• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

อาการปากแห้งในผู้สูงอายุ

 

วิธีบรรเทาอาการปากแห้งทำได้ด้วยการพ่นฝอยน้ำลายเทียมเข้าไปในปาก เมื่อจำเป็นบางกรณีอาจให้คนไข้เคี้ยวหมากฝรั่ง เพื่อให้ปากมีความชุ่มชื้น แต่การเคี้ยวหมากฝรั่งอย่างต่อเนื่อง อาจทำให้ปวดขากรรไกร

ผู้ที่ล่วงเข้าสู่วัยชราจำนวนไม่น้อยมักจะมีสิ่งหนึ่งน้อยไปจากร่างกาย นั่นคือ น้ำลาย ซึ่งเป็นเหตุให้เกิดอาการปากแห้ง ผู้สูงอายุที่มีอาการปากแห้ง (xerostomia) จะรู้สึกว่าในปากแห้งผากคล้ายอมสำลีไว้ การกินอาหาร การกลืนอาหาร แม้แต่การพูดจะเป็นไปด้วยความลำบาก การที่ปากแห้ง จะทำให้เนื้อในปากแตกและง่ายต่อการติดเชื้อ เป็นเหตุให้สุขภาพโดยรวมของช่องปากเสื่อมลง

โรชอน มัลลิแกน รองศาสตราจารย์แห่งคณะทันตแพทยศาสตร์และหัวหน้าภาควิชาเวชศาสตร์วัยชรา และทันตแพทยศาสตร์สำหรับผู้ป่วยพิเศษ แห่งมหาวิทยาลัยเซาเทิร์นแคลิฟอร์เนีย เปิดเผยว่า “อาการปากแห้งเป็นกันมากที่สุดในผู้สูงอายุ (ชาวอเมริกัน) โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่กำลังเจ็บป่วย และมีอาการอ่อนเพลีย”  สาเหตุสำคัญที่ทำให้ผู้สูงอายุ มีอาการปากแห้ง เกิดจากการใช้ยารักษาโรคประมาณ 250-300 ชนิด ซึ่งล้วนก่อให้เกิดผลข้างเคียงเป็นอาการปากแห้ง ยาดังกล่าวก็เช่นยาลดความดันเลือดสูง ยาขับปัสสาวะ ยาต้านอาการซึมเศร้า ยารักษาข้ออักเสบและแผลเปื่อยบางชนิด ตลอดจนยาอื่น ๆ ที่แพทย์มักสั่งใช้กับคนไข้สูงอายุ รองศาสตราจารย์มัลลิแกนชี้ว่า “ประมาณร้อยละ 86 ของผู้มีอายุ 65 ปีขึ้นไป จะมีโรคเรื้อรังประจำตัวอย่างน้อยหนึ่งโรค และหมออาจจะให้กินยา 1 ถึง 3 ชนิดต่อวัน จึงไม่น่าแปลกใจที่ผู้สูงอายุเหล่านี้จะมีอาการปากแห้งกันมาก”

วิธีบรรเทาอาการปากแห้ง ทำได้ด้วยการพ่นฝอยน้ำลายเทียมเข้าไปในปากเมื่อจำเป็น ซึ่งจะทำให้เนื้อในช่องปากถูกเคลือบเมือก ในบางกรณีก็อาจให้คนไข้เคี้ยวหมากฝรั่งเพื่อให้ปากมีความชุ่มชื้น แต่ข้อเสียของการเคี้ยวหมากฝรั่งอย่างต่อเนื่องก็คือ ทำให้ผู้สูงอายุปวดขากรรไกร นอกจากนี้ก็อาจให้อมลูกกวาดแข็ง ๆ ที่ไม่มีน้ำตาลเป็นส่วนประกอบ เพราะน้ำตาลจะทำให้ฟันผุ
รองศาสตราจารย์มัลลิแกน กล่าวต่อไปว่า “วิธีที่ง่ายและประหยัดที่สุดวิธีหนึ่งก็คือ การดื่มน้ำให้มาก ๆ ด้วยเหตุที่ผู้สูงอายุมักจะมีความรู้สึกกระหายน้ำน้ำลดน้อยลง ดังนั้นร่างกายของผู้สูงอายุจึงขาดน้ำเป็นปกติอยู่แล้ว การให้ดื่มน้ำมากขึ้นจะช่วยให้เซลล์ของร่างกายได้รับน้ำเพิ่มขึ้น ซึ่งจะทำให้ช่องปากมีความชุ่มชื้น”

แต่วิธีแก้อาการปากแห้งส่วนใหญ่มีข้อด้วยคือ เป็นเพียงการบรรเทาอาการ แต่ไม่ได้ยับยั้งกระบวนการทำลายในช่องปาก รองศาสตราจารย์มัลลิแกนกล่าวถึงความสำคัญของน้ำลายต่อสุขภาพว่า “น้ำลายมิใช่สิ่งปฏิกูลของร่างกาย แต่เป็นสารที่สำคัญแก่สุขภาพ น้ำลายมีคุณสมบัติต่อต้านจุลชีพ ซึ่งจะกำจัดแบคทีเรียออกไปจากร่างกายน้ำลายเป็นตัวรักษาสมดุลความเป็นกรด-ด่างภายในช่องปาก ช่วยทำความสะอาดฟัน ในน้ำลายมีสารที่จะเติมแร่ธาตุให้กับฟัน และประโยชน์ที่เห็นได้ชัด ๆ ก็คือ เป็นน้ำหล่อลื่น ขณะเรากินอาหารและเปล่งเสียงพูด”

ฉะนั้นเป้าหมายของนักวิจัยก็คือ จะต้องหาวิธีมายับยั้งกระบวนการทำลายในช่องปากจากการขาดน้ำลายให้ได้อย่างสมบูรณ์
(จาก USA Today เดือนกุมภาพันธ์ 1988 หน้า 2-3)

 

ข้อมูลสื่อ

109-023
นิตยสารหมอชาวบ้าน 109
พฤษภาคม 2531