• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

อัมพาตจากหลอดเลือดสมองพิการ

อัมพาตจากหลอดเลือดสมองพิการ


อัมพาต หมายถึง การเคลื่อนไหวส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายไม่ได้ กระดุกกระดิกไม่ได้ การที่เรายกแขนยกขาได้นั้นเพราะมีกล้ามเนื้อดึง การเคลื่อนไหวทุกชนิดเกิดจากการหดตัวของกล้ามเนื้อโครงกระดูกเปล่า ๆ จะเคลื่อนไหวเองไม่ได้
ฉะนั้นพวกเรื่องผี ๆ ที่มีแต่โครงกระดูกเดินเก้งก้างหรือที่หัวกะโหลกมันอ้าปากหงับ ๆ ได้เอง โดยไม่มีกล้ามเนื้อดังนั้น เป็นเรื่องหลอก ๆ ทั้งสิ้น

       

กล้ามเนื้อนั้นมี 2 ปลาย ปลายข้างหนึ่งจับอยู่ที่กระดูกชิ้นหนึ่ง และปลายอีกข้างหนึ่งจับอยู่ที่กระดูกอีกชิ้นหนึ่ง เมื่อกล้ามเนื้อหดตัวก็ทำให้มีการเคลื่อนไหวของกระดูกได้ กล้ามเนื้อทุกมัดมีเส้นประสาทมาเลี้ยง เส้นประสาทนี้จะเริ่มต้นที่สมองรวมกันลงมาเป็นไขสันหลังอยู่ในกระดูกสันหลัง แล้วแยกเป็นเส้นประสาทออกไปสู่กล้ามเนื้อต่าง ๆ ทั่วร่างกาย อยู่ดี ๆ กล้ามเนื้อจะไม่หดตัวเองแต่ต้องมีคำสั่งจากสมอง คล้ายกระแสไฟ ไปตามเส้นประสาทถึงกล้ามเนื้อ กล้ามเนื้อมัดนั้นจึงจะหดตัว

การที่เราเคลื่อนไหวแขนขา ทำอะไรได้คล่องแคล่ว จนดูเหมือนจะเป็นไปเองโดยอัตโนมัตินั้น แท้ที่จริงแล้วต้องมีคำสั่งมาตามเส้นประสาทไปสู่กล้ามเนื้อทั้งสิ้น แต่เราทำจนเคยชินจนไม่รู้สึกตัวที่จะรู้สึกก็ตอนเป็นอัมพาตนี่แหละ ถ้ากระแสคำสั่งจากระบบประสาทมาสู่กล้ามเนื้อไม่ได้ ด้วยเหตุใด ๆ ก็ตามเราก็จะเป็นอัมพาต เช่น มีเลือดออกในสมอง สมองทำงานไม่ได้ก็ทำให้เกิดอัมพาตได้ กระดูกสันหลังหักไปกดไขสันหลังทำให้เป็นอัมพาตของขาทั้งสองข้างโรคไขสันหลังอักเสบ (โปลิโอ) ทำให้อัมพาตของแขนหรือขา ถูกฟันหรือแทงเส้นประสาทขาดส่วนที่อยู่ถัดไปจากบริเวณที่ถูกฟันหรือแทงจะเป็นอัมพาต เป็นต้น

ปีนี้เป็นปีสุขภาพผู้สูงอายุสากล และการเกิดอัมพาตเป็นธรรมชาติของชีวิตอย่างหนึ่งโยเฉพาะในคนชรา เราจึงควรมีความรู้สำหรับปฏิบัติรักษาตนตามสมควรตั้งแต่หนุ่มสาวก่อนถึงวัยผู้สูงอายุ
“หมอชาวบ้าน” จึงขอพาทานมาพบกับ ศจ.นพ.อรรถสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ในเรื่อง “อัมพาต จากหลอดเลือดสมองพิการ”


⇒อัมพาต อัมพฤกษ์ ต่างกันอย่างไร

อัมพาต คือ อาการที่แขนหรือขา หรือแขนและขา หรือส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกาย ขยับไม่ได้ เคลื่อนไหวไม่ได้ หรือใช้งานไม่ได้
ส่วนอัมพฤกษ์ นั้นคืออาการที่แขนหรือขาหรือส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกายอ่อนแรง ทำงานไม่เป็นปกติ แต่ยังพอขยับได้ หรือมีอาการเพียงชั่วครู่แล้วหายไปเอง
ความแตกต่างของ 2 อาการนี้อยู่ที่ความรุนแรงของความผิดปกติ

การที่แขนขาและหน้าซีกหนึ่งอ่อนแรงไป เป็นความผิดปกติที่พบได้ค่อนข้างบ่อย โดยเฉพาะในคนสูงอายุเกิดขึ้นเพราะศูนย์ประสาทหรือประสาทที่ควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อหน้าแขนและขาเสียไป ส่วนใหญ่เป็นผลเนื่องจากหลอดเลือดแดงในสมองแตกหรืออุดตัน

 

 

⇒เราเตือนคุณแล้ว
ในผู้ป่วยบางรายมีอาการที่เตือนให้รู้ล่วงหน้าว่าจะเกิดอัมพาตคือ แขนขาอ่อนแรงไปครึ่งซีกเป็นชั่วครู่ แล้วหายเป็นปกติ แต่มีอาการเกิดซ้ำอีกต่อมาอาการเกิดขึ้นแล้วคงอยู่นาน ถ้าดีขึ้นก็มักไม่เป็นปกติ เช่นบางคนตื่นนอนขึ้นมาตอนเช้า พบว่าแขน ขา หน้าของตนผิดปกติไป ในพวกนี้มักไม่มีอาเจียนและไม่ปวดหัวรุนแรง ถ้าเป็นจากหลอดเลือดสมองอุดตัน

ถ้าเกิดจากหลอดเลือดสมองแตกอาการจะเกิดอย่างรวดเร็วมาก พวกนี้มักจะมีอาเจียนและปวดหัวอย่างรุนแรงจนในที่สุดก็ไม่รู้สึกตัว
บางรายอาจกลืนอาหารไม่ได้ หนังตาปิดไม่ค่อยสนิท ยิ้มไม่ออก น้ำลายไหล หรืออยู่ดี ๆ ก็เป็นลมไปหรือเดิน ๆ ทรุดลงไป หรือหกล้ม แล้วแขนขาชาไปข้าหนึ่งและเป็นอัมพาตไปก็มี


⇒มันมาจากไหน
โรคนี้เกิดจากความผิดปกติของหลอดเลือดแดงที่นำเลือดไปเลี้ยงสมอง คือ หลอดเลือดเหล่านี้มักจะตีบและแข็งเมื่อมีอายุสูงขึ้น หรือผู้ที่มีความเลือดสูง ก็มีโอกาสเกิดเส้นเลือดแตกได้ง่าย
เมื่อมีสาเหตุอะไรก็ตาม ที่ไปทำให้เซลล์สมองในส่วนสั่งงาน ไขสันหลังและประสาทส่วนปลาย รวมทั้งสมองส่วนกลาง ได้รับความกระทบกระเทือนช้ำ จนหยุดทำงาน ก็จะทำให้กล้ามเนื้อของร่างกายทำงานผิดปกติไปจึงเกิดอัมพาตขึ้น

 

 


หมอตรวจพบโรคนี้ได้อย่างไร
ก็ใช้วิธีการโดยทั่ว ๆ ไป ด้วยการซักประวัติจากผู้ป่วย ว่าอาการเกิดขึ้นทันทีทันใดหรือไม่ ซึ่งถ้าใช่เราจะต้องนึกถึงโรคเกี่ยวกับ ความพิการของหลอดเลือด โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่อยู่ในวัยสูงอายุ ซึ่งมักจะพบโรคนี้บ่อย ถ้าผู้ป่วยมีความดันเลือดสูง หรือเป็นเบาหวานอยู่แล้ว ก็ยิ่งทำให้ต้องนึกถึงโรคนี้มากขึ้น คนที่เป็นเบาหวานจะมีหลอดเลือดแดงทั่งร่างกายเสื่อมเร็วกว่าคนธรรมดา เช่นเดียวกับคนที่มีความดันเลือดสูง จะมีผนังของหลอดเลือดที่เสื่อมและตีบเร็วขึ้น

วิธีการตรวจ ก็มีหลายอย่าง แต่ไม่จำเป็นจะต้องใช้เครื่องตรวจพิเศษทุกรายไป เพราะอาจจะทำให้ผู้ป่วยเจ็บตัว เช่น การฉีดสารทึบแสงรังสีเข้าไปในหลอดเลือดแดงที่คอ เพื่อถ่ายภาพเอ็กซเรย์ดู หรือการตรวจซึ่งไม่ทำให้ผู้ป่วยเจ็บตัว แต่เดือนร้อนเรื่องเงิน เช่น การตรวจด้วยเครื่องเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นแต่เพียงเครื่องยืนยันเท่านั้นว่าผู้ป่วยมีหลอดเลือดอุดตันจริง และมีเนื้อสมองส่วนหนึ่งเสียไป หรือว่ามีเลือดออกในสมอง เครื่องมือนี้ควรใช้ในกรณีที่แพทย์ยังสงสัยหรือยังรู้ไม่แน่ชัดลงไปว่า ผู้ป่วยหลอดเลือดในสมองอุดตันหรือหลอดเลือดแตก หรือเปล่าเท่านั้น


เราจะห่างจากโรคนี้อย่างไรหนอ
การป้องกันโดยการรักษาตนเองเป็นวิธีที่ดีที่สุด อย่าให้ตัวเองอ้วนเกินไป กินอาหารพวกเนื้อ ผัก ผลไม้ พอควร ออกกำลังกายสม่ำเสมอตั้งแต่อยู่ในวัยหนุ่มสาว
การสูบบุหรี่ก็เช่นกัน หากลดหรือเลิกได้จะเป็นการดี เพราะบุหรี่มีส่วนทำให้หลอดเลือดตีบหรือหลอดเลือดพิการด้วย

นอกจากนี้ก็ควรรักษาโรคต่าง ๆ ที่อาจทำให้เกิดอัมพาตได้ง่าย เช่น
โรคความดันเลือดสูง ผู้ป่วยที่มีความดันเลือดสูงควรระวังไม่กินอาหารเค็ม หมั่นทำการรักษาอยู่เป็นประจำ ให้ความดันเลือดอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งจะช่วยลดอัตราการเกิดหลอดเลือดแดงในสมองแตก เป็นอัมพาตจนถึงเสียชีวิตได้มาก

โรคลิ้นหัวใจพิการ
เช่น คนที่เป็นโรคลิ้นหัวใจพิการ(รูห์มาติค) ควรต้องหาแพทย์ประจำตัว เพื่อให้แพทย์คอยตรวจดูให้แน่ว่า จะต้องกินยาอะไรอีกเป็นประจำ มีวิธีอะไรที่จะป้องกันไม่ให้เกิดมีก้อนเลือดไปอุดหลอดเลือดในสมอง

โรคเบาหวาน ผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน ควรระวังการกินอาหารหวานพวกแป้ง พวกน้ำตาล และรักษาตัวเองให้ดี พร้อมกับกินยาควบคุมน้ำตาลในเลือดอย่างสม่ำเสมอ
หากเกิดมีอาการแขน-ขาชา ไม่มีแรงไปชั่วคราว และถ้าเป็นบ่อย ๆ ครั้งเข้า ควรรีบไปปรึกษาแพทย์ แพทย์จะได้หาทางป้องกันไม่ให้เกิดอัมพาตอย่างถาวร เช่น นั่งอยู่ดี ๆ แขน ขาข้างหนึ่งเกิดไม่มีแรงไป 5 นาที แล้วกลับดีขึ้นมาอีก เป็นอย่างนี้วันหนึ่ง 2-3 ครั้ง ต้องรีบไปหาแพทย์เพราะมันหมายความว่า หลอดเลือดอาจจะมีการอุดตันอาจจะเป็นอัมพาตหรืออัมพฤกษ์ได้

    

⇒แอสไพรินกับสมุนไพรกระเทียมช่วยได้จริงหรือ
แอสไพรินไม่ได้เป็นยาไปขยายหลอดเลือด หรือเป็นยาไปทำอะไรกับหลอดเลือด แต่มันไปมีผลโดยตรงต่อส่วนประกอบของเลือด คือ เกล็ดเลือดทำให้การเกาะตัวติดกันของเกล็ดเลือดน้อยลง แต่ไม่ใช่ว่าถ้าท่านสงสัยว่าตัวท่านจะเป็นอัมพาต แล้วกินแอสไพรินเช้าเม็ดเย็นเม็ด อันนี้ผิด ควรจะให้แพทย์เป็นผู้วินิจฉัยและเป็นผู้ให้ เพราะในคนที่เป็นโรคกระเพาะ ก็ไม่ควรใช้ยานี้ และในบางรายก็อาจจะไม่ต้องใช้ยานี้
เรื่องสมุนไพรกระเทียมนั้น อาจจะมีส่วนดี แต่ยังไม่การพิสูจน์แน่ชัดมีแต่การศึกษาถึงฤทธิ์ของกระเทียมต่อการแข็งตัวของเลือดเท่านั้น


⇒เป็นแล้วมีโอกาสหายไหม
ถ้าเป็นน้อยและส่วนของระบบประสาทที่เสียเป็นส่วนเล็กน้อย ที่เรียกว่าเป็นอัมพฤกษ์ตามแขนขา ก็จะมีโอกาสดีขึ้นจนเกือบเป็นปกติได้ แต่ความชำนาญที่ต้องใช้ทักษะเป็นพิเศษของมือในการทำอะไร อาจจะผิดไปเช่น ถ้าเป็นนักดนตรี ฝีมือจะต้องตกไป เป็นต้น เพราะฉะนั้น ถ้าเป็นอัมพฤกษ์อยู่ไม่นาน ก็คงมีโอกาสหายขาดหรือหายเกือบทั้งหมดได้


⇒ต้องปฏิบัติตัวอย่างไรบ้าง
การปฏิบัติตัวสำหรับผู้ที่เป็นโรคนี้ ผมว่าการทำใจให้ได้เป็นสิ่งสำคัญ คือ เราต้องพยายามให้สมองสั่งงาน พยายามใช้แขนขา มันจะได้พยายามฟื้นตัวเร็วที่สุด ถ้าเรานอนอยู่เฉย ๆ ไม่พยายามขยับเขยื้อนแขนขาเอง กล้ามเนื้อจะลีบ แขนขาก็จะลีบเล็กลงกว่าธรรมดา ข้อก็ติด การทำงานก็ไม่ได้ผล
อันนี้อยู่ที่กำลังใจของคนไข้ด้วย การพยายามใช้แขนขาให้ถูก เป็นธรรมชาติที่สุด การใช้ยา หรือการนวด หรือการฝังเข็มนั้นเป็นหลักทางวิทยาศาสตร์

สำหรับเรื่องอาหารการกินนั้น ถ้าเป็นความดันเลือดสูง จะต้องระวังไม่กินอาหารเค็ม ถ้าเป็นเบาหวานด้วยก็ควรต้องระวังเรื่องการกินอาหารหวาน อาหารแป้ง นอกเหนือจากนี้แล้วก็ควรได้รับอาหารตามปกติ


⇒มีอะไรจะแนะนำอีกไหม
สำหรับญาติผู้ป่วย ในบางกรณีผู้ป่วยต้องการความเห็นอกเห็นใจมากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะผู้ป่วยอัมพาตครึ่งซีกบางราย ที่พูดไม่ได้ด้วยเพราะส่วนของสมองที่ควบคุมเกี่ยวกับภาษาของมนุษย์เราเสียไป บางคนฟังเข้าใจหมดทุกอย่าง แต่พูดไม่ได้ บางคนฟังไม่รู้เรื่อง พูดไม่รู้เรื่อง น่าสงสารมาก

การดูแลผู้ป่วยหรือเป็นผู้ใกล้ชิดผู้ป่วยพวกนี้ จึงต้องใช้ความเห็นอกเห็นใจ อดทน และคอยให้ความช่วยเหลือ
ที่สำคัญคือการออกำลังกาย ถ้าเรายังหนุ่มยังสาว ควรจะทำเป็นประจำไม่ควรสูบบุหรี่ เพราะอาจจะช่วยทำให้เกิดหลอดเลือดตีบเร็วขึ้นและมากขึ้น.

ข้อมูลสื่อ

38-003
นิตยสารหมอชาวบ้าน 38
มิถุนายน 2525
โรคน่ารู้
ศ.นพ.อรรถสิทธิ์ เวชชาชีวะ