• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

ก้นคัน...คันก้น


ชื่อเรื่องฟังดูจั๊กจี้ แต่ปัญหาเรื่องคันก้นนี้ ว่ากันจริง ๆ แล้วเป็นเรื่องที่พบบ่อยมากทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เด็กบางคนคันก้นจนร้องกวนกลางคืน ผู้ใหญ่บางคนคันจนนอนไม่หลับก็มีหรือไม่ก็ (แอบ) เกาอยู่เรื่อยจนเสียบุคคลิกไป เพราะมีคนดันไปเห็นเข้าตอนเกา

มีหมออังกฤษคนหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องโรคของก้นหรือทวารหนัก เขียนบทความเรื่องคันก้นในผู้ใหญ่ซึ่งมีเรื่องราวน่าสนใจบางตอนดังนี้

ผิวหนังรอบๆทวารหนักของผู้ใหญ่ต่างกับของเด็กเล็กมาก ในผู้หญิงที่มีลูกหลายคนฝีเย็บฉีกขาดหลายครั้ง จะทำให้บริเวณนั้นย่นๆ หรือคนเราพออายุมากเข้าผิวหนังมักจะเหี่ยวย่นเป็นธรรมดาผิวหนังตรงรอบก้นก็เลยเหี่ยวย่นกับเขาด้วยเวลาถ่ายอุจจาระ ถ้าเช็ดล้างไม่สะอาดอุจจาระอาจติดอยู่ตามซอกตามหลืบของผิวหนัง ทำให้ผิวหนังหยาบเกิดอักเสบขึ้นได้

บางคนขี้ร้อน มีเหงื่อที่ง่ามก้นมาก ยิ่งถ้าใส่กางเกงรัดก้น(อย่างกางเกงยีนส์ เป็นต้น) หรือทำงานใน
ที่ร้อนมาก หรือนั่งบนเก้าอี้พลาสติคนาน ๆ ทำให้อบมากขึ้นแถวก้นพวกนี้เป็นสาเหตุให้คันก้นได้ทั้งนั้นกางเกงในก็อาจมีส่วนด้วย ถ้าใส่กางเกงในชนิดที่ไม่ค่อยมีรูระบายอากาศเพียงพอ หรือกางเกงใน
ชนิดไนลอนที่รัดแนบสนิทเนื้อมากเกินไป ก็มีส่วนทำให้คันก้นได้ด้วย

โรคที่ทำให้เกิดอาการคันก้นได้มีหลายโรค เช่น เบาหวาน พยาธิในลำไส้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพยาธิเส้นด้าย เห็นจะนำหน้าเรื่องนี้เด็กเล็ก ๆ บางคนคันก้นมากตอนกลางคืน เพราะพยาธิพวกนี้แห่กันออกมาที่ทวารหนักเพื่อสูดอากาศภายนอกมากตอนนั้น หิด ซึ่งใคร ๆ ก็รู้ว่ามันคันแค่ไหนหิดมาเป็นที่ก้นได้เหมือนกัน เชื้อราที่ก้น

โรคอื่นๆ จิปาถะก็มี เริมที่ก้น (มักมีที่อวัยวะเพศด้วย) อย่างหนึ่ง หูดก็อีกโรคหนึ่ง โรคแพ้ของผิวหนังที่ก้นตลอดจนตกขาว หรือปัสสาวะเล็ดบ่อยหรือท้องเสียมาก ๆ ก็ทำให้คันก้นได้มากเช่นกัน บางคนเป็นโรคประสาทบ่นคันก้นทั้งวันทั้งคืนแต่ตรวจไม่พบอะไรเลย อย่างนี้ก็มีเหมือนกัน

อันสุดท้าย คือ คนที่กินยาระบายประจำ มักจะคันก้นบ่อยกว่าคนที่ไม่กินยาพวกนี้ เขาก็ไม่รู้ว่าเพราะ
อะไรเหมือนกัน แต่อย่างหนึ่งคือ ถ้ากินยาระบายประเภทน้ำมัน เช่น พาราฟินอย่างน้ำ ยาพวกนี้หลังจากกินเข้าไปพอยาลงไปถึงลำไส้ใหญ่ เนื่องจากเป็นยาชนิดที่เป็นน้ำมันไม่ดูดซึมเข้าร่างกายบางทีมันไหลออกมาเยิ้มๆ ที่ปากทวารหนัก ทำให้คันก้นได้

วิธีรักษาอาการคันก้นของคนทั่วไป ก็มักไปซื้อครีมมาทากันเอง ครีมพวกนี้มักจะมียาสเตียรอยด์ผสมกับยาฆ่าเชื้อโรคและยาชาเฉพาะที่ และเขามักทำเป็นครีมมัน ๆยาพวกนี้ มีผลเสียเหมือนกัน คือ ทำให้ผิวหนังเสียความต้านทานตามธรรมชาติไป อาจติดเชื้อราได้ง่าย หรือบางคนเลยแพ้ตัวยาชาเฉพาะที่ หรือตัวยาฆ่าเชื้อโรคที่ผสมเข้าไปด้วย ยิ่งทาก็ยิ่งทำให้คันหนักเข้าไปอีก พวกนี้เป็นมากๆ จนต้องไปหาหมอผิวหนัง หรือผู้เชี่ยวชาญเรื่องโรคของทวารหนัก มักจะเป็นคนไข้ที่ใช้ยาพวกนี้มาแล้วกันหลาย ๆอย่าง

วิธีรักษา สิ่งแรกที่เขาแนะนำ คือหยุดยาทั้งหมดที่ใช้อยู่ก่อน พยายามรักษาผิวหนังรอบก้นให้สะอาดและไม่ใช้ชอกช้ำ หรือเป็นแผลถลอก แต่ไม่ใช่ให้ขัดล้างบริเวณนั้นบ่อยจนเกินไป จะทำให้คันก้นมากขึ้นไปอีก พยายามให้แถวนั้นแห้งเข้าไว้ อย่าให้ชื้นแฉะ
วิธีรักษาความสะอาดของก้น มีเรื่องเล่าว่า เหตุที่คนอังกฤษส่วนใหญ่มักจะดูไม่ค่อยมีความสุขนัก ก็
เพราะคนอังกฤษใช้กระดาษเช็ดก้นหลังถ่ายอุจจาระ ทำให้คันก้นประจำ ส่วนคนฝรั่งเศสท่าทางเป็น
คนมีความสุขดี (เพราะไม่คันก้น?) เพราะทุกคนล้างก้นหลังถ่ายอุจจาระกันทุกครั้ง การรักษาความ
สะอาดหลังถ่ายอุจจาระที่ดีที่สุด ก็คงต้องใช้น้ำเข้าช่วย คือ ถ้าไม่ล้างก้น ก็คงต้องใช้น้ำเข้าช่วย คือถ้า
ไม่ล้างก้น ก็ควรใช้กระดาษแห้งเช็ดก้นเสียทีหนึ่งก่อน แล้วค่อยเอากระดาษชุบน้ำให้เปียกเช็ดอีกที
นอกจากจะช่วยเช็ดล้างเศษอุจจาระออกหมดแล้ว ยังทำให้ผิวหนังบริเวณนั้นไม่ชอกช้ำอีกด้วย

พวกที่มีปัญหามาก คือ คุณย่า คุณยายที่มีลูกหลายคนเมื่อสมัยยังสาว ๆ พอแก่ตัวเข้ากล้ามเนื้อหูรูดที่
ทวารหนักมักจะรูดไม่ค่อยอยู่ อุจจาระเล็ดออกมาได้บ่อย บางคนแบ่งอะไรนิด ออกแรงอะไรหน่อยไม่ได้เลย ไหลออกมาเปื้อนทุกที ถ้าไม่รักษาที่สาเหตุก็คงไม่หายคันก้น วิธีรักษาก็อาจใช้ไฟฟ้ากระตุ้นกล้ามเนื้อหูรูด หรือใช้เครื่องมือกระตุ้นอย่างอื่น หรือจะกระตุ้นกล้ามเนื้อนี้ด้วยตัวเองก็ได้ โดยใช้วิธีออกกำลังกาย แต่ออกเฉพาะที่ตรงทวารหนักนี้ คือ ต้องหมั่นขมิบก้นบ่อย ๆ เพื่อกระตุ้นกล้ามเนื้อหูรูดตรงทวารหนักให้แข็งแรง อุจจาระเล็ดอาจจะหายไปได้ แล้วก็คงหายคันก้นด้วย

วิธีรักษาอาการคันก้นอีกอย่างหนึ่ง นอกจากรักษาความสะอาดอย่างที่ว่าแล้ว ก็คือ บริเวณทวารหนัก
และอาณาบริเวณรอบ ๆต้องแห้ง ห้ามชื้นแฉะเด็ดขาด วิธีที่ดีที่สุด คือ แก้ผ้ามันเสียเลยเพราะถ้าไม่เสื้อผ้าเสียอย่าง ผิวหนังคงไม่ค่อยมีที่ไหนเปียกชื้นอยู่นาน ๆ แต่วิธีนี้เห็นจะทำไม่ได้ เอาแค่เลิกนุ่งกางเกงในก็ลำบาก ก็คงได้ว่าพยายามนุ่งกางเกงในชนิดที่เนื้อผ้ามีรูระบายอากาศมากๆ หน่อย แล้วก็อย่านุ่งกางเกงคับจนเกินไป


มีคนเล่ากันอีกว่า ผู้ชายชาวสก็อตแต่ก่อนไม่ค่อยเป็นโรคคันก้นกันเท่าไร เพราะนุ่งกระโปรงสก็อต
ลมคงโกรกดี แต่อันนี้ไม่มีการศึกษายืนยันแน่นอน วิธีทำให้ผิวหนังที่รอบก้นแห้งดีอยู่เสมอสมัยโบราณ ชาวอียิปต์เขาใช้ใบไม้ตระกูลหนึ่งที่มีใบยาวๆ (เช่นสีเสียด ส้มป่อย ชะอม กระถิน กำยาน เป็นต้น แต่ไม่รู้ว่าใช้รักษาอย่างไร เข้าใจว่าคงเอามาแช่น้ำแล้วเอาก้นที่เป็นโรคแช่ลงไป เพื่อช่วยให้หายเร็วขึ้น และผิวหนังหลังจากแช่คงจะแห้งดีกว่าเดิม)

ตอนหลังๆ มีคนใช้ซิลเวอร์ไนเตรด 0.05% เป็นน้ำยาใช้ก็ได้ผลดี แต่ยุ่งยากหน่อยเพราะต้องทำขึ้น
ใหม่ ๆ แล้วใช้เลยการรักษาอย่างอื่นก็แล้วแต่สาเหตุที่พบ เช่น เบาหวาน เชื้อโรคหิดราต่าง ๆ เป็นต้น

(British Medical Journal 16 July 1983)
 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ข้อมูลสื่อ

62-003
นิตยสารหมอชาวบ้าน 62
มิถุนายน 2527
ผศ.นพ.สาธิต วรรณแสง