที่จะเกิดกับร่างกาย ถ้าเรามีโคเลสเตอรอลในเลือดสูงมาก มันจะไปเกาะอยู่ตามผนังของหลอดเลือดแดง ทำให้เลือดไหลไม่สะดวก เป็นเหตุให้เส้นเลือดอุดตัน และถ้าไม่ได้รับการรักษาให้ถูกต้อง ก็จะเป็นสาเหตุให้เกิดโรคหัวใจขาดเลือด หรือหัวใจวาย หรือเกิดเป็นอัมพาตได้ในภายหลัง
⇒ มีโรคใดบ้างที่แพทย์ห้ามกินอาหารที่มีโคเลสเตอรอล
การห้ามกินโคเลสเตอรอลเลยคงจะทำได้ยากเพราะถ้าเรากินอาหารที่มาจากสัตว์และจะต้องได้รับโคเลสเตอรอลมาด้วยไม่มากก็น้อย ดังนั้นเราจึงแนะนำให้คนที่มีระดับโคเลสเตอรอลในเลือดสูง พยายามลดปริมาณโคเลสเตอรอลในอาหารให้น้อยลง โดยการงดการกินอาหารที่มีปริมาณโคเลสเตอรอลสูงๆ สำหรับไข่นั้นเป็นอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายก็ให้กินเฉพาะไข่ขาว ซึ่งไม่มีโคเลสเตอรอลเลย แทนที่จะกินไข่ทั้งฟอง
⇒จำเป็นหรือไม่ที่โคเลสเตอรอลจะมีมากในคนอ้วนเท่านั้น
ไม่จำเป็น คนผอมก็มีสิทธิ์มีโคเลสเตอรอลสูงได้ เพราะส่วนใหญ่ของการมีโคเลสเตอรอลสูง เนื่องจากกินอาหารที่มันมากๆ หรือมีโคเลสเตอรอลสูงๆเป็นประจำ นอกจากนี้ก็มาจากกรรมพันธุ์ พ่อหรือแม่เป็น ลูกก็มีโอกาสเป็นได้
⇒ เราควรเลือกกินอาหารอย่างไรเพื่อให้ปริมาณโคเลสเตอรอลได้เหมาะสม
ที่สำคัญเราต้องกินอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ สำหรับคนที่มีระดับโคเลสเตอรอลสูงแล้ว ก็ควรงดหรือกินอาหารที่มีโคเลสเตอรอลสูงๆให้น้อยลง ถ้าหากว่าโคเลสเตอรอลของเรายังอยู่ในระดับปกติ ก็กินอาหารพวกนี้ได้แต่อย่าบ่อยนัก นอกจากนี้ ควรกินพวกไขมันจากสัตว์ให้น้อยลง เพราะพวกนี้มีส่วนช่วยให้โคเลสเตอรอลสูง พยายามกินพวกน้ำมันพืช เพราะในน้ำมันพืชจะมีกรดไขมันจำเป็นคือ กรดไลโนเลอิก ไขมันตัวนี้จะไปช่วยเร่งการเผาผลาญโคเลสเตอรอลในร่างกาย ทำให้ปริมาณโคเลสเตอรอลที่มีอยู่ลดลง
⇒การใช้น้ำมันพืชควรใช้ในปริมาณเท่าใด และจะใช้น้ำมันพืชได้ทุกชนิดหรือไม่
น้ำมันพืชแต่ละชนิดจะมีกรดไขมันที่จำเป็นไม่เท่ากัน ถ้าหากเป็นน้ำมันพืชที่ทำจากข้าวโพด ถั่วเหลือง ดอกคำฝอยหรือดอกทานตะวัน พวกนี้จะมีกรดไขมันที่จำเป็นอยู่ในปริมาณสูงคือ อาจมีถึง 50% ทำให้เราไม่จำเป็นต้องกินไขมันอันนี้มากนัก คือกินแค่ 3 ช้อนโต๊ะต่อวันก็เพียงพอที่จะควบคุมให้ระดับโคเลสเตอรอลอยู่ในระดับปกติ ส่วนในน้ำมันรำหรือน้ำมันถั่วลิสงอาจมีกรดไขมันจำเป็นแค่ 30% เราก็ต้องกินไขมันพวกนี้ในปริมาณมากขึ้น อาจเป็น 5 ช้อนโต๊ะต่อวัน แต่ถ้าเราไปใช้น้ำมันมะพร้าวซึ่งมีกรดไขมันที่จำเป็นต่ำมาก ต่ำกว่าน้ำมันหมูอีก เพราะฉะนั้นถ้าเรากินไขมัน 2 ตัวนี้ก็จะไม่ได้กรดไขมันที่จำเป็นมาช่วยลดโคเลสเตอรอลได้เพียงพอ
ดังนั้นเราจึงควรหันมากินน้ำมันพืชจะดีที่สุด และคนที่มีโคเลสเตอรอลในเลือดสูง จะต้องใช้น้ำมันพืชในการปรุงอาหารเป็นประจำ เพื่อใช้เป็นยาในการควบคุมโคเลสเตอรอลชนิดหนึ่งด้วย
⇒นอกจากกินอาหารที่มีปริมาณโคเลสเตอรอลน้อยแล้ว ยังมีวิธีการอื่นใดอีกที่จะทำให้ร่างกายมีปริมาณโคเลสเตอรอลที่เหมาะสม
ก็คงจะต้องระมัดระวังเรื่องอาหารที่กิน พยายามกินน้ำมันพืชเพื่อให้ได้กรดไขมันที่จำเป็นแต่ก็จะต้องระมัดระวังเรื่องพลังงานที่ร่างกายได้รับด้วย เพราะไขมันจากน้ำมันพืชก็ให้พลังงานด้วย ดังนั้นถ้ากินน้ำมันพืชมากๆก็จะอ้วนได้ จึงควรเลือกกินน้ำมันพืชที่มีกรดไขมันจำเป็นที่มีปริมาณสูง เพื่อจะได้ไม่ต้องใช้น้ำมันในปริมาณมากเกินไป นอกจากนี้ก็ควรออกกำลังกายเป็นประจำ จะช่วยให้ระดับโคเลสเตอรอลในเลือดลดลงได้ และควรตรวจเช็กเลือดเป็นครั้งคราว จะช่วยวินิจฉัยความผิดปกติของไขมันในเลือดได้เร็วขึ้น
โดยเฉพาะคนที่มีกรรมพันธุ์เกี่ยวกับเรื่องไขมันในเลือดสูง ก็ควรเช็กร่างกายตั้งแต่อายุ 20 ปีขึ้นไป เพื่อดูว่ามีไขมันสูงหรือไม่ จะได้ทำการบำบัดรักษาด้วยอาหารและยาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- อ่าน 3,271 ครั้ง
พิมพ์หน้านี้