• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

มะเร็งจากสาเหตุต่างๆ

มะเร็งจากสาเหตุต่างๆ

ตั้งแต่เช้า ออกกำลังกายให้สดชื่น พร้อมเปิดวิทยุ (เมดอินไทยแลนด์) ไปที่คลื่น 864 กิโลเฮิรตซ์ สถานี ปชส.7 รายการ “สุขภาพประจำวัน” เวลา 5.00 น.-5.15 น. ทุกวันจันทร์ถึงเสาร์ และรายการ “หมอชาวบ้าน”เวลา 4.30-5.00 น.ทุกวันเสาร์ครั้งที่แล้ว “คุยกันทางวิทยุ” ได้เสนอเรื่อง “อะฟลาทอกซิน” ซึ่งเป็นตัวการหนึ่งที่ทำให้เกิดมะเร็ง นอกจากอะฟลาทอกซินในถั่วและธัญพืชหลายชนิดแล้ว มะเร็งก็มีสาเหตุที่เกิดอีกมากมาย ซึ่งท่านจะได้ทราบรายละเอียดจากการอธิบายของ ศาสตราจารย์นายแพทย์ไพรัช เทพมงคล จากภาควิชารังสีวิทยา คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล

นพ.วิชนารถ: เขาบอกว่าคนจีนชิบกินน้ำชา และมักจะเป็นก้อนเนื้อหรือมะเร็งตามหลอดคอง่าย เดี๋ยวนี้ผมเห็นคนไทยก็ดื่มกันเยอะเหมือนกัน เรื่องนี้เป็นยังไงครับ อาจารย์ช่วยอธิบายหน่อย

นพ.ไพรัช: ที่เขาพูดว่าคนจีนดื่มชาตอนยังร้อนๆ ผมว่ามันลวกปาก ลวกคอ ลวกหลอดอาหาร ดื่มประจำความร้อนเป็นตัวระคาย นอกจากอะฟลาทอกซินแล้วความร้อนก็เป็นตัวการอันหนึ่งที่ทำให้เกิดมะเร็ง เป็นสารระคายโดยตรง เมื่อซดน้ำชาเข้าไปทุกวัน ก็ทำให้หลอดอาหารโดนดันความร้อนลวกไปวันละน้อย

โดยธรรมชาติของร่างกายก็ย่อมมีการป้องกันตัวเอง ก็สร้างเซลล์ขึ้นมาใหม่เซลล์มันก็หนาตัวขึ้น พอถึงจุดๆ หนึ่งมันควบคุมไม่อยู่ก็กลายเป็นก้อนเนื้องอกในหลอดอาหารกลาย เป็นมะเร็งของหลอดอาหาร เพราะฉะนั้นอย่าคิดว่าน้ำเท่านั้นที่ทำให้เกิดมะเร็ง ผมว่าอะไรที่ร้อนๆ อาจจะซดแกงจืดร้อนๆ หรือว่าต้มยำร้อนๆ ทุกวัน

แล้วประการสำคัญที่สุด คือ สุราโดยเฉพาะชนิดที่ใสแจ๋วเหมือนตาตั๊กแตนจุดไฟลุกพรึบ พวกนั้นมีเปอร์เซ็นต์แอลกอฮอล์สูงมาก ผู้ดื่มมักไม่ชอบผสมโซดาหรือน้ำ ดื่มเข้าไปแอลกอฮอล์จะระคายตลอด ตั้งแต่ริมฝีปากเข้าไปจนถึงกระเพาะอาหาร

บางคนพอดื่มสุรามักจะชอบทำเสียง เพราะว่าพอกลืนไปแล้วเหล้าอีก 3-4 หยดสุดท้ายมันจะถูกไล่กลับมาค้างอยู่ที่ข้างกล่อมเสียง แอ่งนี้เป็นแอ่งที่บุโดยเนื้อเยื่ออาจจะเรียกว่าอ่อนที่สุดในร่างกาย เพราะฉะนั้นเนื้อเยื่อบางๆ มาโดนแอลกอฮอล์หลายสิบเปอร์เซนต์มันจะระคายอยู่ตลอดเวลาก็ทนไม่ได้ ต้องสร้างเซลล์หนาขึ้นมาในที่สุดก็กลายเป็นมะเร็ง อาจจะทั้งกล่องเสียงและหลอดอาหารด้วย

และบุหรี่นอกจากจะเป็นมะเร็งปอดแล้วพอเราสูบแล้วหายใจเอาควันเข้าไปควันบุหรี่จะระคายส่วนต้นของทางเดินหายใจและกล่องเสียง ก็ทำให้เกิดมะเร็งบริเวณนี้ได้

นพ.วิชนารถ: แล้วกาแฟซึ่งคนไทยชอบดื่มกันมากล่ะครับ

นพ.ไพรัช: ถ้าเราไม่ดื่มที่ร้อนมากๆ ก็คงไม่เป็นอันตราย

นพ.วิชนารถ: อาการที่จะเป็นมะเร็งทางหลอดอาหารหรือหลอดเสียงเป็นอย่างไรครับอาจารย์

นพ.ไพรัช: ถ้าสมมติว่าเป็นที่หลอดอาหาร อาการก็เริ่มเจ็บๆ เวลาเรากินข้าวสวยกลืนไปก็เจ็บเป็นลำ อาจจะแถวหน้าอก แต่อาการไม่ชัดเจนผู้ป่วยอาจจะไม่รู้ จะรู้ตอนกลืนข้าวสวยไม่ได้ กลืนไปสักพักก็อาเจียน แต่คนไข้ก็ไม่เดือดร้อนกินข้าวสวยไม่ได้ก็กินข้าวต้ม พอกินข้าวต้มไปสักพักก็กลืนข้าวต้มไม่ได้ ก็หันไปกินโจ๊ก พอตอนหลังกินโจ๊กไม่ได้ต้องกินโอวัลติน มันเริ่มมาจากของแข็งจนถึงของเหลว

สำหรับมะเร็งกล่องเสียง อาการเริ่มแรกจะเจ็บบริเวณลำคอ เจ็บเหมือนเราเป็นต่อมทอนซิลอักเสบ ถ้าทิ้งไว้ไม่รักษาเสียงจะเริ่มแหบ หรือบางรายอาจจะไอเป็นเลือด หรือมีก้อนต่อมน้ำเหลืองที่คอโต

ถ้าจะพูดกันผมอยากจะใช้คำว่า พวกเรากำลังลอยคออยู่ในทะเลของการก่อมะเร็ง เพราะเมื่อเร็วๆ นี้ ทางองค์การสหประชาชาติได้รายงานว่ามีสารทำให้เกิดมะเร็งถึง 480 ชนิด และสารเหล่านี้อยู่รอบๆ ตัวเรา ส่วนใหญ่ปนอยู่ในธรรมชาติ ในรูปของอาหาร แต่ท่านอย่ากลัวจนเกินไป อะไรก็ตามถ้าสงสัยเลี่ยงได้ก็เลี่ยง

นพ.วิชนารถ: นอกจากหลีกเลี่ยงแล้ว อาจารย์มีอะไรมาแนะนำเกี่ยวกับการป้องกันโรคมะเร็งในชีวิตประจำวันบ้างครับ

นพ.ไพรัช: ผมว่ามะเร็งเป็นโรคที่ป้องกันได้ ถ้าหากประชาชนมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงก็ย่อมจะมีภูมิต้านทานเชื้อโรคดีกว่าคนอื่น ผมอยากให้ประชาชนหันมาสนใจ ศึกษา ฟังข่าวสารเกี่ยวกับมะเร็ง บางคนกลัวมากหันหลังหนีเลย อันนั้นไม่ถูก เราต้องหันมาฟังว่าอะไรจะทำให้เกิดได้ อาการเริ่มแรกเป็นอย่างไร เราจะได้รู้ หันมาสังเกตตัวเอง และหาวิธีป้องกัน

เพราะฉะนั้นโรคนี้ไม่ใช่โรคที่น่ากลัว เป็นโรคที่รักษาได้ ป้องกันได้ พยายามรักษาสุขภาพร่างกายของท่านให้แข็งแรงไว้เป็นดีที่สุด

นพ.วิชานารถ: มีอาการที่ทำให้เราสงสัยว่าเราจะเป็นมะเร็งหรือเปล่า และควรไปพบหมอได้หรือยัง

นพ.ไพรัช: เราเรียกสัญญาณอันตราย 7 ประการ คือ

1. การเป็นแผลไม่รู้จักหายปกติสัก 7 วันหรือ 15 วันก็ควรจะหาย ไม่ว่าจะรักษาหรือไม่ เมื่อไม่หายอาจจะเป็นแผลมะเร็งได้

2. การมีก้อนตุ่ม ไต ในตำแหน่งที่ไม่ควรจะเป็น เช่น บริเวณเต้านม บริเวณแขนขา

3. การที่มีของไหล มีของผิดปกติออกมาจากทวารทั้ง 9 หู ตา คอ จมูก หัวนม สะดือ ทวารหนัก ทวารเบา ช่องคลอด ท่อปัสสาวะ ตัวอย่าง หัวนม ถ้าคนที่ไม่ได้กำลังเลี้ยงบุตรก็ไม่ควรมีน้ำอะไรออกมา หากที่น้ำเลือดน้ำเหลืองออกมาควรจะสงสัย หรือในหู ถ้าเราไม่ได้เป็นหูน้ำหนวก แล้วเกิดมีน้ำเหลืองออกมาก็ควรจะรีบปรึกษาแพทย์

4. การที่มีเสียงแหบหรือมีอาการไอเรื้อรัง

5. มีการเปลี่ยนแปลงของระบบทางเดินหายใจ เริ่มตั้งแต่กลืนอาหารไม่ลง ท้องอืด มีการเปลี่ยนแปลงของระบบขับถ่าย ท้องผูก 3-4 วัน แล้วก็ท้องเสียสักวันสองวัน ท้องผูกสลับท้องเดิน

6. มีความผิดปกติของประจำเดือนในสตรี เช่น มีประจำเดือนกระปริบกระปรอย

7. มีการเปลี่ยนแปลงของหูด ไฝ ปาน ที่มีมาก่อนแล้ว

สัญญาณอันตราย 7 ประการนี้ เตือนว่าอาจะเป็นมะเร็งก็ได้ แต่ไม่ใช่ก็ได้ เพราะฉะนั้นใครที่มีอาการอย่างนี้ก็อย่ากังวล ทางที่ดีรีบไปปรึกษาแพทย์

นพ.วิชนารถ: ถ้าอยากจะตรวจมะเร็งมีสถานที่ตรวจโดยเฉพาะที่ไหนครับ

นพ.ไพรัช: ปัจจุบันวงการแพทย์เราเจริญก้าวหน้า โรงพยาบาลใหญ่ๆ ทุกแห่งทั้งในกรุงเทพฯหรือโรงพยาบาลเอกชนก็ตรวจได้

นพ.วิชนารถ: อาจารย์มีอะไรจะแนะนำอีกสักหน่อยไหมครับ

นพ.ไพรัช: ผมอยากจะเรียนว่า ขออย่าได้กลัวโรคมะเร็งจนเกินไป เพราะเดี๋ยวนี้มีโรคที่น่ากลัวกว่า คือโรคเอดส์ แต่อย่างไรก็ตาม โรคมะเร็งป้องกันได้และรักษาได้ ทุกวันนี้มีคนที่หายจากโรคมะเร็งเป็นจำนวนมากมาย แต่โดยความรู้สึกของสังคม โรคนี้คนที่เป็นถึงแม้จะหายแล้ว ก็มักจะปิดกัน เพราะกลัวคนจะรังเกียจ ความจริงโรคมะเร็งก็ไม่ใช่โรคติดต่อไม่ใช่โรคพันธุกรรม

ผมอยากให้ท่านสนใจเกี่ยวกับโรคมะเร็ง แล้วท่านจะมีชีวิตที่ปลอดภัยจากโรคอันน่าสะพรึงกลัวนี้

ข้อมูลสื่อ

80-007
นิตยสารหมอชาวบ้าน 80
ธันวาคม 2528
นพ.วิชนารถ เพรชบุตร